โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดกิจกรรมวันเนื้องอกในสมองโลกปี 2568 ภายใต้แนวคิด SMART BRAIN SURGERY “ผ่าตัดสมองแม่นยำด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ”

0
71

โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดกิจกรรมวันเนื้องอกในสมองโลกปี 2568 ภายใต้แนวคิด SMART BRAIN SURGERY “ผ่าตัดสมองแม่นยำด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ”

“เนื้องอกในสมอง” เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ภายในสมอง การเจริญเติบโตเหล่านี้อาจเป็นมะเร็งหรือไม่ใช่มะเร็งก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเนื้องอกชนิดใด ก็สามารถทำให้เกิดอาการทางระบบประสาทได้หลากหลายโดยหากมีรอยโรคบริเวณนี้แล้ว อาจทำให้เกิดความเสียหายที่รุนแรง เช่น พิการหรืออาจเสียชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา ทั้งนี้ เพื่อสร้างความตระหนักและให้ความรู้เกี่ยวกับเนื้องอกในสมอง โดยศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงได้จัดกิจกรรมบริการสุขภาพด้านกลุ่มโรคสมองและระบบประสาท และบริการทางการแพทย์นวัตกรรมการผ่าตัดเนื้องอกในสมอง เนื่องในวันเนื้องอกในสมองโลก () 2568 ภายใต้แนวคิด SMART BRAIN SURGERY “ผ่าตัดสมองแม่นยำด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ” โดยมี รศ.นพ.สุรศักดิ์  ลีลาอุดมลิปิ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยทีมศัลยแพทย์และอายุรแพทย์เฉพาะทางโรคสมองและระบบประสาท และวิสัญญีแพทย์โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ นำโดย ผศ.ป.นพ.ปโยธร เดชะรินทร์ รักษาการหัวหน้างานศัลยกรรมทั่วไป แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมระบบประสาทและรังสีร่วมรักษาระบบประสาท  นพ.พงศกร พงศาพาส แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมระบบประสาท พญ.อาทิตา ชูหลำ แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรมประสาทวิทยา พญ.นิศารัตน์ อาชวาคม วิสัญญีแพทย์เฉพาะทางสำหรับผู้ป่วยโรคทางระบบประสาท และคุณณัฏพล บุญเรือง พยาบาลวิชาชีพเฉพาะทางสาขาการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง หอผู้ป่วยวิกฤตรวม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุม Convention Hall  ชั้น 6 อาคารกรมพระศรีสวางควัฒน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยมีหมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ เป็นผู้ดำเนินรายการ วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2568

รศ.นพ.สุรศักดิ์  ลีลาอุดมลิปิ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์  กล่าวว่า “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในฐานะที่เป็นสถาบันการศึกษาวิจัยและสถาบันการแพทย์ ซึ่งมีพันธกิจในด้านบริการวิชาการและวิชาชีพด้านสุขภาพแก่สังคม โดยมีโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นส่วนงานหลักในการให้บริการรักษาพยาบาลแก่ประชาชน มุ่งส่งเสริมความรู้และการดูแลเชิงป้องกัน เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้เรื่องโรคเนื้องอกในสมอง ซึ่งถือเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง แต่มักได้รับความสนใจน้อยกว่าเมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่น Brain Tumor Day ถือเป็นโอกาสในการให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับสัญญาณและอาการของเนื้องอกในสมอง รวมถึงความท้าทายที่ผู้ป่วยที่ต้องเผชิญต่อโรคนี้ และการเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานอย่างเท่าเทียมตามพระปณิธานของ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานผู้ทรงจัดตั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์”

