หลังจากสาวขวัญ อุษามณี ออกมายอมรับเป็นนางเอกเทกองจริง เมื่อกู่ เอกสิทธิ์ ผู้กำกับละครได้โพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมและมีดาราเข้ามาคอมเมนต์มากมาย ทำให้กลายเป็นประเด็นร้อนแรง ล่าสุดทางพี่ฉอด สายทิพย์ เองได้ออกมาเคลียร์ถึงเรื่องดังกล่าว ยันไม่ติดใจ ย้ำชัดทีมงานของตนไม่ได้สื่อสารผิดพลาด แต่ไม่อยากโทษใคนผิดใครถูก พร้อมเผยหานางเอกใหม่แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร ด้านกู่ เอกสิทธิ์ เล่าเหตุการณ์ในกองเจอกันแค่ทักทาย ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เมื่อวานน้องขวัญออกมาพูดแล้วได้ฟังหรือยัง ?
พี่ฉอด “ก็ได้ยินบ้างค่ะ”
หลายคนอยากทราบเหตุผลที่แท้จริงเพราะขวัญก็พูดไม่เคลียร์ ?
พี่ฉอด “เรื่องราวที่เกิดขึ้น พี่ว่าทุกคนก็พอจะได้ยินข่าวกันแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น มาถึงตรงนี้ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว สำหรับพี่ พี่มองว่ามันก็คือปัญหาหนึ่งที่มันเกิดขึ้นในการทำงานของพี่ ซึ่งพวกพี่ก็มีหน้าที่ต้องแก้ไขปัญหา ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ ทุกอย่างมันถูกแก้ไขไปหมดแล้ว พี่ก็เลยรู้สึกว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาพูดกันอีกว่าใครถูกใครผิด หรือรายละเอียดเป็นยังไง”
ไม่โกรธแล้ว ?
พี่ฉอด “ไม่ได้โกรธเลยตั้งแต่ต้นค่ะ”
เมื่อวานขวัญบอกรักพี่ฉอดหลายครั้ง ?
พี่ฉอด “พี่ก็รักขวัญ”
ขวัญบอกว่าเป็นเรื่องของการสื่อสารผิดพลาดหลายคนก็อยากรู้ว่ามันผิดพลาดตรงไหน ?
พี่ฉอด “เวลาที่มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็ตาม พี่ว่าคนที่จะรู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็คงจะเป็นคนที่อยู่ตรงนั้น ในสถานการณ์ตรงนั้น ซึ่งมีไม่กี่คน แต่ว่าปัญหาที่มักจะเกิดต่อมาก็คือ เราอาจจะมีมุมมองคนละมุม หรือความคิดเห็นคนละแบบ แล้วพอต่างฝ่ายต่างพูดกันไปต่างๆ แล้วก็จะมีพวกที่ไม่รู้ แต่อยากแสดงความคิดเห็น แล้วเรื่องราวแต่ละเรื่องก็จะลุกลามใหญ่โตไปเรื่อยๆ ซึ่งพี่ก็ไม่อยากให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนั้น พี่ถึงได้บอกว่ามาถึงวันนี้มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องมาพูดกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใครถูกใครผิด พี่ว่าวันนี้ได้แก้ปัญหาในส่วนของพี่ไปบ้าง”
มันกระทบอะไรบ้าง ?
พี่ฉอด “เวลาทำละครมันจะเกี่ยวเนื่องกับคนเยอะ แล้วก็เรื่องของคิวนักแสดง ทีมงาน ผู้กำกับ หรือแม้แต่ทางช่อง ซึ่งเราเองก็มีเดทไลน์กับทางช่อง”
ขวัญบอกจะชดใช้ค่าเสียหายให้ ?
พี่ฉอด “ไม่เป็นไรค่ะ มันอาจจะไม่ได้เป็นปัญหาเรื่องเงินทองอย่างเดียว แต่ว่าอย่างที่บอก ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องขึ้น ในส่วนตัวพี่เอง พี่เอส พี่กู่ สิ่งที่เราต้องทำก็คือต้องไปขออภัย หลายๆ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน แล้วก็พยายามจะแก้ไขปัญหาต่อไป เช่น เราต้องไปขออภัยนักแสดงทุกท่านที่มาแล้วไม่ได้ทำงาน หรือว่าทางช่องที่งานมันล่าช้าไป”
เปลี่ยนตัวนักแสดงเลย ?
