เอสเธอร์ เผยคดีเมติกสกินจบแล้ว ลั่นถือเป็นประสบการณ์ ไม่เสียใจกระแสหนังเป๊ก

0
603

 

เพิ่งเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาสำหรับศิลปินดาราที่รีวิวเมจิกสกิน สำหรับสาวเอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา ที่ล่าสุดเจ้าตัวออกมาอัพเดท รวมถึงพูดคุยเกี่ยวกับกระแสภาพยนตร์ รัก 2 ปียินดีคืนเงินที่กระแสไม่ดีตามที่คาดการณ์ไว้

 

อัพเดตคดีเมจิกสกินหน่อย ที่ได้เข้าไปพบเจ้าหน้าที่เป็นยังไงบ้าง?
“ก็เมื่อวานหนูก็ได้เข้าไปพบมาแล้ว ก็ไปรับทราบข้อกล่าวหาค่ะแล้วก็หนูก็ไปที่ อย. ต่อค่ะเพื่อไปจ่ายค่าปรับค่ะ”

ในส่วนของเราคือจ่ายค่าปรับแล้วก็จบคดี?
“อันนี้หนูจำรายละเอียดไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นคำศัพท์ที่จับใจความไม่ได้รู้แต่ว่า ทำผิดแล้วต้องไปจ่าย รู้แค่นี้ แต่ว่าอันนี้หนูจำไม่ได้จริงๆ”

ตัวสินค้าที่เรารีวิวเป็นบริโภคหรืออุปโภค?
“เป็นตัวครีมทาค่ะ เพราะว่าหนูใช้อข้ความที่ เกินจริง ก็เลยจะโดนตรงนั้นไป”

เจ้าหน้าที่เขาชี้แจงกับเรายังไงบ้าง จากนี้ต้องปฏิบัติตัวยังไง?
“ทางคุณตำรวจ ก็ให้คำแนะนำว่าไม่ได้ห้าม ไม่ได้ผิดกฎหมายนะ ถ้าเราจะรับแต่ว่าที่เราผิดเพราะว่าเราใช้ข้อความโฆษณาเกินจริง คือเราจะผิดตรงนี้อันนี้คือผิดเลย แต่ถ้าเรารับสินค้าโดยที่ทุกอย่างถูกต้อง แต่ว่าข้อความโฆษณาไม่เกิน อยู่ในขอบเขตที่รับได้อันนี้ไม่โดนค่ะ ก็ได้ความรู้มาใหม่เยอะค่ะ เพราะว่าหนูเองก็ไม่รู้ข้อกฎหมายพวกนี้เลย เราก็คิดว่าการใช้คำคำหนึ่งบางทีใช้คำผิดแค่นิดเดียวมันกลายเป็นแบบคดีเลย กลายเป็นผู้ต้องหาเลยอะไรอย่างนี้”

ค่าปรับที่ต้องเสียเท่าไร?
“หนูไม่แน่ใจค่เพราะว่า วันนั้นหนูไปกับพี่ทนายด้วยค่ะ คือหนูเซ็นใบมอบอำนาจให้พี่ทนายเป็นคนจ่ายแล้วหนูต้องไปที่ศูนย์ราชการต่อ เพราะต้องไปเจอพี่ตำรวจอีกคนหนึ่งเพื่อจะได้เซ็นเอกสาร วันนั้นเราต้องไปทั้งหมดสามที่”

รู้สึกยังไงบ้างหลังจากที่เข้าพบเจ้าหน้าที่ ?
“ก็รู้สึกว่ามีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะเลยค่ะ อย่างแรกที่หนูได้คือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะว่าเราไม่รู้กฎหมายอะไรเลย เราคิดว่าเราเช็กดีแล้วหรืออะไรอย่างนี้แต่ว่า มันมีแบบว่ารายละเอียดคำ การโฆษณาเกินจริงอะไรอย่างนี้ค่ะ”

กลัวเลยไหมครั้งต่อไป?
“ถามว่าเข็ดไหม คือรู้สึกไม่ดีมากกว่าที่เราเหมือนแบบว่าได้โพสต์ไป ได้โฆษณาเกินความจริงบางทีคนที่ติดตามในช่องทางของเรา บางคนเขาก็ไม่รู้ เขาต้องคิดว่านักแสดงคนนี้รีวิวมันต้องเป็นความจริงแน่เลย เราไปหลอกลวงอะไรอย่างนี้เราก็รู้สึกผิดกับตรวนี้จริงๆที่แบบลงรูปไปแล้ว ไม่ได้เช็กคำพูดดีๆก่อน ก็เหมือนเป็นบทเรียนให้เราด้วย”

หลังจากนี้เราต้องตรวจสอบมากขึ้นไหม?
“หลังจากนี้เท่าที่ดูเหมือนจะยังไม่มีอะไรต่อนะคะ ก็ต้องรอดูว่าจะมีรอบสองหรือเปล่าที่พี่เขาพูดนะครับ แต่ว่าคือในขั้นตอนแรกตอนนี้ถือว่าจบแล้ว”

