นั่งแท่นผู้จัดละครเรื่องแรกให้กับช่อง พีพีทีวี สำหรับสาวจุ๋ย วรัทยา ในเรื่อง จังหวะหัวใจนายสะอาด พร้อมดึงสามีหนุ่มพุฒ พุฒิชัย เป็นพระเอกประกบคู่สาวใหม่ ดาวิกา งานนี้หลายคนเลยออกปากแซวว่าเดินตามรอยหน่อย บุษกร หรือเปล่า ซึ่งสาวจุ๋ยเองก็ยิ้มรับ ยันไม่หวงเลิฟซีนใหม่ ดาวิกา เข้าใจทำงาน ส่วนเรื่องแพลนมีทายาทขอปล่อยธรรมชาติ
ถามถึงบทบาทใหม่ในการเป็นผู้จัดละครครั้งแรก?
“ตื่นเต้นค่ะ เพราะเหมือนเป็นหน้าที่ใหม่ ถ้าเป็นนักแสดงเราจะรับผิดชอบแค่บทบาทนั้น แต่อันนี้ต้องรับผิดชอบทุกคนในกอง ไม่ใช่เฉพาะแค่นักแสดงอย่างเดียว ยังมีทีมงานที่ต้องดูแลกันตลอดทั้งเรื่อง”
จับพลัดจับผลูยังไงถึงมานั่งแท่นผู้จัดฯ ได้?
“อันนี้ต้องขอขอบคุณพีพีทีวี รวมถึงผู้ร่วมทุนที่มาจากเมืองจีน เขาเหมือนให้โอกาสและมองเห็นศักยภาพของเราก่อนที่เราจะมองเห็นตัวเองอีก บอกว่าอยากเป็นผู้จัดฯ ไหม ลองเป็นให้ได้ไหม แล้วพอปรึกษาพุฒ เขาก็บอกว่าอยากให้ลองทำดูเพราะเป็นอะไรใหม่ๆ ออกจากคอมฟอร์ตโซนแล้วมันจะเป็นยังไง เลยตัดสินใจลองทำดู”
20 ปีที่โลดแล่นในวงการบันเทิง ช่วยกับการเป็นผู้จัดฯ ได้มากน้อยแค่ไหน?
“จำนวนปีนี่น่ากลัวมาก บ่งบอกอายุเลย(หัวเราะ) เอาจริงๆ ประสบการณ์ในความเป็นนักแสดงมันก็มี ได้มาจากทุกๆ กอง ทุกๆ ช่องที่เคยไปทำมา แล้วก็ยังเห็นประสบการณ์จากพี่ๆ ที่ผันตัวเป็นผู้จัดฯ ที่เราก็เคยไปเล่นมาแล้วหลายเรื่อง ได้เห็นถึงความยากลำบาก และปัญหาที่เกิดขึ้นเหมือนกัน เราก็ทำใจเตรียมตั้งรับ เพราะทุกอาชีพทุกงานมันก็มีปัญหาอย่างแน่นอน คิดว่าจะผ่านมันไปได้โดยที่เครียดน้อยลง”
ขอคำปรึกษาพี่ๆ คนไหนวงการบ้างไหม?
“จริงๆ ก็ปรึกษาทุกคน แต่ว่าเลือกเรื่องที่จะปรึกษา แล้วก็โชคดีที่ได้ทีมงานที่ดีที่ซัพพอร์ตกัน ได้พี่นาย(สรัสวดี)มาเป็นผู้กำกับให้ ซึ่งพี่นายเป็นผู้กำกับที่ทำการบ้านมาละเอียดมาก ฉะนั้นจุ๋ยแทบไม่เหนื่อยเลย”
เรื่องแรกประเดิมพระเอกคือสามีตัวเองเลย รีเควสต์เองหรือเปล่า?
