ออกมาเปิดใจพูดถึงสาเหตุการหย่าร้างกับอดีตสามีหลังใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมากว่า 26 ปี และมีลูกชายด้วยกัน 2 คน สำหรับอรอนงค์ ปัญญาวงศ์ โดยได้มีการโพสต์ใบหย่าลงในอินสตาแกรมก่อนหน้านี้ ล่าสุดในงาน Soft opening ผลิตภัณฑ์นมผึ้ง W.H.Royal Jelly อรอนงค์ ก็ถือโอกาสเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งน้ำตา ยอมรับมีเรื่องของมือที่3 เข้ามาเกี่ยวข้อง และพยายามประบจูนกันมากว่า 2 ปี แต่ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจแยกทางกัน โดยยังคงทำหน้าที่พ่อ และแม่ของลูกๆทั้ง 2 คนเหมือนเดิม พร้อมขอบคุณทุกๆ คนที่ให้กำลังใจ
สาเหตุของการหย่าร้าง?
“ก็จริงๆแล้ว เรื่องราวของการที่ออกมาบอกว่าหย่าเนี่ย มันมีเรื่องราวมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็คือเราก็เริ่มรู้แล้วว่าสามีเรามีใจให้คนอื่น แล้วในความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่งว่า ตอนที่เราแต่งงานกัน ในความรู้สึกของอร เราก็ได้บอกกับสังคมว่าเราแต่งงานกับคนนี้นะ แล้วก็ตั้งแต่คบหาดูใจกันมา ก็ใช้ระยะเวลานานพอสมควร แล้วเชื่อว่าการที่เราได้รับรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงของสามีของเราเปลี่ยนไป มันมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง แล้วพอเราได้ทราบสาเหตุแล้ว ได้คุยกันในเบื้องต้นแล้ว ต้องบอกก่อนว่าตอนที่เริ่มคบกับอดีตสามีเนี่ย อรก็ชัดเจนว่ามันมีมาเป็นสเต็ป คือเริ่มจากการเป็นแฟน คบกัน 4 ปีแล้วหมั้น พอหมั้นเสร็จแล้วแต่งงาน พอแต่งงาน แล้ววางแผนที่จะมีลูก การที่เราคบกับใครคนหนึ่ง แล้วเราก็เปิดใจรับเขา เราก็ต้องรู้ทั้งสองฝ่าย ว่ามีความต้องการยังไง แล้วมีอุปนิสัยใจคอยังไงบ้าง มันก็ทำให้วันเวลาเหล่านั้น รู้ว่าสามีเรามีความเปลี่ยนแปลงไป แล้วพอมาคุยกัน แ้วก่อนหน้าที่เราจะแต่งงาน เราก็จะบอกกันว่า ถ้าสมมติว่าใครคนใดคนหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลง ให้บอกถึงสาเหตุ แล้วบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพื่อที่เราจะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด แล้วก็จะได้มีความรู้สึกที่ดี หลังจากที่เราอาจจะไม่ได้เดินทางไปด้วยกันค่ะ พอเริ่มสักประมาณ 2 ปีเศษๆ เราก็เริ่มรู้ว่ามันมีเหตุการณ์ที่สามีเรามีความเปลี่ยนแปลงไปจากที่อาจจะเวลาโทรศัพท์อาจจะแปลกๆ กลับบ้านดึก จากที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน มีกินเลี้ยง เอาท์ติ้งเราจะไปกับเขาตลอด แต่ว่าพอไประยะหลังๆ พอเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้มันก็เริ่มจางหายไป ความรู้สึกเราก็เริ่มรับรู้ได้ เราก็มาคุยให้เวลาว่าเราสามารถปรับจูนให้เหมือนเดิมได้ไหม มันก็มีระยะเวลาเป็นตัวให้เราได้คิดได้พูดคุยกันด้วย แต่อรเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นตอนแรกทำไมถึงไม่แก้ไขให้มันกลับมาเหมือนเดิม ด้วยอาจจะเป็นเพราะเราอาจจะมีข้อบกพร่อง แล้วเราปล่อยผ่านเลยไปคิดว่าเราไม่ได้ไปตามจิกเขา ไม่ได้ไปตามหึงหวงเขามันกลับกลายเป็นว่าเขาสามารถไปได้อย่างสบายไปมากกว่า”
สาเหตุหลักคือมือที่ 3 ?