ผศ.ป.นพ.ปโยธร เดชะรินทร์ รักษาการหัวหน้างานศัลยกรรมทั่วไป แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมระบบประสาทและรังสีร่วมรักษาระบบประสาท โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า “เนื้องอกในสมองถือเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง แต่มักได้รับความสนใจน้อยกว่า เมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่น กิจกรรม Brain Tumor Day ถือเป็นโอกาสในการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับสัญญาณและอาการของเนื้องอกในสมอง รวมถึงความท้าทายที่ผู้ป่วยและคนที่รักต้องเผชิญ เนื้องอกในสมองคือการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ภายในสมอง การเจริญเติบโตเหล่านี้อาจเป็นมะเร็ง (ร้ายแรง) หรือไม่ใช่มะเร็ง (ไม่ร้ายแรง) เนื้องอกในสมองที่ร้ายแรงนั้นจัดเป็นเนื้องอกปฐมภูมิซึ่งมีต้นกำเนิดภายในสมอง หรือเนื้องอกทุติยภูมิซึ่งแพร่กระจายจากมะเร็งไปยังส่วนอื่นของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้องอกชนิดใด เนื้องอกในสมองก็สามารถทำให้เกิดอาการทางระบบประสาทได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของเนื้องอก ซึ่งผลกระทบของเนื้องอกในสมองมีผลกระทบไกลเกินกว่าตัวผู้ป่วยแต่ละคน ครอบครัว ผู้ดูแล และชุมชนโดยรวมได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากความท้าทายทางกายภาพ อารมณ์

เนื้องอกในสมอง แบ่งตามตำแหน่ง พฤติกรรม และประเภทของเซลล์ที่เกี่ยวข้อง ประเภทหลักๆ ได้แก่เนื้องอกในสมองชนิด Gliomas เนื้องอกในสมองชนิด Gliomas เกิดจากเซลล์เกลียที่คอยสนับสนุนและหล่อเลี้ยงเซลล์ประสาท โดยเป็นเนื้องอกในสมองที่พบได้บ่อยที่สุด เนื้องอกเหล่านี้ได้แก่ เนื้องอกในสมองชนิด Astrocytoma เนื้องอกในสมองชนิด Oligodendroglioma และเนื้องอกในสมองชนิด Glioblastoma  เนื้องอกเมนิงจิโอมา เนื้องอกเมนิงจิโอมามีต้นกำเนิดจากเยื่อหุ้มสมอง ซึ่งเป็นเยื่อหุ้มป้องกันที่ล้อมรอบสมองและไขสันหลัง มักเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง  เนื้องอกต่อมใต้สมอง เนื้องอกเหล่านี้เกิดขึ้นในต่อมใต้สมอง ซึ่งเป็นต่อมขนาดเล็กที่ฐานของสมอง สามารถส่งผลต่อระดับฮอร์โมนและการทำงานของร่างกายได้ Medulloblastoma เนื้องอกชนิดนี้มักพบในเด็ก โดยจะพัฒนาขึ้นในสมองน้อย ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับการประสานงานและการทรงตัว เนื้องอก Schwann  หรือที่เรียกอีกอย่างว่าเนื้องอกเส้นประสาทหู เนื้องอกเหล่านี้เกิดจากเซลล์ Schwann ที่ห่อหุ้มเส้นประสาท เซลล์เหล่านี้มักส่งผลต่อเส้นประสาทที่รับผิดชอบการได้ยินและการทรงตัว”

พญ.อาทิตา ชูหลำ แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรมประสาทวิทยา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวในหัวข้อ “สัญญาณเงียบ:ภาระกิจค้นหาความผิดปกติในสมอง” ว่า “โรคเนื้องอกสมอง เกิดจากเซลล์ที่เจริญเติบโตอย่างผิดปกติในสมอง ซึ่งเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของสมอง  โดยอาจเป็นเนื้องอกชนิดธรรมดาหรือชนิดที่เป็นมะเร็งก็ได้ สาเหตุในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัด แต่อาจมีปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรค เช่น การได้รับสารเคมี สารกัมมันตภาพรังสี การฉายแสง การอักเสบหรือการติดเชื้อบางอย่าง รวมถึงการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ประเภทของเนื้องอกสมอง โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เนื้องอกสมองที่มาจากเซลล์ตั้งต้นของสมองเอง ซึ่งมีทั้งชนิดก้อนเนื้องอกสมองธรรมดา และก้อนเนื้อร้ายหรือมะเร็งสมอง กับเนื้องอกสมองที่แพร่กระจายมาจากเซลล์มะเร็งที่อื่นในร่างกาย ส่วนอาการของเนื้องอกสมอง อาจแสดงอาการได้หลากหลายรวมถึงอาจไม่มีอาการแสดง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเนื้องอก ขนาดของเนื้องอก และอัตราเร็วในการเติบโตของเนื้องอก

