บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ผู้นำในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องสำหรับผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมเปิดการซื้อขายวันแรก 16 ธันวาคม 2562 โดยการเสนอขายหุ้น IPO ของ BAM เมื่อรวม Overallotment Option หรือ Green Shoe มีมูลค่า 30,888 ล้านบาท นับเป็นการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัทในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และ South East Asia และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “BAM”
หุ้น BAM ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนตลอดระยะเวลาของการเสนอขายหุ้นสามัญ ส่งผลดีต่อราคาหุ้นของ BAM โดยรวม เห็นได้ชัดจากการที่ BAM ได้ดำเนินการเปิดจองซื้อหุ้นสามัญที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกหรือไอพีโอสำหรับประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 25 – 29 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา แม้จะอยู่ท่ามกลางภาวะตลาดที่มีความผันผวน แต่หุ้นไอพีโอของ BAM ก็ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนและประชาชนที่จองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากผ่านธนาคารที่เป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้น คือ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ สะท้อนให้เห็นว่าผู้ลงทุนมีความมั่นใจในศักยภาพการเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความสามารถในการสร้างความเติบโตในอนาคตได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ผลการสำรวจความต้องการจองซื้อหุ้นของนักลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) ยังแสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และได้กำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายที่ 17.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดจากช่วงราคาเสนอขายที่ 15.50-17.50 บาท ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในวันนี้
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ประธานกรรมการบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวนขณะนี้มีสาเหตุหลักมาจากผลกระทบจากปัจจัยภายนอกประเทศ ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาศึกษาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนแต่ละบริษัทอย่างรอบคอบ สำหรับผลประกอบการงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 และ 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 3,311 ล้านบาท และ 4,882 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 47.5 %”
บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) หรือ BAM ได้จัดตั้งขึ้นหลังวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2540 ที่ก่อให้เกิดหนี้เสียสูงถึง 42% ของหนี้ในระบบสถาบันการเงินของประเทศ ด้วยจุดประสงค์เพื่อทําหน้าที่บริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs) และทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) ของธนาคาร กรุงเทพฯ พาณิชย์การ จํากัด (มหาชน) ซึ่งต่อมา BAM ได้ขยายขอบเขตการดําเนินธุรกิจให้ครอบคลุม NPLs และ NPAs ของสถาบันการเงินอื่นด้วย จนถึงปัจุจบัน BAM มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาแล้วกว่า 20 ปี และเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุด มีเครือข่ายครอบคลุมทุกภูมิภาค
การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นก้าวที่สำคัญของ BAM เพราะจะเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินในการขยายธุรกิจได้มากขึ้นในอนาคต และลดภาระหนี้ของบริษัทฯ ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารงานให้เทียบเท่าบริษัทเอกชน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจและความสามารถในการแข่งขัน ตอบสนองต่อสถานการณ์และสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป สามารถระดมทุนและเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายมากขึ้น และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อให้ BAM คงความเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น รวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับระบบสถาบันการเงินและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
นักลงทุนที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้จากหนังสือชี้ชวนในการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทที่เว็ปไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.bam.co.th และ www.set.or.th หรือติดต่อโทรศัพท์หมายเลข 02 630 0700