“ก็น่าจะใช่แหละค่ะ เพราะว่าจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ได้คุยกันแล้วว่าอรไม่ได้ผิดอะไร แต่ว่าเขามีคนใหม่เข้ามา เมื่อคุยกันไม่มีใจให้กันแล้วก็ไม่สามารถปรับจูนหากันแล้วเนี่ยเราก็ควรแยกทางกันโดยดี แล้วทุกวันนี้แม้ว่าหลังจากเราเซ็นต์เอกสารใบหย่าอย่างเป็นทางการ ก่อนหน้านี้เราได้แยกกันอยู่ประมาณ 2 ปี แต่ว่า 2 ปีที่ผ่านมายังอยู่บ้านเดียวกันอยู่ เรายังรับผิดชอบความเป็นพ่อและแม่”
“บางครั้งถ้าอรมีถ่ายละครไม่ได้ไปรับส่งลูก เขาก็จะทำหน้าที่ดูแลไปรับไปส่งลูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดูแลลูกเลย หน้าที่ของการเป็นพ่อและแม่ไม่สามารถตัดขาดได้ แต่ว่าหน้าที่ของการเป็นสามีภรรยาเมื่อคนใดคนหนึ่งมีความเปลี่ยนแปลงไปแล้วมันก็อาจจะจบสิ้นลงได้แต่ความเป็นพ่อเป็นแม่ก็ยังคงอยู่ค่ะ อรเองคิดว่าตัวเองก็มีส่วนผิดที่ทำให้สามีเราไปมีบุคคลที่สามได้แต่เราไม่อยากพาดพิงดีกว่า เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของคนสองคนเขาคุยกัน ในเมื่ออรตัดสินใจยุติเส้นทางที่เราจะเดินคู่กันไปกับอดีตสามีแล้วก็ควรจะยุติแค่นี้ จากนี้ไปเขาจะมีใคร จะเปิดตัว จะแต่งงานใหม่ก็เป็นเรื่องของอดีตสามี อรชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นการคบหาดูใจกับผู้ชายคนหนึ่ง”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว?
“ใช่ค่ะ 2-3 ปีแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ก็มีการพูดคุยกันแต่ว่าเราก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ในเมื่อเขามีคนอื่นแล้ว เขาไม่ได้มีใจให้กับเราแล้ว เราก็ไม่อยากไปยื้อเขาไว้”
ทำไมถึงตัดสินใจหย่าช่วงเวลานี้?
“มันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราให้โอกาสให้เวลามาพอสมควรแล้วค่ะ ผู้หญิงก็ต้องก้าวต่อไป แล้วอรอยู่ในสังคมเบื้องหน้า เวลาเราไปไหน คนจะถามถึงตอนนี้เป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ย สามีเป็นยังไงบ้าง เราก็ไม่สามารถจะหน้าชื่นอกตรมได้ เราอยากจะพูดในสิ่งที่เป็นความจริงชัดเจนและถูกต้อง ที่สำคัญเลยไม่ใช่ว่าออกมาประกาศแบบนี้แล้วไม่ถนอมน้ำใจลูกเลย แต่เราได้คุยกับลูกแล้ว ลูกจะ 12 กับ 14 ขวบ เราคุยด้วยเหตุผล พ่อก็ยังทำหน้าที่พ่อ แม่ก็ยังทำหน้าที่แม่ เราคุยด้ยเหตุและผลว่า พ่อก็ยังทำหน้าที่พ่อ แม่ก็ยังทำหน้าที่แม่อยู่นะ แต่การที่เราไปกันไม่ได้คือการที่พ่อกับแม่จะรักกันในแบบที่ลูกเคยเห็นเมื่อก่อน “
แสดงว่า 2 ปีที่ผ่านมาเขาพยายามปรับ แต่ทำไม่ได้ใช่ไหม?
