ครบหาดูใจกันมา 2 ปี และหวานใจหนุ่มตุ๊ ธนานันท์ เพิ่งเซอร์ไพรส์ขอสาวจ๋า ณัฐฐาวีรนุช แต่งไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดพอได้เจอสาวจ๋าเลยต้องขออัพเดทความคืบหน้าว่าเตรียมตัว เตรียมงานไปถึงไหนแล้ว รวมไปถึงบรรยากาศในวันนั้นที่สาวจ๋าเองก็เล่าให้ฟัง พร้อมชมฝ่ายชายได้พิสูจน์ตัวเอง และเป็นคนสม่ำเสมอมาตลอด
ถามถึงข่าวดีตอนนี้คืบหน้าไปถึงไหนบ้าง ?
“ก็คืบค่ะ คืบแล้ว”
คืบยังไง มีการพูดคุยหรือได้ ฤกษ์ อะไรยังไง?
“ได้ฤกษ์แล้วค่ะ”
บอกได้ไหมเป็นช่วงไหน?
“ได้ค่ะ เดี๋ยวจะร่อนการ์ดค่ะ”
ย้อนไปโมเมนต์วันนั้น เป็นอย่างไรบ้าง ความประทับใจในวันนั้น ?
“ก็ความประทับใจหรอคะ คือจ๋าจะเลยวัยที่มันจะแบบตื่นเต้นมากๆไปแล้วนะคะ คือโตแล้ว ก็รู้สึกอุ่นใจ อบอุ่น แล้วก็คนที่มาร่วมด้วยก็เป็นเพื่อนที่รัก เพื่อนที่สนิททั้งนั้นเลย”
โมเมนต์ตรงนั้นเขาพูดอะไรที่จ๋ายอมตกลง ?
“คือ ตอบตกลงมันคงไม่ใช่โมเมนต์นั้นหรอกค่ะ น่าจะเป็นสิ่งที่เขาพิสูจน์ตัวมาตลอดมากกว่าค่ะ ว่าเขาบอกอะไรไว้ แล้วเขาก็ทำตามในสิ่งที่เขาพูด แล้วเขาก็เสมอต้นเสมอปลายค่ะ”
รู้สึกตะหงิดใจมาก่อนไหมว่าเขาจะขอ ?
“มันก็มีรู้สึกอยู่บ้างค่ะ เพราะว่าเอาจริงๆเขาโกหกจ๋าไม่ได้หรอก (หัวเราะ)”
คือไม่เนียนใช่ไหม ?
“ไม่เนียนแต่ว่าถ้าเรารู้สึกนิดนึงแล้วคิดว่ามันเป็นเรื่องดีเราจะไม่ถามดีกว่า”
เขาบอกเราว่าไปทำอะไรทริปนั้น ?
“ต้องไปคุยกับเพื่อนๆค่ะ เพราะว่าเพื่อนๆก็คุยกับเขา คือจริงๆแล้วดีเทลต่างๆมันเป็นเพื่อนๆคุยกับเขา”
แสดงว่าเราก็เอะใจตั้งแต่ตอนที่ไปแล้วว่าต้องมีอะไรแน่เลย ?
“แต่ว่าก็ไม่ได้คิดขนาดนั้น คือจ๋าไม่ได้รู้ว่ามันจะมีอะไรแบบนี้ แต่ว่าคือจ๋าคุยกับเพื่อนนิดนึง เพื่อนก็ “เฮ้ย ไม่ต้องรู้หรอก ไม่ต้องถามอะไรก็ถ้าเกิดเราอยากแฮปปี้ก็ไม่ต้องไปรู้เยอะ”
พอเราเอะใจแบบนี้ความพร้อมเราล่ะ เรื่องการแต่งตัวอะไรอย่างนี้เราทราบไว้ก่อนไหมว่ายังไง ?
“ไม่ คือชุดที่เป็นคือเสื้อขาวที่ใส่ไปปกติมาก กางเกงยีนส์ขาด และรองเท้าแตะ คือขอบคุณ(หัวเราะ)”
มีเสียน้ำตาไหมกับโมเมนต์ที่เขาขอแต่งงาน ?
“ตอนแรกก็ไม่ได้คิดไม่ได้มองภาพตัวเองว่าจะมีน้ำตาร่วงนะคะ แต่ว่าเอาจริงๆก็มีแหมะๆอยู่”
เพราะว่าเพื่อนๆด้วยไหม เพราะว่าเพื่อนๆก็กรี๊ดกร๊าดอยู่กับโมเม้นท์นั้น ?
