“เอ็มมี่” ควง “เต๋า” เปิดใจหลังเซอร์ไพรส์ขอแต่ง เล่าจุดเริ่มต้นความรัก

0
601

มีเรื่องให้ฮือฮาตลอด สำหรับสาวแซ่บอย่าง “เอ็มมี่ อมลวรรณ” หรือ เอ็มมี่ แม็กซิม ที่ก่อนหน้านี้เพิ่งถูกสามีทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงาน และน่าจะถือว่าเป็นการเปิดตัว เปิดหน้าเปิดตาสามีออกสื่อเป็นครั้งแรกด้วย

ล่าสุดเจ้าตัวก็ควงฝ่ายชายเที่ยวทะเลฝั่งอันดามัน สวีทหวานบนเรือ Seastarandaman พร้อมออกมาเปิดใจ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของความรัก รวมถึงอัปเดตแพลนงานแต่ง

เอ็มมี่ “ ไม่ได้สูบก็ไปไหนมาไหนด้วยกันและอยู่ด้วยกันตลอดมีโพสต์รูปแต่ผลก็ไม่ได้คิดว่าเค้าเป็นแฟนเราไง เจอกันหน้าลิฟท์เมื่อสี่ปีที่แล้ว”

เต๋า “เจอกันในลิฟตอนที่ผมกลับจากที่ทำงาน แล้วเค้าก็เดินมาบอกว่าพี่คะมีคีย์การ์ดไหม ผมก็เป็นห่วงเขา เพราะว่าต้องขึ้นไปชั้นผมก่อนแล้วเปิดบันไดหนีไฟ เพื่อที่จะลงมาได้ เค้าอยู่ชั้น7 ผมอยู่ชั้น 13 ผมก็เลยเดินลงมาส่งเขา และด้วยความเป็นห่วงเขา กลัวเค้าจะลืมคีย์การ์ดอีก ตอนแรกไม่รู้ว่าเขาเป็นเอ็มมี่เพราะตอนนั้นเค้าหน้าสดมาก ก็เริ่มมาจากความห่วงใย แล้วก็คุยกันมาตลอด แล้วผมจะทำผ้าม่านก็จะไปทั่วกรุงเทพ ก็จะเจอร้านอาหารอร่อยๆ ก็จะซื้อมาฝากเค้าฝากไว้หน้าล็อบบี้นะ แล้วก็จะไลน์บอกเค้าว่าอาหารอยู่ตรงนี้นะ ทีแลกไลน์ไว้เพราะว่ากลัวว่าเค้าจะลืมคีย์การ์ดอีกเพราะเอ็มมี่เป็นคนขี้ลืม”

เอ็มมี่ “ เค้าก็จะประมาณว่าวันนี้ถึงห้องปลอดภัยไหม ลืมคีย์การ์ดหรือเปล่า อยากกินอะไรไหมตอนแรกที่เจอเขาก็รู้สึกเฉยๆ รู้แค่ว่าทำไมคนนี้ใส่ทองเส้นใหญ่จัง”

เต๋า “แว๊บแรกยังไม่ได้ปิ๊งเขา เพราะอย่างที่บอกว่ามันเริ่มจากความห่วงใย พอรู้ว่าเค้าเป็นเอ็มมี่ ก็พอจะรู้ว่ามีแต่คนทำร้ายเขา ว่าเขา หลอกเขา ผมก็เลยเป็นห่วงเขา มันก็เริ่มมาจากตรงนั้นครับพอคุยกัน ด้วยความที่เขาเป็นคนดี เขาก็จะชวนผมทำบุญ ทำความดี เป็นจิตอาสาอะไรพวกนี้ มันเลยทำให้ความรู้สึกของผมมันมากกว่าเพื่อน”

เอ็มมี่ “ คือเริ่มเรื่องเค้าอยากเจอ เราปรากฏว่าช่วงนั้นเอ็มมี่ดูดวงรับดูดวง เค้าก็บอกว่ามาดูดวงให้หน่อย หนูก็เลยขึ้นไปดูดวงให้เขาบนห้อง ก็ดูดวงเลขเจ็ดหลักให้เขา แล้ววันนั้นเอ็มมี่ก็ไปดูดวงในรายการของพี่บุ๋ม ปนัดดา เขาถามว่าราศีใดมีเกณฑ์จะมีลูก เราก็ผ่าดวงให้เขา แล้วก็บอกว่าราศีสิงห์ แล้วเค้าก็ไปรับวันที่เอ็มมี่มีถ่ายรายการ เราก็จับมือเขาแล้วบอกว่าระวังจะมีลูกโดยที่ไม่ตั้งใจนะ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเราท้อง”

