ณเดชน์ ห่วงความรู้สึก ญาญ่า หลังเจอกระแสวิจารณ์ ลั่นสบายใจเรียกที่รัก
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ตเดี่ยวของ พระเอกหนุ่มณเดชน์ คูกิมิยะ ใน The Real Nadech ที่ได้หวานใจสาวญาญ่า อุรัสยา มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษ ทำเอาคนดูฟินระดับสิบเลยทีเดียว แต่ไม่วายเจอกระแสวิจารณ์กับโลว์การแสดงสุดหวือหวา ที่งานนี้หนุ่มณเดชน์เองเปิดใจว่า เป็นการโชว์ที่ทุกคนเต็มที่เพื่อคนดู ไม่ได้คิดอย่างอื่น พอเกิดกระแสวิจารณ์ออกมาตนเองห่วงความรู้สึกของฝ่ายหญิงมากกว่า
คอนเสิร์ตที่ผ่านมาเป็นไงบ้าง?
“ถามว่าหายเหนื่อยหรือยัง ยังครับ (หัวเราะ) ตอนนี้ถ้าไม่มีงานก็คงอยู่บ้านพักผ่อน ไม่ค่อยอยากทำอะไรสักเท่าไหร่ ข้างนอกอาจจะดูสดใสแต่ข้างในพังๆนิดนึง”
เราปล่อยพลังบนเวทีเต็มที่มาก?
“ก็ดีนะครับ เราเองที่ได้พลังเยอะขนาดนั้นเพราะคนที่ไปเขาให้พลังเรามา ไม่ว่าจะสายตา เสียงกรี๊ด กำลังใจที่เขาให้มาเราได้รับตรงนั้น เราก็อยากส่งกลับไปให้ได้มากที่สุด เต็มที่กับทีกๆอย่าง ทุกๆคนที่ไปวันนั้น”
พอใจกับโชว์ที่ออกมาไหม?
“สนุกครับ เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ การได้ทำงานกับทีมงานมืออาชีพก็ทำให้เราได้มีไอเดีย การพัฒนาและประสบการณ์ที่มากขึ้น”
หลายคนชื่นชมความสามารถของเราว่าได้ทุกด้านจริงๆ?
“ก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนครับ ผมให้เวลากับการซ้อมค่อนข้างเยอะมาก ช่วงนั้นแทบจะไม่รับงานเลย พยายามซีเรียสกับตรงนั้นให้มากที่สุด ไม่อยากปล่อยอะไรให้มีข้อผิดพลาด หรือ ทำให้กลายเป็นข้อบกพร่อง ก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด”
พาร์ทไหนที่ยากที่สุด?
“ยากทุกพาร์ทครับ ช่วงเปิดโชว์ก็ถือว่ายาก ทำยังไงให้คนดูไม่เบื่อ ไม่ลุกกลับบ้าน เป็นโจทย์ที่เราต้องทำ แต่โดยรวมก็ขอบคุณทุกคนที่ไปร่วมสนุกกันนะครับ”
แขกรับเชิญชื่นชมณเดชน์ว่าเป็นมืออาชีพ?
“ดีใจครับ ดีใจที่ทุกคนให้เกียรติมา จริงๆ แล้วเสียงกรี๊ดที่ได้ยินที่ดังที่สุดก็คือพี่ก้อง สหรัฐ ผมแทบจะเอาหน้ามุดดินเลยตอนนั้น พี่ก้อง พี่อี๊ด โปงลาง พี่ปั๊ป โปเตโต้ พี่แอม ยัวบอย ทีเจ น้องญาญ่า ทุกคนที่มาให้โอกาสผม ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ”
พาร์ทกับน้องญาญ่า?
“จริงๆ แล้วทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าแขกรับเชิญที่เราเปิดเผยเป็นน้องญาญ่า แฟนคลับส่วนนึงที่มาก็เป็นแฟนคลับน้องญาญ่าด้วย”
โดนแซวว่าเหมือนมางานแต่ง?
“มันก็เป็นช่วงที่เป็นอีกสีสันนึง พี่ฉอดก็ให้ไอเดียว่าเราจะทำยังไงให้มันดูสนุก ได้เรียนรู้เรื่องราวของเราสองคนไปในระดับนึงด้วย”
แกรนโอเพนนิ่งแล้ว มีการเรียกที่รัก?
“ก็ไม่ได้แกรนด์โอเพนนิ่งอะไร ก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เราก็รู้สึกสบายใจเพราะทุกคนที่ไปในคอนเสิร์ตวันนั้นเขาก็เป็นแฟนคลับเรา เขาไปให้กำลังใจเรา เขาอยู่กับเราแล้ว เราเลยรู้สึกสบายใจที่จะพูดอะไรบางอย่าง อยากจะบอกอฟนคลัยด้วย อยากจะบอกน้องญาญ่าด้วย มันเลยเกิดโมเมนต์ตรงนั้น”
ไม่มีสคริปต์?