“ก็น่าจะประมาณนั้น คือตัวอรเองก็ยังอยู่ที่เดิม มันอยู่ที่อดีตสามีพี่อรมากกว่า ว่าเขาไม่สามารถกลับมาเหมือนเมื่อก่อนได้แล้วเราเองก็ไม่อยากจะยื้อให้เขากลับมาอยู่กับเราทั้งๆๆที่เขาก็อยากไป จบแบบนี้มันน่าจะดีที่สุด “
2ปีที่ผ่านมาต้องทนขนาดไหน?
“ตอนที่เราเป็นแม่เราก็ทนแต่เรารู้สึกว่าความรักที่เรามีให้กัน เมื่อเราหักลบไปแล้ว พี่อรก็ยังขอบคุณที่ยังมีลูกที่น่ารัก”
เห็นว่ามือที่3 เป็นคนใกล้ตัวเขา?
“ไม่ขอพาดพิงดีกว่านะ ก็อาจจะตามนั้น พอรู้คืออาจจะเคยเห็นหน้าเขา แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดตามอะไร ไม่รับรู้เลยว่าตอนนี้เขาจะอยู่ที่ไหนอย่างไร แต่ก็เป็นคนในออฟฟิศเดียวกัน “
อดีตสามีมีขอโทษไหม?
“ก็มีขอโทษ มัน็เป็นสิ่ที่ไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้น “
เรื่องลูกอยู่กับเราใช่ไหม?
“น้องก็อยู่กับอร แต่เราก็ยังช่วยดูแลลูกในเรื่องของศึกษาเล่าเรียน ในบางครั้งที่อาจจะต้องให้พ่อไปส่งเรียนพิเศษ คือเราไม่ได้จบแบบทางใครทางมัน คือเราก็ยังมีลูก เหมือนเราแยกกันอย่างชัดเจนซึ่งในอนาคตเราก็ไม่รู้ พี่อรอาจจะมี เทพบุตหรือผู้ชายคนใหม่เข้ามา เราก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเราเอง คือเราอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นพร้อมสุขภาพจิตที่ดี”
สิทธิ์เลี้ยงดูลูกตามกฎหมายอยู่ที่เราใช่ไหม ?
“อยู่กับอรค่ะ เพราะอรเชื่อว่าในอนาคตหากลูกจะต้องทำอะไรสักอย่าง ทั้งเรื่องของการศึกษาเล่าเรียน การเดินทาง ไปจนถึงการตัดสินใจอย่างเฉียบพลันเกี่ยวกับอนาคตของลูก ซึ่งอรสามารถช่วยดูแลตรงนี้ได้ แต่ไม่ใช่ว่าอรจะไม่ให้เขาทราบเลยนะคะ เพราะอรก็ไม่ได้จะตัดขาดเขาจากลูก เพียงแต่อรสามารถที่จะดำเนินทุกอย่างตามกฎหมายได้ก็เท่านั้นเอง ส่วนตัวเขายังไงสุดท้ายเราก็ต้องคุยกันอยู่แล้ว เพราะเขาคือพ่อของลูก”
เป็นการตกลงกันที่ชัดเจน ?
“ใช่ค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยและมีเอกสารยืนยันทั้งหมด เรื่องการดูแลลูกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราสองคน ทั้งตัวอรและอดีตสามีค่ะ”
ตอนนี้สภาพจิตใจเราถือว่าเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์แล้วใช่ไหม ?