โดยอาการแสดงที่พบบ่อย คืออาการที่เกิดจากภาวะสมองบวมและความดันในโพรงสมองสูง เช่น อาการปวดศีรษะที่เพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ อาการชัก อาการคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง อาการที่เกิดจากตำแหน่งของก้อนที่โดนกดเบียด เช่น อาการอ่อนแรง อาการชา ของร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง หรืออาการการทำงานของเส้นประสาทสมองบางเส้นทำงานผิดปกติ  ส่วนอาการปวดศีรษะแบบไหนที่ควรสงสัยโรคเนื้องอกในสมอง ได้แก่ อาการปวดศีรษะที่เปลี่ยนรูปแบบไปจากเดิม ทั้งความถี่ในการปวดและความรุนแรงในการปวด ไม่เคยหายสนิท ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบเดิม อาการปวดศีรษะตอนกลางคืนที่ทำให้ตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับ อาการปวดศีรษะร่วมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน ง่วงซึม ระดับความรู้สึกตัว อาการปวดศีรษะร่วมกับอาการชัก ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีประวัติชักมาก่อน อาการปวดศีรษะร่วมกับมีอาการผิดปกติอื่นของหน้าที่สมอง เช่น ภาพซ้อน ตามัว เดินเซ ทรงตัวไม่ได้ อ่อนแรงแขนขา พูดสื่อสารไม่คล่องหรือสับสนสื่อสารไม่ตรงคำถาม ความจำแย่ลง พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง อาการปวดศีรษะเรื้อรังในผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือผู้ที่มีโรคมะเร็งที่อวัยวะอื่นของร่างกาย อย่างไรก็ตามการวินิจฉัยโรคเนื้องอกสมองต้องอาศัยประวัติ การตรวจร่างกายทางระบบประสาท รวมถึงการตรวจเพิ่มเติมทางภาพถ่ายรังสี เช่น การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง เพื่อช่วยให้แพทย์เห็นภาพของก้อนเนื้องอกในสมองประกอบการวินิจฉัยและพิจารณาการรักษาต่อไป  โดยมีแนวทางการดูแลตัวเองควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี สารกัมมันตรังสี โดยไม่จำเป็น และหากมีอาการผิดปกติทางสมองควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้องและรวดเร็ว”