เต๋า “ก็คิดในวันที่จะขอเค้าเป็นแฟนว่าเค้าจะยอมเป็นแฟนกับเราไหม ด้วยความที่ผมเป็นคนธรรมดา ไม่หล่อ ไม่รวยเป็นคนบ้านๆ และเขาก็มีชื่อเสียงในระดับนึง ผมก็คิดว่าผมไม่คู่ควรกับเขา ไม่ได้กลัวแต่เป็นห่วงกันมากกว่า พอได้รู้จักเขาจริงๆเค้าเป็นผู้หญิงที่มีพลังบวกมาก คิดดีทำดีหมดทุกอย่าง ผมไม่เคยเข้าวัทำบุญ เค้าก็ชวนผมเข้าวัดทำบุญทุกอย่างเลยครับ เป็นจิตอาสากับโกบอยด้วยครับ”

เอ็มมี่ “ เค้าเคยหายไปและทุกครั้งที่เจอกันเค้าชอบเปิดเพลงอกหัก เราก็เลยถามเขาว่าทำไมชอบฟังแต่เพลงอกหัก ทำไมชีวิตถึงลบจัง ทำไมไม่คิดในแง่บวก ไม่ฟังเพลงบวกๆ ฟังเพลงเหมือนจะโดนทิ้ง เค้าก็บอกว่าเต๋าเป็นคนธรรมดา ซักวันนึงเอ็มมี่ก็คงจะต้องทิ้งเต๋าไป เค้าจะพูดแบบนี้มาตลอดในระยะเวลาสองสามปี มีวันนึงเห็นเค้าเดินมสกับผู้หญิงที่สวยมาก เราก็มองว่าผู้ชายคนนี้ขี้เหร่ แต่ทำไมมีแฟนสวยจังแล้วปรากฏว่าเค้าก็ไลน์มาบอกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แฟน เราก็อยากรู้จักเค้ามากขึ้น เพราะเค้าก็ซื้อข้าวมาให้เราทุกวันเลยเพราะตอนนั้นเอ็มมี่เป็นช่วงที่ขาลงมากใส่ข้อเท้า EM มีคดี มีหนี้ ไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน (น้ำตาคลอ) คือเราก็คิดว่าใครที่มาจีบเรา คงไม่มีใครที่จะจริงจังกับเราหรอก เราก็แค่คิดว่า กูใส่กำไลข้อเท้า EM ใครจะมาจริงจังกับกูว่ะ กูมีข่าวคดีเยอะมากใครจะมาจริงจังกับกูว่ะ แต่ปรากฏว่าเค้าก็ไม่หายไปไหนนะ เค้าดีกับเอ็มมี่มาก แม้กระทั่งรู้ว่าเรามีลูกแล้ว แล้วทำไมเค้ายังไม่ไป แล้วหนี้เอ็มหนี้เยอะมากเลยนะ เขายังอยู่กับเราแล้วเค้าก็บอกว่าเค้าเป็นห่วงเรา ก็ลองใจเขาหลายครั้งพูดตรงๆว่าอ่อยเค้าหลายครั้ง เคยให้เขาเข้ามาหาที่ห้องที่คอนโด เอ็มมี่อยากกินอันนี้ ซื้อมาให้หน่อยได้ไหม เขาก็ซื้อมาซื้อ เสร็จเค้าก็ไป บางทีหนูก็จะอยู่กับพี่ๆพอเขาเข้ามานั่งฟังเพลงเสร็จเขาก็กลับเค้าไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าเค้าอยากได้เราเลย เค้าสุภาพมาก ถ้าแค่เอ็มมี่แซวว่าอุ้ยใหญ่มั้ย ความเราทะลึ่ง เค้าก็จะเขินหันหน้าหนีแล้วกลับห้องไปเลย จนวันนึงเป็นวัน countdown แล้ว อยู่คนเดียวแล้วรู้สึกเหงามาก นี่ฉันเป็นเอ็มมี่ แม็กซิมฉันต้องอยู่คนเดียวจริงๆหรอ อีกคนเค้าก็ไปแต่งงานแล้ว ทำไมเรายังปิดกั้นตัวเองก็เลยบอกว่าเธอเราหิว ซื้อ KFC มาให้ได้ไหมเขาก็ปล่อยให้เอ็มมี่รอนะ”