“ถามว่าเสียใจมันก็เสียใจ แต่ว่าอรเป็นแม่ อรไม่อยากให้ลูกต้องเห็นน้ำตา (ร้องไห้) อรก็จะพยายามทำดีที่สุดเท่าที่ตัวเองสามารถทำได้ และก็คิดว่ากว่ามันจะมาถึงตรงนี้ได้เราก็อดทนมาถึงที่สุดแล้ว”
เราให้กำลังตัวเองยังไงบ้างในช่วงที่ผ่านมา ?
“ก็…จริงๆ อรไม่อยากร้องไห้เลย เพราะไม่อยากให้ลูกเห็น คือ…เราก็คิดว่ามันมาสุดทางจริงๆ และเราเองก็อยากจะมีชีวิตที่ดี มีคุณภาพทางจิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องมาคอยระแวงหรือคอยกังวลเวลาคุยกับใคร”
แสดงว่าที่ผ่านมาเราทำดีที่สุดแล้ว มีข้อบกพร่องเดียวคือการไม่ตามจิก ตามหึงหวง?
“ก็อาจจะมีบ้าง น่าจะเป็นประมาณอย่างนั้นค่ะ ความไว้วางใจที่เราเคยมีให้เราไม่เคยรู้เลย มันมารู้ก็คือมันกู่ไม่กลับแล้วแค่นั้นดีกว่าค่ะ”
26 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้างที่ใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน เสียดายเวลาไหม?
“ไม่ได้เสียดายเวลาค่ะ เพราะที่ผ่านมาก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เราก็มีอะไรที่สวยงามเกิดขึ้น อย่างน้อยๆมีลูกที่น่ารัก 2 คน แล้วก็มันไม่ใช่แค่วูบเดียวค่ะ เพราะฉะนั้นขอบคุณเขาด้วยซ้ำ ที่ทำให้เรามีลูกที่น่ารัก”
ลูกๆเองให้กำลังใจเราอย่างไรบ้าง?
“(น้ำตาไหล) ลูกก็บอกไม่เป็นไรคุณแม่ ลูกก็รักแม่”
ตอนนี้ได้ย้ายออกมาเรียบร้อยแล้ว?
“ก็คือแยกบ้านกับสามีโดยสิ้นเชิงค่ะ เรายังอยู่บ้านเดิม แต่สามีย้ายไปค่ะ เพราะฉะนั้นเราก็ดูแลลูกให้มีความสุข และเราก็เข้มแข็ง ก้าวยังอนาคตข้างหน้าต่อไป ขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนที่ให้กำลังใจ เพราะวันที่โพสต์ไปก็คิดว่าเราชัดเจนแล้วว่าที่เราหย่าเพราะอะไร ไม่คิดว่าจะเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ ก็คิดว่าเหตุผลชัดเจนแล้ว เราเลยอยากให้มันหยุดแค่นี้ก็พอ “
มีหลายคนให้กำลังใจอยากจะขอบคุณอะไรไหม ?
“ ขอบคุณมากๆค่ะ เพราะว่าหลังที่โพสต์ลงอินสตาแกรม ทุกคนให้กำลังใจหมดเลย ก็เลยมีความรู้สึกว่าคนที่รักเราจริงๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้าก็ส่งกำลังใจมาให้ ขอบคุณผ่านสื่อด้วย ทั้งอินสตาแกรม ไลน์ เฟซบุ๊ก รวมถึงพี่ๆที่นำเสนอข่าว คอมเม้นต์ต่างๆในสื่อทุกๆสื่อ ขอบคุณพี่ๆน้องๆในวงการบันเทิงที่ให้กำลังใจส่งมาในอินบ็อค ก็จะทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุด “
ถามถึงเซ็ทรูปภาพที่ออกมา ?