หัวข้อ  “ผ่าตัดแม่นยำด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ก้าวข้ามขีดจำกัดศาสตร์การรักษาโรคเนื้องอกในสมอง” ผศ.ป.นพ.ปโยธร เดชะรินทร์ รักษาการหัวหน้างานศัลยกรรมทั่วไปฯ เปิดเผยถึง อัตราการเกิดโรคเนื้องอกในสมองและเทคโนโลยีอัจฉริยะของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ว่า “โรคเนื้องอกในสมองโดยทั่วไปแล้ว อัตราการเกิดของเนื้องอกสมองหรือมะเร็งสมอง มีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าเป็นชนิดใด ทั้งนี้โรคมะเร็งของสมอง จริงๆ แล้วมีอัตราการเกิดที่ค่อนข้างต่ำ พบได้ตลอดช่วงอายุ น้อยกว่า 1% ของมะเร็งสมองทั้งหมด หรือ 5.57 ต่อ 100,000 คนของประชากร ในกลุ่มที่เป็นมะเร็งจากเซลล์สมองเองโดยตรง อย่างไรก็ดีถึงแม้โรคเนื้องอกหรือมะเร็งสมอง มีอัตราการเกิดต่ำ แต่เนื่องจากอยู่ที่บริเวณควบคุมการทำงานที่สำคัญต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนั้น หากมีรอยโรคบริเวณนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายที่รุนแรง ได้ เช่น พิการ หรือเสียชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที โดยอายุที่พบได้บ่อยคือกลุ่มที่มีอายุมากขึ้นหรือผู้สูงอายุ แต่ทั้งนี้ก็พบได้ในเด็กและวัยรุ่นเช่นเดียวกันขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้องอกสมอง หรือมะเร็งสมอง เนื้องอกสมองที่พบได้บ่อยที่สุด คือ เนื้องอกของเยื่อหุ้มสมอง หรือที่เราเรียกว่า meningioma โดยเนื้องอกชนิดนี้จะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเล็กน้อย ส่วนมะเร็งสมองที่พบได้บ่อยที่สุด คือ มะเร็งจากการกระจายมาจากบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม

ปัจจุบัน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะตัวใหม่ล่าสุดเข้ามาช่วยให้การผ่าตัดเนื้องอกสมองมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น   คือ

1.เครื่องเอกซเรย์ความละเอียดสูงแบบ 2 ระนาบ ใช้ในการวินิจฉัยและรักษาโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดของระบบประสาท รวมทั้งหลอดเลือดที่บริเวณอื่นของร่างกาย

2.กล้องผ่าตัดกำลังขยายสูง ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้ นับเป็นกล้องผ่าตัดกำลังขยายสูงรุ่นใหม่ล่าสุดของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์และเป็นเครื่องแรกของประเทศไทย สามารถใช้ในการผ่าตัดโรคทางสมองได้หลายประเภทโดยเฉพาะโรคที่ต้องการความละเอียดสูงและหรือมีความซับซ้อนของกายวิภาคสูง

  1. อุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีภายในห้องผ่าตัด อาทิ เครื่องตรวจวัดเส้นประสาทหรือระบบประสาท เครื่องอัลตราซาวด์ ที่ใช้ในการดูดสลายเนื้องอกหรือมะเร็งของสมอง เครื่องนำวิถี (เนวิเกเตอร์) สามารถช่วยในการระบุตำแหน่งของเนื้องอกสมองหรือรอยโรคทางระบบประสาทต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ เปรียบเสมือน GPS ของรถยนต์ นอกจากนี้ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ยังมีอุปกรณ์สำหรับช่วยผ่าตัดอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ดีที่สุด”

ด้าน นพ.พงศกร พงศาพาส แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมระบบประสาท กล่าวว่า “การฟื้นตัวและการปรับตัวของผู้ป่วย ในฐานะแพทย์คิดว่าหลังผ่าตัดเรื่องที่ยากไม่ใช่การดูแลแผลผ่าตัด เพราะใช้เวลาในการรักษาไม่เกิน 2 สัปดาห์แผลก็หายเป็นปกติ แต่ในคนไข้เนื้องอกสมองบางส่วนจะมีภาวะการทำงานสมองไม่หายเป็นปกติ อาจมีอาการอ่อนแรง ช่วยเหลือตัวเองได้ไม่เต็มที่ ในส่วนนี้ต้องอาศัย 3 ส่วน คือ ความตั้งใจของผู้ป่วยในการทำกายภาพ การช่วยเหลือให้กำลังใจ และการดูแลของญาติ ทางทีมการพยาบาลที่ให้ยา และนัดติดตามเพื่อพัฒนาการฟื้นตัวในปกติได้อย่างเหมาะสม  ซึ่งสิ่งที่ท้าทายที่สุดในการรับมือกับเนื้องอกในสมอง คือ ความคาดหวังของผลลัพธ์การรักษา เพราะไม่ว่าจะเป็นเนื้องอกชนิดไหน ทั้งผู้ป่วย ญาติ และทีมแพทย์และพยาบาล ต้องการให้ผู้ป่วยหายดีจากโรคและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทาย ทั้งการพัฒนาฝีมือ เครื่องมือ และเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดสำหรับคนไข้ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากต้องมารักษาเนื้องอกสมอง แต่ถ้าจะรักษาก็ต้องได้รับการรักษาให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด”