พี่ฉอด “อันนี้เซนซิทีฟนิดหนึ่ง เพราะพี่ก็ไม่อยากให้พูดกันไปว่า พี่ถอดขวัญ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ จริงๆ หลังจากวันนั้นที่เรารู้ว่าน้องขวัญเล่นไม่ได้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สิ่งที่เราต้องทำโดยด่วนที่สุดก็คือหาคนอื่น ซึ่งมันคือสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วอัตโนมัติ ไม่เกี่ยวกับการถอดหรือไม่ถอด เพียง
แต่ว่าเราต้องทำงานไปข้างหน้า เราก็ต้องหาคน”
มันเป็นปัญหาของการข้ามช่องไหม ?
พี่ฉอด “จริงๆ มันไม่ได้มีปัญหาอะไรในส่วนนั้นสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามองว่าเป็นปัญหาการเข้าใจผิด เรามองแบบนั้นก็ได้ค่ะ อีกอย่างหนึ่งต้องขออนุญาตพูดนะคะ ตอนที่เราพูดกันถึงการสื่อสารกันผิดพลาด หรือว่าการเข้าใจผิดใดๆ พี่ว่าคนที่ต้องรับในเรื่องนี้ก็คือทีมงานที่ประสานงาน ซึ่งพี่ขออนุญาตพูดแทนเขานิดหนึ่ง เพราะเขาเป็นแค่น้องทีมงานตัวเล็กๆ คงไม่มีโอกาสได้มาชี้แจง หลังจากเกิดเหตุการณ์ปุ๊บ สิ่งที่เราต้องทำคือเช็กก่อนเลยว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องตรงไหนหรือเปล่า ซึ่งเราก็ได้เช็กแล้ว น้องมีหลักฐานทั้งหมด ก็เลยคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นประเด็นการเข้าใจผิดจากฝั่งทีมงานของเรา แต่ก็ไม่ทราบจริงๆ ว่าผิดจากฝั่งใคร”
เพราะวันนั้นยังไม่ถึงกอง ?
พี่ฉอด “ยังไม่ถึงค่ะ พอดีวันนั้นพี่กับพี่เอสมีงานอีกที่หนึ่ง แล้วก็ยังไปไม่ถึงกอง ก็ได้แต่ฝากพี่กู่ ขอโทษหลายท่านที่อยู่ตรงนั้น บางคนถึงกองแล้ว บางคนยังไม่ถึง รวมถึงพี่ๆ ทาง PPTV ด้วย ซึ่งพี่ๆ ก็น่ารักมาก เพราะตอนนี้สิ่งที่มันเกิดขึ้นก็คือ ขอโทษกันและกัน เราก็ได้ข้อสรุปอันหนึ่ง เวลามันเกิดอะไรขึ้น แล้วพูดคำว่าขอโทษกัน มันไม่ได้แปลว่าใครถูกใครผิด การขอโทษหมายความว่า เรามีความรับผิดชอบเกิดขึ้น แล้วเราก็มีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งพี่ว่าตรงนี้มันโอเคที่สุดแล้ว ในสิ่งที่มันเกิดขึ้น”
พี่กู่อยู่ในเหตุการณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนั้น อารมณ์เป็นยังไง ?
กู่ “ไม่สะเทือนใจและไม่ได้โกรธ แต่งงมากกว่า เพราะจริงๆ เหตุการณ์ในวันนั้นพี่กับน้องคุยกันแค่คำเดียวคือคำว่า สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ แล้วพี่ก็บรีฟงานกับพี่ตั๊ก มยุรา ต่อ หลังจากนั้นก็ลงไปถ่ายงานต่อ ซึ่งยังไม่ถึงส่วนของน้อง ก็รู้สึกว่าข้างบนเสียงดังนิดหนึ่ง เราก็เอ๊ะมีเรื่องอะไร สุดท้ายเขาบอกว่ามีปัญหานิดหน่อย เราก็รอฟังว่ามีเรื่องอะไร สุดท้ายน้องเขาก็กลับเลย เรารู้เท่านี้”
เขาไม่ได้มาชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น ?