“ก็นิดนึง”
ประทับใจอะไรบ้างตอนนั้นที่พูดกัน ?
“ถ้าถามจ๋าว่าเขาพูดอะไรบ้างมันก็คงหลายอย่าง แต่ว่าที่หลักๆที่จ๋ารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ดีและประทับใจจ๋ามากน่าจะเป็นเรื่องของเขาที่บอกว่าเขารับปากอะไรไว้เขาก็จะทำให้ได้ทุกอย่าง ถึงแม้มันจะมาทีละอย่างก็จะพยายามทำให้ครบค่ะ”
เขามีโอกาสได้เข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่พูดเรื่องนี้หรือยัง ?
“มีแล้วค่ะ จริงๆแล้วคือเจออยู่เรื่อยๆอยู่แล้ว”
คุณพ่อคุณแม่ว่ายังไงบ้าง มีฝากฝังอะไรไหม ?
“คือคุณพ่อคุณแม่ก็ดูมาตั้งแต่ต้นๆค่ะ ว่าเขาจะจัดการกับชีวิตได้ดีไหม จะดูแลเราได้ดีหรือเปล่า ก็คบกันในสายตาผู้ใหญ่อยู่แล้ว”
เขาบอกคุณแม่ก่อนไหมว่าจะขอเราทริปนี้ ?
“อันนี้น่าจะไม่มี น่าจะไม่ได้บอก”
แต่เข้าไปคุยหลังจากที่ขอไปแล้ว ?
“อ๋อไม่ใช่ เขาเคยคุยอยู่แล้วว่าจริงจังแค่ไหน เคยคุยค่ะ แต่ว่าคงไม่ได้มาบอกว่ากำลังจะไปขออะไรแบบนี้ค่ะ”
หลังจากนี้ก็พอจะบอกได้ไหม เห็นว่าได้ฤกษ์แล้ว ?
“เร็วๆนี้ค่ะ เดี๋ยวรีบบอกเลย เพราะว่าฤกษ์ดีมาเร็วมากเลยค่ะ”
เตรียมตัวทันไหม ?
“ค่อนข้างจะฉุกละหุก แต่จ๋ากะว่าไม่ได้ทำอะไรใหญ่โตอยู่แล้วค่ะ”
แสดงว่าปีนี้แน่ๆ ไตรมาสแรกจะได้ยินข่าวดีไหม ?
“ไตรมาสแรกนี่แหละค่ะ (หัวเราะ) “
แล้วที่เราวางไว้เป็นยังไง ?
“ถ้าที่จ๋าวางไว้ใช่ไหมคะ ก็คงจะเป็นงานพิธีวันนึง แล้วก็ไปเลี้ยงเพื่อนวันนึง”
คิดว่างานนี้จะอลังการไหมแต่งงานทั้งที ?
“ไม่ต้องใหญ่แต่ขอสวย มันเป็นสไตล์จ๋าอะ คือจ๋าไม่ใช่คนที่ชอบอะไรแบบอู้ฟู่มากๆ แต่ว่าชอบอะไรที่ดูอบอุ่นแล้วก็ดูสวย”
ขอสวยแล้วชุดเตรียมทันไหม ?
“สบาย”
14 กุมภาพันธ์ หรือเปล่าวันแห่งความรัก ?
“ไม่ใช่ๆ เร็วไป”
พร้อมกับการใช้ชีวิตคู่ขนาดไหน จะเป็นจริงเป็นจังเลยไหม ?
“เนี่ย พอถามแบบนี้ตอบยากเลยอะ คือจะให้จ๋าตอบเลยว่าพร้อมมากเลยก็ไม่ คือจ๋าไม่รู้แต่ว่าก็พยายามให้ทุกวันมันดีที่สุด”
มองภาพตัวเองหลังแต่งงานยังไงบ้าง มีลูกเลยไหม ?
“ยัง ใจเย็น จ๋าก็ยังคงเป็นคนทำงานนอยู่นะคะ แต่ว่าก็คง..เออนั่นสิมันต้องเป็นยังไง”
หลายคนนึกภาพไม่ออกเลยนะ เห็นทำงานคล่องแคล่วตลอด ?
“ไม่ใช่ว่าหลายคนนึกภาพไม่ออก ตัวเองก็นึกภพไม่ออกเหมือนกันค่ะ”
แต่งที่นี่หรือแต่งริมทะเลที่เราฝันไว้ ?
“ก็คงกรุงเทพวันนึง ต่างจังหวัดวันนึงค่ะ”
ริมทะเลเหมือนที่เราชอบไหม ?
“ใช่ๆ เราชอบริมทะเล”