หัวข้อ “เบื้องหลังความสำเร็จ:วิสัญญีกับการผ่าตัดเนื้องอกสมอง” โดย พญ.นิศารัตน์ อาชวาคม วิสัญญีแพทย์เฉพาะทางสำหรับผู้ป่วยโรคทางระบบประสาท โรงพยาบาลจุฬาภรณ์  เปิดเผยถึง บทบาทวิสัญญีแพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาท โดยจะมีหน้าที่หลักในการดูแลผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดทางระบบประสาท เช่น สมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาท ซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดที่มีความซับซ้อนสูง โดยเริ่มตั้งแต่การวางแผนและการเลือกใช้เทคนิคในการดมยาสลบให้เหมาะสมกับสภาวะของผู้ป่วย ลักษณะการผ่าตัด การเฝ้าระวังสัญญาณชีพและการทำงานของสมองขณะผ่าตัด รวมถึงการดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด โดยเฉพาะในเรื่องการระงับปวด ซึ่งการวางยาสลบสำหรับผ่าตัดสมองแตกต่างกับการผ่าตัดทั่วไปเพราะการระงับความรู้สึกสำหรับการผ่าตัดทางระบบประสาท จำเป็นต้องอาศัยความรู้ทั้งด้านกายวิภาคและการทำงานของระบบประสาทเป็นอย่างดี เนื่องจากสมองเป็นอวัยวะที่เปราะบาง ต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมความดันในกะโหลกศีรษะ ทั้งนี้เพื่อให้คุณหมอผ่าตัดสามารถผ่าตัดได้โดยง่าย, การเฝ้าระวังพิเศษ เช่น การดูคลื่นสมองระหว่างผ่าตัด การใช้เทคโนโลยีมอนิเตอร์การทำงานของสมอง ต้องเลือกยาที่ไม่รบกวนเทคนิคนั้น ๆ, อีกทั้งการผ่าตัดแบบพิเศษ เช่น awake craniotomy คือการที่คนไข้ยังตื่นรู้ตัวขณะผ่าตัด การฝังเครื่องกระตุ้นในสมอง เป็นต้น สำหรับการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดก็จะคล้าย ๆ กับการผ่าตัดทั่วไป เช่น การงดน้ำงดอาหารก่อนการผ่าตัด 8 ชั่วโมง, การหยุดสูบบุหรี่หรือแอลกอฮอล์, การหยุดยาบางชนิด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด เป็นต้น และโดยส่วนใหญ่แล้วหลังผ่าตัดมีความจำเป็นที่ต้องสังเกตอาการที่ห้อง ICU อย่างน้อย 1 คืน เพื่อดูแลและประเมินอาการทางระบบประสาทอย่างใกล้ชิด แต่หากมีการผ่าตัดแบบพิเศษ เช่น awake craniotomy (การผ่าตัดสมองขณะตื่นอยู่) ก็อาจจะมีการเตรียมพร้อมที่มีรายละเอียดมากขึ้น หลัก ๆ จะมี 3ขั้นตอนง่าย ๆ  คือ หลับ-ตื่น-หลับ วิสัญญีแพทย์จะมีการอธิบายถึงขั้นตอนอย่างละเอียดก่อน มีการให้ยาทางน้ำเกลือให้คนไข้หลับ และมีการบล็อกเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงบริเวณศีรษะ ช่วงที่ศัลยแพทย์จะทำการตัดเอาเนื้องอกสมองออก ก็จะปิดยา คนไข้จะตื่นภายใน 15 นาที โดยไม่รู้สึกเจ็บ แต่อาจมีความรู้สึกเมื่อย หนาว และขัด ๆ สายสวนปัสสาวะได้ ระหว่างนี้จะมีการทำการผ่าตัดไปด้วย โดยที่ให้คนไข้พูดคุย อ่านรูป ยกแขน ยกขา ไปด้วย และหลังจากที่ผ่าตัดเอาก้อนออกเสร็จแล้ว หมอก็จะเปิดยาให้คนไข้หลับอีกครั้ง โดยที่คนไข้ไม่ต้องกังวลเลยเนื่องจากหมอจะอยู่กับคนไข้ตลอดเวลาจนกว่าจะผ่าตัดเสร็จ”

