คบหาดูใจกันมา 5 ปีเต็มแล้ว สำหรับพระเอกหนุ่มเอส กันตพงศ์ และแฟนสาวชาวเยอรมัน คริสติน่า ล่าสุดหนุ่มเอสควงฝ่ายหญิงเปิดใจแพลนวิวาห์ในช่วงปลายปี เตรียมบินดูสถานที่เยอรมัน เปรยฝ่ายหญิงอาจย้ายอยู่ไทย ส่วนเรื่องทายาทขอปล่อยตามธรรมชาติ ยอมรับช่วงแรกมีปัญหาเรื่องระยะทาง แต่ตอนนี้ปรับตัวได้ดีขึ้น เข้าใจเล่นละครต้องมีฉากเลิฟซีน
วันนี้มางานด้วยกัน?
“ก็ถามว่าเขาอยากมามั้ย ก็บอกว่าถ้าผมอยากให้มาเป็นกำลังใจซัพพอร์ต ก็ยินดีครับ ตอนแรกๆ ไม่ตื่นเต้น พอได้เจอพี่ๆ นักข่าวก็ตื่นเต้นมาก สั่นอยู่ มือเย็นเชียว”
เขาภูมิใจแทนเรามั้ย?
“ใช่ครับ รู้สึกภูมิใจมาก”
คบกันมากี่ปีแล้ว?
“เพิ่ง 5 ปีเต็มไปเมื่อปลายปีที่แล้วครับ ความรักของคู่เราคือ ตอนแรกเราคบกันเดือนแรกผมขอห่างเขาเลย เพราะรู้สึกว่าใน 1 เดือนแรกมีหลายอย่างที่เราต้องปรับกันเยอะมาก ที่ยังเป็นความต่างของวัฒนธรรม หรือการใช้ชีวิต ขอดูว่าเราจะจูนเข้าหากันได้มั้ย และหลังจากนั้นสักเดือนสองเดือนแรกที่ห่างกันวันนั้นมาวันนี้ก็ 5 ปีแล้วครับ”
ความห่างกัน ความไกลทำให้เรามีอุปสรรคมั้ย?
“โชคดีที่เราวิดีโอคอลกันบ่อย ส่วนใหญ่เป็นผม เวลาเราว่างๆ อยู่ในกองผมก็จะวิดีโอคอลหา ก็จะมีลำบากตอนแค่เขากลับเยอรมันก็จะห่างกัน แล้วแต่เป็นช่วงซัมเมอร์หรือวินเทอร์ก็จะบวก 5 หรือ 6 ชม. บางทีเราก็จะนอนเที่ยงคืน ตี 1 เพื่อรอคุยกัน”
ก่อนหน้านี้บอกว่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้ เป็นยังไงบ้าง?
“ก็มีคุยๆ กันบ้างครับ ตอนแรกเรามอง 3-5 ปี ตอนนี้ก็อาจจะเร็วขึ้นครับ ความจริงแพลนว่าปีนี้อาจจะบินไปดูสถานที่ที่เยอรมันกัน มีปราสาทที่เราเที่ยวแล้วเราชอบปราสาทนั้น ตอนแรกแพลน พ.ค. แต่ว่าตอนนี้มีสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ตอนนี้อาจจะเลื่อนก่อน”
เปลี่ยนเป็นปลายปีมั้ย?
“ก็มีโอกาสเป็นไปได้ครับ ปลายปีนี้หรือว่าปีหน้า”
ก็คือไวรัสทำให้กระทบงานแต่งไปเต็มๆ เลย?
“ก็งานแต่งเรายังไม่ได้แพลน เราแพลนจะบินไปดูปราสาทกัน เพราะเรายังไม่รู้ว่าปราสาทจะให้เราใช้สถานที่ได้หรือเปล่า ก็ต้องบินไปคุย ไปขออนุญาตครับ ก็เลยยังไม่รู้เลยครับว่าให้หรือไม่ให้”
คุยกับผู้ใหญ่บ้างหรือยัง เรื่องแต่งงาน?
“ยังไม่ได้มีคุยอย่างเป็นทางการครับ แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่ของเขาและของเรา อยากให้เราจัดการงานตั้งแต่ปีสองปีที่แล้ว และเรื่องนี้เราคุยกันมาตลอด”
เวลาเราถ่ายละคร มีบทเลิฟซีนเขาเข้าใจเรามั้ย?
“ผมว่าเขาเข้าใจครับ เพราะตอนนี้มีถ่ายละคร แม่เบี้ย มีเตรียมถอดเสื้อ เขารู้ว่าเป็นซีนแบบไหน เขาก็แซวเรา เราก็บอก แหม มันเป็นงาน เข้าใจ แต่เขาแซวเล่นเฉยๆ”
หลังแต่ง เขาจะมาอยู่เมืองไทยเลยมั้ย?
“ก็คิดว่าอย่างนั้นครับ ก็คงเข้าใจในเรื่องที่จะมาเมืองไทย แต่ถ้าแต่งแล้วมีลูก ในอนาคตก็คิดว่าช่วงปีแรกๆ เขาอยากให้ลูกโตที่เยอรมันก็มีคุยกันบ้าง เราก็คงบินไปหาบ่อย ก็โอเค เข้าใจเขาเดี๋ยวนี้บินตรงมันแค่ 10 ชม. เองครับ ก็สามารถจัดการได้ วิดีโอคอลคุยกันได้ บินไปหากันได้ หลังแต่งเรายังไม่ได้แพลนเลยว่าจะมีลูกเลยมั้ย หรือยังไงดี ก็ค่อยคุยตรงนั้นอีกที ก็เข้าใจว่าเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ แต่เขาก็พร้อมที่จะเป็นแม่บ้านแบบเต็มตัว เขาเป็นคนชอบทำกับข้าว ชอบดูแลบ้าน ชอบดูแลผม”
เขาทำงานอะไร?
“ก็มีงานที่เยอรมัน ก็บินไปบินมา ความจริงเดือน พ.ค. ที่จะไป เขามีงานที่นั่น มีบริษัทดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งที่นั่นด้วยครับ ต้องกลับไปถ่ายแบบที่โน่น แต่ที่นู่นอีเว้นท์ที่เยอรมันอาจจะโดนเลื่อนด้วย”
เป็นไปได้อาจจะมีงานแต่งปีหน้า?
“อาจจะปลายปีนี้หรือปีหน้า แต่เขาอยากจะให้ได้เร็วที่สุด”
อะไรที่ทำให้เขาคบกับเราได้เร็วขนาดนี้?
“เขาบอกว่าผมมีความบ้าในตัว มีความเป็นเด็ก มีเสน่ห์ เขาเห็นจากที่เราดูแลน้องหมา เขาก็เลยรู้ว่าผมดูแลลูกได้ดีมากๆ คือผมเป็นคนรักเด็กดูแลเด็กกับสัตว์เลี้ยงได้ดีมากๆ เค้าเห็นสิ่งนั้นในเราเขาก็เลยชอบเรา”