เอ็มมี่ “ เริ่มแรกตอนที่เค้ามาจีบเราเราก็บอกเขาเพราะเรารู้ว่าเค้ามีผู้หญิงอยู่หกคนแต่เค้าไม่ได้บอกว่าเป็นแฟนซักคนเลยบอกเขาว่าให้ไปจบกับทุกคนให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาจีบเราเขาก็หายไปจริงๆประมาณหนึ่งอาทิตย์แล้วเขาก็โทรมาบอกว่าเค้าจบหมดแล้วนะแล้วก็โอเคในวันที่เราตัดสินใจจะคบกันจริงๆจะอยู่ด้วยกันก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรมา ว่าหนูก็เป็นเมียพี่เต๋าเหมือนกันนะคะ เราก็บอกว่าหรอคะ แล้วยังไงต่อคะจะคุยกันไหมเขาก็พูดพยายามที่จะทำให้เอ็มมี่โกรธเราก็ให้เขาคุยกันสุดท้ายผู้หญิงก็มาขอโทษเอ็มมี่”

เต๋า “ ทุกวันนี้เพราะผู้หญิงคนนั้นเค้าเดือดร้อนก็ติดต่อมาทางเอ็มมี่ช่วยหนูหน่อยได้ไหม หนูรถล้มหนูไม่มีเงินกินข้าว เอ็มมี่ก็โอนให้เขาทั้งทั้งที่เค้าว่ามีขนาดนั้น แต่ด้วยความที่เอ็มมี่เขาเป็นคนดีพอเค้าเห็นคอมเม้นต์อะไรที่ไม่ดีเค้าก็จะออกไปปกป้องเอ็มมี่”

เอ็มมี่ “ มีช่วงหนึ่งที่เค้าทักมาทุกวันเอ็มมี่ก็เลยชวนเขามาอยู่กับเอ็มมี่ไหม ทำงานอะไร กินอยู่ยังไงแล้วเขาก็พูดขึ้นมาคำนึงว่าหนูเป็นคนไม่ดีหนูเคยทำให้พี่เสียใจพี่อยากฝากชีวิตไว้ที่หนูเลยแล้วทุกวันนี้ไม่ว่าจะมีคอมเม้นต์อะไรที่ไม่ดีเขาก็ออกไปด่าเค้าก็ปกป้องแทนเอ็มมี่ซึ่งอันนี้มองว่าหลายคนที่เห็นอันนี้แรงแต่เอ็มมี่ไม่ได้เป็นแบบนั้น”

เต๋า “วันนั้นไปทำจิตอาสากับพี่โกบอย และพี่แชมป์ SDF ครับ แล้วผมก็คิดไว้นานแล้วว่ามันถึงเวลา เพราะเราก็คบกันมานานแล้วสี่ปีมันถึงเวลาที่ผมจะขอเค้าแต่งงานและผมเคยคิดไว้ว่าผมอยากให้ลูกอยู่ในวันพิเศษของเราทั้งคู่ แล้วน้องอะตอมเค้าก็อายุหนึ่งขวบห้าเดือนแล้ว เขาก็สามารถถือดอกไม้ได้แล้ว ผมก็เลยถือวันดีที่ออกมาจากเรือนจำระนอง เป็นวันขอแต่งงานครับโดยมีพี่โกบอยและพี่แชมป์ SDFเป็นคนช่วยวางแผน”

เอ็มมี่ “ เราก็ตกใจเพราะในชีวิตเราไม่คิดว่ามันจะมีใครมาขอเราแต่งงานที่ผ่านมามันเจอแต่เรื่องแบบไม่ดีเจอแต่ผู้ชายห่วยห่วยเราคบมาหมดแล้วทุกระดับพอคบคนรวยมากๆก็ห้ามนูนห้ามนี่ไม่ถ้าเราทำนุ่นทำนี่มันเสียเงินไปเยอะมากเพราะเค้าไปให้เราทำอันนั้นไม่ให้เราทำอันนี้แต่คุณไม่ได้ Support เราแต่พอมีเรื่องอะไรไม่เคยมีใครปกป้องเอ็มมี่ได้เหมือนเขา บางคนอาจจะบอกว่าชีวิตมันไม่มีหรอกเหมือนในละครแต่พี่พี่ทุกคนเชื่อไหมว่าถ้าวันนึงมีใครเอาปืนมาจ่อเอ็มมี่เค้าเป็นคนเดียวที่กล้าเอาตัวรับลูกปืนแทนเอ็มไม่ได้เค้าทำทุกอย่างให้เอ็มมี่ ตอนเขาขอแต่งงาน เขาแค่พูดว่ามันถึงเวลาแล้วที่พ่อจะขอแม่แต่งงาน