ด้าน คุณณัฏพล บุญเรือง พยาบาลวิชาชีพเฉพาะทางสาขาการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง หอผู้ป่วยวิกฤตรวม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์  กล่าวว่า การดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดเนื้องอกในสมองเป็นงานที่ท้าทายมากสำหรับพยาบาล เนื่องจากผู้ป่วยมีภาวะซับซ้อนทั้งทางร่างกายและจิตใจ ความท้าทายที่พยาบาลมักพบมีดังนี้ การเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาทที่ไม่คาดคิด  ผู้ป่วยอาจมีอาการสับสน อ่อนแรง ชัก หรือหมดสติได้ตลอดเวลา ต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด และตอบสนองอย่างรวดเร็ว  การควบคุมความดันในกะโหลกศีรษะ (ICP) ต้องจัดท่านอนที่เหมาะสม (ศีรษะสูง 30 องศา) ควบคุมของเหลว และให้ยาตามแพทย์สั่งอย่างแม่นยำ ICP ที่สูงผิดปกติอาจทำให้เกิดภาวะสมองบวมและอันตรายถึงชีวิต ซึ่งการดูแลภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ แผลติดเชื้อ) เลือดออกซ้ำ หรือสมองบวม ต้องประเมินสัญญาณชีพและแผลผ่าตัดอย่างสม่ำเสมอ  นอกจากนี้ปัญหาการสื่อสารกับผู้ป่วย ผู้ป่วยอาจพูดไม่ได้ ฟังไม่รู้เรื่อง หรือมีความบกพร่องทางการรับรู้  พยาบาลต้องใช้ทักษะในการสื่อสารแบบไม่ใช้คำพูด (non-verbal communication) เช่น ภาษากาย การเขียน หรือภาพประกอบ  การดูแลด้านจิตใจของผู้ป่วยและครอบครัวก็สำคัญ ผู้ป่วยอาจรู้สึกกลัว ซึมเศร้า หรือสูญเสียความมั่นใจ ญาติอาจมีภาวะเครียด วิตกกังวล หรือขาดความรู้ในการดูแล พยาบาลต้องมีความเข้าใจให้กำลังใจ และสื่อสารอย่างเห็นอกเห็นใจ ซึ่งการวางแผนจำหน่ายและการฟื้นฟูสมรรถภาพต้องประเมินความพร้อมของผู้ป่วยและครอบครัวก่อนกลับบ้านวางแผนร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพ เช่น กายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัด และส่งต่อเพื่อฟื้นฟู