“สคริปต์มันก็เป็นแค่ไกด์ๆ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้น ณ อารมณ์ตรงนั้นเอง วันแรกกับวันที่ 2 ก็ไม่ได้เหมือนกันซะทุกอย่างครับ”
เขินมั้ย?
“ก็เขินนิดหน่อย รู้สึกดีที่เราได้บอกคนที่เขารักเรา หมายถึงแฟนๆ เขาก็ดีใจ”
ได้เตรียมใจเกี่ยวกับกระแสติไว้บ้างมั้ย?
“กระแสไม่ได้เตรียมใจไว้เลยครับ(หัวเราะ) ว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น เราก็อยากจะให้ทุกคนที่จ่ายตังค์ไปดูได้มีความสุขเท่านั้นเอง แค่นั้นเองจริง”
นอยด์มั้ยออกมาอย่างนี้?
“เรานอยด์กับความรู้สึกของญาญ่ามากกว่า เราไม่ได้นอยด์ว่าเดี๋ยวคนจะมาด่าเรา เราเป็นห่วงความรู้สึกของน้องมากกว่า เพราะเขาก็อุตส่าห์มาช่วยเราทำโชว์โดยเฉพาะ”
อย่างวันแรกที่มีภาพออกไป มันมีผลกับวันที่2หรือเปล่า?
“ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยจนกระทั้งวันสุดท้าย ก็มีการพูดคุยกันเกิดขึ้น อันนี้ผมไม่รู้เรื่องมาก่อน ก็ยังไม่ได้เห็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น วันนั้นยังเพิ่งเสร็จคอนเสิร์ตหลังจากนั้นก็เคยได้ถาม ได้พูดคุยกันถึงเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น”
ได้คุยกับแม่ปลามั้ย?
“คุยครับ ก็บอก ว่ามันเกิดจากอะไร ว่าเราจะมีวิธีการแก้ไขยังไง แต่ว่าจริงๆแล้วพอโชว์มันออกไปแล้วการจะแก้ไขอะไรมันก็แก้ไขไม่ได้ ดีที่สุดเราก็อธิบายด้วยเหตุผลของเราที่เราได้เตรียมงานมา แต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองอยู่แล้ว ผมเข้าใจในเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว ก็น้อมรับไว้ ขอบคุณมากๆ”
ก็ไม่ได้คอมเมนต์อะไรมาจากแม่ปลาใช่มั้ย?
“ในเรื่องการคุยเรื่องงานอย่างละเอียดจะเป็นทางผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่ แม่ปลาจะคุยกับทางพี่ฉอดกับก้อยเองเสียมากกว่า รายละเอียดตรงนี้ผมจะไปแก้ไขอะไรเองไม่ได้ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามความสบายใจของคุณแม่ดีกว่า”
ณเดชน์พอเราได้มาเห็นทั้งภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวแล้วเรารู้สึกว่ามันแรงไปมั้ย เกินงานไปอย่างที่คนวิพากษ์วิจารณ์หรือเปล่า?
“เอาจริงๆเลยในมุมมองของผม ผมรู้สึกว่านั่นคือการแสดง มันคือโชว์นึงที่เป็นสเปเชียลโชว์ที่เกิดขึ้นในพาร์ทเดียวสำหรับเพลงนี้ ผมรู้สึกว่าเราอยู่ในโหมดของนักแสดงที่กำลังเพอร์ฟอร์มตรงนั้นออกมาเลยไม่ได้คิดถึงเรื่องเพศ เรื่องเซ็กส์ หรืออะไร มันคือโชว์มากกว่า”
ญาญ่าบอกผู้ชมคือผู้ปกครองที่คอยติชม ณเดชน์คิดเห็นเหมือนกันมั้ย?
“ก็มีส่วนสำคัญนะครับสำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนดู ความรู้สึกของทุกคนที่ได้รับ มันเป็นเหมือนกับการทำโพล เพราะทุกคนอยากจะรู้ว่าทำออกมาแล้วเป็นอย่างไร มันเหมือนเป็นการทำการบ้าน ทำการตลาด อย่างที่น้องได้พูดไปแล้วซึ่งน้องตอบคำถามดีมากๆ การรับฟังคนดู มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าคนดูรู้สึกแบบไหนกับสิ่งๆนั้นที่เราได้แสดงออกไป อาจจะมีการกลับมานั่งทำการบ้านว่าอะไรเหมาะอะไรไม่เหมาะ”