เล่นหนัก จัดใหญ่ ปีไหนๆ ก็ไม่เคยพร่องความปัง ยังคงสนุกและแปลกใหม่อยู่เสมอ! สำหรับเวทีการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 ล่าสุด คุณศรัณย์พัส ศรีสวัสดิ์ ผู้บริหาร บอสโปรเกรซ กรุ๊ป เจ้าภาพจังหวัดเชียงราย จัดการประกวดรอบ LANNA FASHION SHOW (ล้านนา แฟชั่น โชว์) เปิดโอกาสให้ดีไซเนอร์ของผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020
ทั้ง 77 จังหวัด ได้โชว์ศักยภาพสร้างสรรค์ชุดชาติพันธุ์ล้านนาในจังหวัดเชียงรายที่มีมากมายหลากหลายชนเผ่า ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เหล่าดีไซเนอร์ทุกจังหวัดต่างนำเสนอชุดชาติพันธุ์ที่ผสมผสานความเป็นไทยอย่างสร้างสรรค์ สวยงาม ส่วนนางงามนั้นนำเสนอออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ท่ามกลางกองเชียร์และแฟนนางงาม แต่รางวัล Best Costume Lanna Fashion Show จะตกเป็นของใคร งานนี้หนักใจแทนคณะกรรมการ เพราะทุกชุดมีความสวยงาม ประณีต และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดเย็บได้อย่างลงตัวเช่นนี้ หลังโชว์เสร็จสิ้น พิธีกรประกาศ 6 ชุดชาติพันธุ์ที่ผ่านเข้ารอบ ได้แก่
– ชุดภูผาราชินี ของ มิสแกรนด์ปัตตานี
– ชุดเหนือสุดไทยสายใหญ่แห่งชาติพันธุ์ ของ มิสแกรนด์เชียงราย
– ชุดมหาเทวีอุสาปายโค ของ มิสแกรนด์ภูเก็ต
– ชุดชาติพันธุ์สีสันแห่งชีวิต ของ มิสแกรนด์เพชรบูรณ์
– ชุด วิวาห์ชาติพันธุ์ ของ มิสแกรนด์กรุงเทพมหานคร
– ชุดตุง Spirit Of Lanna ของ มิสแกรนด์เชียงใหม่
ซึ่งชุดที่คณะกรรมการลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่ากับเหมาะกับตำแหน่ง Best Costume Lanna Fashion Show มากที่สุดได้แก่ ชุดชาติพันธุ์สีสันแห่งชีวิต ของ มิสแกรนด์เพชรบูรณ์ ออกแบบและตัดเย็บโดย ธีรพัฒน์ คงชัยพิพัฒน ,สไตลิสต์โดย แมค วัชรพล คว้ารางวัล 10,000 บาท ไปครอง
อีฟ ยุพลักษณ์ ลากุล มิสแกรนด์เพชรบูรณ์ เผยว่า “วินาทีประกาศผลว่าอีฟได้รางวัลนี้คือตกใจมาก ช็อคค่ะ รู้สึกฉันมีตัวตนบนเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์แล้ว เราทำได้แล้ว เพราะที่ผ่านมาอีฟก็พยายามทำเต็มที่แต่ก็ยังไม่ชนะ คือความรู้สึกของคนเคยตกรอบนะคะ พอได้ชัยชนะรู้สึกดีใจมาก มีตัวตนและประสบความสำเร็จ ขอบคุณความพยายามของตัวเอง ขอบคุณทีมงานทุกคนที่ทำให้อีฟได้รางวัลนี้ มีความหมายมากจริงๆ ค่ะ 
สำหรับชุดชาติพันธุ์สีสันแห่งชีวิต เป็นชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการแต่งกาย เครื่องประดับของชาติพันธ์ในพื้นที่ราบสูง ทางภาคเหนือ นำมาผสมกับความเป็นแฟชั่นทางตะวันตก ออกแบบให้ชุดมีความสนุกสนาน และใช้สีสันที่สดใส เพื่อให้ดูทันสมัย น่าค้นหา ค่ะ”