ปิดท้ายกิจกรรม ด้วย ผศ.ป.นพ.ปโยธร เดชะรินทร์ รักษาการหัวหน้างานศัลยกรรมทั่วไปฯ ได้นำชมห้องผ่าตัดไฮบริด HYBRID OPERATING ROOM พร้อมอธิบายสรุปเกี่ยวกับ เทคโนโลยีอัจฉริยะที่เข้ามาช่วยในการผ่าตัดสมองอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์  โดยกล่าวว่า “ภายในห้องผ่าตัดไฮบริดห้องใหม่ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ประกอบด้วย เครื่องเอกซเรย์ความละเอียดสูงแบบ 2 ระนาบ ช่วยถ่ายภาพรังสี ทำให้เราสามารถให้การรักษาด้วยวิธีสวนหลอดเลือดสมอง ร่วมกับการผ่าตัด ช่วยให้การผ่าตัดมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น โรคเนื้องอกสมองที่มีเส้นเลือดไปเลี้ยงเป็นจำนวนมาก เราสามารถตัดเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณเนื้องอกดังกล่าว และดำเนินการผ่าตัดนำเนื้องอกสมองออกได้ในคราวเดียวกัน ซึ่งมีประโยชน์ในการลดเลือดระหว่างผ่า ได้รับการรักษาได้ในครั้งเดียว ตัวอย่างโรคอื่น ๆ เช่น โรคเส้นเลือดแดงต่อกับเส้นเลือดดำผิดปกติ ทั้งนี้ หลังจากผ่าตัดเสร็จสามารถสวนหลอดเลือด เพื่อตรวจสอบว่าผ่าตัดความผิดปกติออกได้ทั้งหมด 100% หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีกล้องผ่าตัดกำลังขยายสูง เพื่อช่วยในการผ่าตัดที่ละเอียดซับซ้อน ทั้งนี้ เครื่องที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์เป็นเครื่องรุ่นใหม่และเป็นเครื่องเเรกของประเทศไทย  การผ่าตัดผู้ป่วยแต่ละเคสจะเลือกใช้เครื่องที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายที่มีโรคแตกต่างกันไป ความท้าทายสำหรับการผ่าตัดแม่นยำด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะในห้องผ่าตัด Hybrid คือ การส่งต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบันไปยังผู้ป่วย เพื่อให้เกิดผลการรักษาที่ดีที่สุดกับผู้ป่วย โดยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน ทั้งนี้ การผ่าตัดจะทำสำเร็จได้ ศัลยแพทย์จำเป็นต้องศึกษาหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการฝึกฝนและพัฒนาการผ่าตัดด้วยเครื่องมือที่มีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง” ผศ.ป.นพ.ปโยธร กล่าวปิดท้าย

ภายในงานยังมีแขกรับเชิญคนสำคัญ คุณสุภาดา  คำสุชาติ ผู้ป่วยโรคเนื้องอกในสมอง ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์การเป็นผู้ป่วยผ่าตัดเนื้องอกในสมองของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และช่วง “Smart Brain Mover-กายบริหารเพื่อสมองแจ่มใส” โดยคุณ ณัชยา พุกสุข และคุณธิติวุฒิ เด่นประเสริฐ นักกายภาพบำบัดโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่มาสอนการออกกำลังกายบริหารสมองให้สดใสแข็งแรง และชมนิทรรศการนวัตกรรมจำลองห้องผ่าตัด และบริการให้คำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางด้านสมองและระบบประสาท โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พร้อมกันนี้ คุณพรเพิ่ม ศรีสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารด้านบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ในฐานะตัวแทนคณะนักเรียน วปอ.บก.รุ่นที่ 2 หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต รุ่นที่ 2 พร้อมคณะฯ ได้ร่วมมอบเงินสมทบทุน จำนวน 188,000 บาท (หนึ่งแสนแปดหมื่นแปดพันบาทถ้วน) ให้กับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ด้วย

ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โทรศัพท์สายด่วน 1118  ศูนย์ศัลยกรรม กด 5382 อายุรกรรมประสาทวิทยา กด 5246 หรืออัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพ และสามารถเพิ่มเพื่อนกับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ทางไลน์ออฟฟิเชียลแอ็กเคาต์ (@chulabhornhospital) พร้อมทั้งกด LIKE กด share facebook โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และกด subscribe ช่อง youtube ซีอาร์เอจุฬาภรณ์แชนแนล ส่วนผู้รับบริการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ที่มีประวัติการรักษา หรือ HN แล้ว เพื่อความสะดวกและไม่พลาดทุกการแจ้งเตือน สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน CHULABHORN  HEALTH PLUS ได้ทาง App store และ Google Play store