เต๋า “ลูกโตแล้ว อยากให้ลูกอยู่ในงานแต่งของเรา “

เอ็มมี่ “อยากให้ลูกมีความสุขในวันที่เรามีความสุขด้วย เหมือนลูกคนโตก็โชคดีที่มีเต๋าคอยสอน เพราะเขาอยู่ในช่วงวัยรุ่น ถามลูก ลูกก็โอเคด้วย เอ็มมี่มองว่าถ้าวันนี้เอ็มมี่ต้องแต่งงานกับใคร ถ้าลูกชายเอ็มมี่โอเค เอ็มมี่ก็จะโอเคด้วย แล้วเขารักเต๋า”

เต๋า “ทุกครั้งที่เขาไปสน. ผมก็ไปกับเขาตลอด เคยมีเพื่อนพี่น้องในกลุ่มเขาเห็นหมดว่าผมไปกับมี่ตลอด มีสองครั้งที่ผมไม่ได้ไปคือสน.โคกคราม ที่เขาโดนว่าเป็นลมทิพย์ กับศาลพระโขนง ผมติดงานสำคัญผมเลยไปไม่ได้ แต่ทุกครั้งในช่วงเวลา 4 ปีที่เราอยู่ด้วยกัน ผมอยู่กับเขาตลอด มีน้องมาถามว่าเพราะอะไร ผมก็บอกว่าถ้ามีคนมาทำร้ายแม่ เพื่อนที่อยู่ด้วยจะมีคนกล้ารับลูกปืนแทนแม่ไหม แต่ถ้าพ่ออยู่จะไม่มีใครทำอะไรแม่ได้”

เอ็มมี่ “ด้วยความที่เอ็มมี่มีลูกมาแล้ว 3 คน 3 สามี แต่ที่แต่งงานจริงๆ ครั้งแรกในชีวิต มีแค่คนเดียว สำหรับคนไทยมากกว่าหนึ่งก็คือเยอะแล้ว แต่เอ็มมี่จะบอกว่าไม่ผิดหรอกที่ผู้หญิงจะมีสักกี่ผัว แต่คนที่เราแต่งงานด้วย คนที่เราจะใช้ชีวิตอยู่กับเขาจริงๆ มันก็จะมีแค่คนเดียว การที่เราคบใครคนใดคนหนึ่ง เราไม่รู้เลยอนาคตในภายภาคหน้าจะมีความสุขแบบนี้ได้อีกไหม แต่ ณ วันนี้เอ็มมี่มีความสุขกับคนนี้ เค้าตายแทนเอ็มมี่ได้ เขาปกป้องเอ็มมี่ในทุกอย่าง แค่นี้ก็พอแล้วไหม ไม่ต้องพูดหรอกว่าเอ็มมี่มีกี่ผัว เอาตัวคุณให้ดีก่อน ตัวคุณมีมาแล้วกี่ผัวกี่เมีย กว่าคุณจะมาจบที่คนนี้ เอาแบบนี้ดีกว่า แต่คนที่ดีกับคุณที่สุดและตายแทนคุณได้จะมีสักกี่คน ชีวิตแบบในละครมีไม่มากนักหรอก”

เอ็มมี่ “งานแต่งจัดวันที่ 9 ม.ค. จัดในวันเกิดคุณแม่เอ็มมี่ คุณแม่ไม่ได้มีความสุขนานมากแล้ว ก็เลยจะถือโอกาสนั้นจัดงานวันเกิดให้คุณแม่ด้วย และเป็นงานแต่งงานของเราด้วย เอ็มมี่บอกเลยนะคะ ทุกคนก็ต้องคาดฝันว่าผัวเอ็มมี่ต้องรวย ต้องมีสินสอดเยอะ เอ็มมี่จะพูดว่าไม่มีสินสอด แต่มีซองให้แม่เรา เป็นค่าขอขมา ขอโทษแม่ ที่วันนี้ลูกสามแล้วแต่ไม่เคยได้แต่งงาน (เสียงสั่น) แต่วันนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตของลูก ก็อยากขอขมาแม่ แค่นั้นเองค่ะ
เต๋า “ผมแค่ผู้ชายธรรมดาคนนึง หน้าตาบ้านๆ ไม่หล่อไม่รวย อยากดูแลแม่อะตอมให้ดีที่สุด ดูแลลูก และลูกเขาอีกสองคน เหมือนผู้ชายธรรมดาทั่วไป”