มันเป็นการทำงานที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นช่วงจุดนี้ที่เรามีเซ็นเอกสาร เพราะเราเองก็อยากยื้อไปสักพัก เพื่อที่จะได้ซาๆ เพราะเราวางแผนของเซ็ทภาพมาก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ พรีเซ็นเตอร์แบรนด์อื่นก็มีถ่ายแบบนี้เหมือนกัน งานที่เข้ามาก็มีต่อเนื่องเรื่อยๆ อย่างตอนนี้ก็ฝากงานละครละกันมี 4 เรื่อง ทั้งช่อง 7 ช่อง 3 และ PPTV ฝากเป็นกำลังใจให้อรด้วย ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่เรียกเราใช้ไปทำงาน “
มีการยื้อการเซ็นเอกสารเพื่อไม่ให้กระทบงาน?
“ใช่ๆ ด้วยค่ะ แต่ไหนๆมันก็มาสักพักแล้ว ก็ควรจะให้มันสิ้นสุด เพราะด้วยความที่ไม่มีข่าวอะไรมาเลย เกี่ยวกับเรื่องประเด็นนี้ของอร เวลาเราไปออกสื่อข้างนอกคนก็จะถาม เราก็เลยชัดเจนกับตรงนี้เลยจะดีกว่า ก็เลยโพสต์ลงอินสตาแกรมของตัวเอง จริงๆ เรามีความรู้สึกว่าพอพูดว่าแยกกันโดยที่อะไรต่างๆ นานา คนก็จะบอกว่าต้องมีมือที่ 3 แต่พอเราบอกแบบนี้ปุ๊บทำไมถึงยังไม่จบ เพราะฉะนั้นก็อยากให้มันจบเพียบเท่านี้ อยากให้อดีตสามีและทุกคนมีความสุขค่ะ เพราะว่าเรื่องแบบนี้ผู้หญิงคนนึงก็ไม่อยากให้เกิดในชีวิตคู่ น้องๆ ก็ได้เห็นว่าเป็นยังไงตั้งแต่ 27 ปีในวงการ”
ปิดตายเลยมั้ยเรื่องหัวใจ?
“ยังไม่ปิดแล้วกัน (หัวเราะ) เปล่าหรอกค่ะ เราพยายามอยู่อย่างมีความสุขดีกว่า ก็ใช้หลักธรรมมาเป็นที่พึ่งในการดำเนินชีวิตของเรา เพราะเราเป็นพุทธศาสนิกชน เราคิดว่าไม่จากเป็นก็จากตาย อันไหนไม่ใช่ของเราคือไม่ใช่ของเรา เราทำวันนี้ของเราให้ดีที่สุดจะดีกว่า มีอนาคตของลูกเป็นสิ่งที่เราจะต้องฝ่าฟันร่วมกันกับลูก ซึ่งตัวอดีตสามีเองเขาก็ยังคงดูแลลูกเหมือนกัน แต่ให้เขามีความสุขในแบบของเขา เราก็มีความสุขในแบบของเราค่ะ”
ที่เราถ่ายเซ็กซี่ คนนึกว่าประชดรัก?
“ไม่ได้ประชดรักเลยค่ะ เพราะถ้าพูดถึงว่าจะประชดรักแล้วมาถ่ายเซ็กซี่ คือก่อนหน้านี้หลังจากคลอดลูกคนที่ 1 คนที่ 2 ก็มีถ่ายภาพชุดว่ายน้ำเลยค่ะ ก็จะมีสื่อบางสื่อจะแบบว่าเอ๊ะ เป็นเพราะไม่เรียบร้อยรึเปล่า สามีถึงมาขอหย่า ก็ไม่ใช่ เพราะว่าตอนถ่ายภาพชุดว่ายน้ำเซ็กซี่ยิ่งกว่านี้อีก เพราะฉะนั้นประเด็นเรื่องหย่าแล้วเลยอยากโชว์คือไม่ใช่เลยค่ะ เพราะโดยปกติเป็นคนไม่ได้แต่งตัวเซ็กซี่อยู่แล้วค่ะ”