กู่ “อ๋อไม่ครับ น้องพูดกับพี่แค่สวัสดีค่ะ พี่ก็เลยไม่รู้ว่าอะไร หลังจากนั้นเสร็จปุ๊บ พี่ก็งงๆ ก็เลยต้องโพสต์ว่ากองถ่ายควรงดนะ เพื่อที่จะไปบอกนักแสดงที่เขามาว่าเกิดอะไรขึ้น ก็บอกได้แบบกระท่อนกระแท่นเพราะก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นฉะนั้นสิ่งที่โพสต์คือความงง ไม่ได้โกรธ ไม่ได้อะไร คือความงงจริงๆ”
แต่นักแสดงร่วมหลายคนก็เข้ามาคอมเมนต์ในไอจีเรา เพราะเขาเคยเจอประสบการณ์เดียวกันหรือเปล่า ?
กู่ “อันนั้นพี่ก็ไม่ทราบ ถ้าพี่ไม่เจอกับตัวพี่จะไม่พูด ฉะนั้นจะไม่สนอะไรทั้งสิ้นเพราะแต่ละคนปฏิบัติต่างกันอยู่แล้ว แต่พอมาเจอแบบนี้ก็ อ้าวเหรอ ไม่มีอะไรก็งง”
วันนั้นเราเสียขวัญจริงหรือเปล่า ?
กู่ “ขวัญพี่ยังอยู่ แต่ขวัญเดินจากพี่ไปแล้ว น่าจะเสียหรือเปล่า”
ตอนนี้คือได้นักแสดงใหม่เรียบร้อยแล้ว จะกระทบกับงานไหม ?
พี่ฉอด “อันนี้ขอยังไม่พูดแล้วกันค่ะ เดาว่าถ้าพี่บอกชื่อไปเดี๋ยวน้องๆ ก็ต้องไปถามเขารู้สึกยังไงที่มาแทน เขาก็จะเดือดร้อนเปล่าๆ ไว้ให้ทั้งช่องแถลงเองดีกว่า”
ในอนาคตจะสามารถร่วมงานกับขวัญได้ไหม ?
พี่ฉอด “พี่ไม่ได้มีปัญหากับใคร เมื่อวานเราก็ได้ฟังกันแล้ว น้องก็น่ารัก น้องขอโทษ พูดถึงพี่เยอะมาก พี่ไม่ได้ติดอะไร”
ในฐานะคนดูแลภาพรวมของละคร เป็นครั้งแรกไหมที่เจอปัญหาแบบนี้ ?
พี่เอส “วันที่เกิดเหตุการณ์ก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ติดธุระอยู่ข้างนอก ยังไม่ได้เข้ากอง แต่ส่วนตัวผมโฟกัสที่การแก้ปัญหาแล้วไปข้างหน้ามากกว่าครับ เหตุการณ์วันนั้นก็ได้รับแจ้ง ตอนที่เกิดเหตุกองก็โทรมา ก็รับทราบ โอเคต้องหาทางแก้ปัญหา อันดับแรกเวลาเกิดปัญหาคือเราต้องเช็ก ฟังของเราก่อนว่าสื่อสารผิดพลาดอะไรหรือเปล่า ตรงนี้พี่ว่าพี่ฉอดชี้แจงไปชัดเจนแล้วนะครับ ถ้าเกิดความผิดพลาดจากฝั่งเรา เราก็ต้องยอมรับ ในแง่ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ฉะนั้นพอเช็กแล้วเราก็คิดว่าเรามีความชัดเจน ในการสื่อสารเพียงแต่มันจะผิดพลาดตรงไหน ที่ทำให้น้องเข้าใจผิดอันนี้พี่ก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่สุดท้ายเรื่องมันผ่านไปแล้วเราโฟกัสเรื่องการไปข้างหน้ามากกว่า”
พี่ฉอด “เราต้องมูฟออนค่ะ”
คิวเรื่องการฟิตติ้งมีผลกระทบไหม ?
พี่ฉอด “ก็เลื่อนไปค่ะ จริงๆ วันนั้นคือถ่ายเทลเลอร์ เป็นทีเซอร์ที่ทางช่องต้องเอาไปใช้กับลูกค้า ก็ไปขออภัย พี่ถา สถาพร ช่อง 25 ก็อย่างนี้ล่ะค่ะ ก็ไปขอโทษๆ ทุกคน สุดท้ายทุกอย่างก็จบด้วยดีค่ะ รอดูอีกทีแล้วกันว่าเป็นใครรอให้ช่อง 25 แถลงค่ะ โยนไปที่พี่ถา (หัวเราะ)”