มันรบกวนใจเราไหมตอนแรกที่ทราบ?
“รู้สึกไม่รบกวนนะคะแต่ว่าคือเรารู้สึกว่า เราทำผิดจริงๆเราใช้คำ ข้อความที่มันแบบว่าเกินความจริง พอเรามาอ่านจริงๆแล้ว ถือว่าเป็นบทเรียนที่ดีเลยล่ะค่ะ แล้วก็เป็นประสบการณ์ที่ดีด้วยค่ะ”

เราเพิ่มมาตราการยังไงบ้างต่อไปนี้ถ้ามีงานรีวิวเข้ามาสินค้าจะต้องมีการตรวจสอบยังไงบ้าง?
“ต้องตรวจสอบเยอะๆเลยค่ะ แล้วก็อาจจะต้องมีการไป เหมือนทางตำรวจบอกว่าอาจจะต้องมีการไปขอ อย. ด้วยถ้าเราจะทำอะไรก่อนที่เราจะลงโฆษณาอะไรอย่างนี้ค่ะ คงต้องศึกษาในเรื่องรายละเอียดพวกนี้เพิ่มเติมค่ะ ให้แบบชัดเจนแล้วก็เข้าใจมากขึ้น เพราะว่าบางทีคำพูกมันกำกวม เราก็ไม่รู้ว่ามันใช้ได้หรือเปล่า”

แต่ว่าตัวเราเองไม่ได้กังวลใจอะไรแล้วใช่ไหมหลังจากนี้?
“ไม่ ไม่กังวลใจแล้วค่ะ ต้องมีสติในการพิจารณามากขึ้นค่ะ”

เรื่องหนังเห็นว่ากระแสไม่ดีเราได้ติดตามบ้างไหม?
“ตอนนี้ไม่ได้ติดตามเลยค่ะ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเงียบๆแล้ว บางโรงก็อาจจะออกจากโรงไปแล้ว”

ส่วนตัวเราในฐานะนักแสดงเสียใจไหมที่หนังไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร?
“ไม่เฟลค่ะ สำหรับตัวหนูนะคะแต่ว่าหนูเป็นห่วงพี่ๆทีมงาน แล้วก็นักแสดงท่านอื่นๆ ที่แต่ล่ะคนเขาตั้งใจทำงานอาจจะแบบให้มีผู้ชมเจ้ามาเยอะๆ แต่หนูก็แบบไม่เป็นไรหนูเข้าใจทั้งสองฝ่าย เรื่องมันเป็นอะไรที่เซ็นซิทีฟแต่ว่าเราถือว่าทำในส่วนหน้าที่ของนักแสดงแบบเต็มที่แล้วอะไรอย่างนี้ค่ะ”

ได้มีโอกาสได้คุยกับนักแสดงคนอื่น หรือทีมงานไหม?
“ไม่ได้คุยเลยค่ะ ไม่ได้คุยเลยแล้วก็พี่ๆทีมงานก็ไม่ได้เจอด้วยเพราะว่าหนังเข้ามาสักพักหนึ่งแล้วค่ะ ก็จบไม่ได้เจอ”

ส่วนตัวเรามองว่าหนังมันออกจากโรงไวไปไหม?
“ไม่แน่ใจค่ะ มันถือว่าเร็วไหม ไม่แน่ใจเพราะหนูเล่นหนังเรื่องที่สอง ก็เลยไม่รู้ว่าปกติแล้วหนังเข้าโรงมันคือเท่าไหนระยะเวลาเท่าไรอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เห็นที่นั่งว่าวหมดเลยค่ะ(หัวเราะ) ก็เอะเขาก็ไม่ดูกันจริงๆเนอะ แต่ว่าถ้าเป็นไปได้ใครอยากดูก็ดูได้ เรายังลงเชียร์โปรโมทอยู่เหมือนเดิม”

เสียความมั่นใจไหม?
“ไม่เสียความมั่นใจค่ะ แต่ว่าเข้าใจมากกว่า คือไม่ได้บังคับว่าจะต้องดู แต่ถ้าใครตั้งใจไปดูจริงๆก็ขอบคุณมาก”

เหมือนกระแสทางนักวิจารย์หนังเองบอกว่าเนื้อเรื่องดี แต่ว่ากลายเป็นแบบนี้เราน้อยใจไหม?
“ไม่น้อยใจนะคะ ก็อย่างที่บอกเลยเราเข้าใจมากกว่า แต่ก็ได้ยินหลายๆท่านวิจารย์ในเรื่องของเนื้อหา บอกว่าเนื้อเรื่องดี ดูเพลินดูโอเค
ไม่ได้แย่เลยนะ แค่นี้เราก็รู้สึกเป็นกำลังใจในการทำงานค่ะ สำหรับเราด้วยทีมงานทุกคนด้วย”

ไม่ได้คุยกับทางทีมงานเลย?
“ไม่ได้คุย ไม่ได้เจอเลยค่ะ หนังถ่ายจบไปสักพักหนึ่งแล้วเราก็ยังไม่ได้เจอกับทางทีมงานเลย”

หนังเรื่องหน้าจะมีเรื่องต่อไปเลยไหม?
“ยังไม่มีเลยค่ะ ถ้ามีติดต่อเข้ามาก็ยินดีรับค่ะ”