“เปล่าเลย จริงๆ ใบสั่งจากทางจีนคือพุฒต้องเป็นพระเอก เพราะเขาก็มีชื่อเสียงอยู่ที่จีน ใบสั่งที่ 2 ก็คือนางเอกเป็นน้องใหม่(ดาวิกา) น้องใหม่เนี่ยอาจจะไม่ได้รู้จักในบทบาทของนักแสดง แต่จะรู้จักในฐานะนางแบบที่สวยและมีคนติดตามเยอะ เลยอยากที่จะเอาน้องใหม่ไปและตัวเขาก็มีศักยภาพมากๆ เหมาะมากที่จะเป็นตัวแทนของประเทศไทย แล้วไปเป็นนางเอกที่มีชื่อที่โน่น เพราะว่าอันนี้โชคดีมากๆ ที่ทางจีนซื้อเราตั้งแต่ยังไม่ได้ทำเลย ซึ่งจะได้ฉายพร้อมกับ WETV แล้วก็แพลตฟอร์มเทนเซ็นต์วิดีโอ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใหญ่มากๆ ของประเทศจีน ถ้าใครได้เข้าไปเล่นในนี้ก็คือจะโด่งดัง เลยหวังว่าอยากจะให้น้องใหม่ประสบความสำเร็จที่เมืองจีนยิ่งขึ้นไปอีก แล้วก็อยากให้พุฒประสบความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไป รวมถึงน้องนักแสดงทุกคนมีชื่อมีเสียงไปด้วยกัน”
(…มีต่อท่อนทิพย์)
พอเรื่องแนกก็ดึงสามีมาเล่น หลายคนก็แซวว่าเราตามรอยพี่หน่อย บุษกร หรือเปล่า?
“ชีวิตมันก็เหมือนพี่หน่อยมากๆเลยค่ะ เราเลือกไม่ได้ไง เรามีสถานะเป็นแบบนี้ไปแล้ว จุ๋ยแยกบทบาท อย่างวันนี้เราก็แยกหน้าที่ของเรา เพื่อไม่ให้คนติดภาพความเป็นครอบครัว อยากให้พุฒ กับใหม่ เป็นพระนางในฝันของทุกคน เราเองก็ทำการบ้าน ดูซีรี่ย์ทั้งจีน เกาหลี แล้วเห็นฉากเลิฟซีน ก็จินตนาการเป็นเขา 2 คนไปเลยนะ ไม่ได้คิดว่าพุฒเป็นคนในครอบครัวเลย เหมือนเราสลัดภาพนั้นไปเลยค่ะ ให้การทำงานแยกออกจากกันไปเลย”
เลิฟซีนเราห่วงไหม?
“ไม่หวงนะ อยากให้จิ้นมากเลย ในความเป็นครอบครัวมันมีความไว้ใจ เชื่อใจกันมากพออยู่แล้ว เราถึงเลือกแต่งงานกัน ในเรื่องของการทำงานทุกคนแยกแยะได้ และพุฒไม่ใช่ไม่เคยผ่านเลิฟซีนอื่นๆใดๆมา จะเป็นเรื่องที่เราเป็นผู้จัดจะเป็นอะไรไป เราก็อยากให้เป็นโรแมนติกคอมเมดี้ที่พาคนดูไปได้จริงๆ”
แต่ไม่ได้ผูกขาดพระเอกคนนี้ใช่ไหม?
“นี่คือคิดในใจว่าถ้ายังมีโอกาส ถ้าเขายังจ้างหนูอยู่นะ หนูคิดพระเอกในหัวไว้หมดแล้วค่ะ ไม่ใช่พุฒ เราอยากจะทำอะไรที่มันดูแปลกใหม่ แต่ว่าครั้งแรกเป็นพุฒ มันดีตรงที่ว่ามันง่าย และมันเป็นใบสั่งด้วยว่าอยากให้พุฒเป็นพระเอก”
อย่างมาทำงานนี้อาจจะมีความเครียดเพิ่มมากขึ้น แล้วแพลนมีทายาทจะยังไงดี?
“เห้อ..เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลักหนีไม่ได้จริงๆ ก็คงปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ จุ๋ยคิดว่าธรรมะจัดสรร ที่จุ๋ยยังไม่สามารถจะมีได้เพราะยังไม่ถึงจังหวะที่ควรจะมี เพราะถ้าจุ๋ยมีก่อนหน้านี้งานแบบนี้คงจะลำบากน่าดู เขาคงให้จุ๋ยได้เปิดทางอพไรไปก่อน และคงมาในเวลาที่ถูกที่ควร หนือคุยกันแล้วว่า ถ้าจะยังไม่มี ยังรักเขาอยู่ไหม ไม่มีปัญหาก็ยังรักกันอยู่ “
อายุไม่เป็นปัญหา?
“จริงๆคนที่มีได้ถึง 42 ก็ยังมีกันเลยนะคะ ตอนนี้ถ้าเอาจริงๆก็ยังพอมีได้ เราก็ปรึกษาคุณหมอ คือมันยังไม่ได้สิ้นหนทาง ยังไม่ได้ถึงขั้นทำเลยหรือปรึกษาคุณหมอจริงจัง ก็ยังเป็นธรรมชาติอยู่และไม่ค่อยมีเวลาด้วย ก็เลยยังไม่ได้เป็นจังหวะที่เหมาะ”
ต้องรอให้จบโปรเจ็กต์นี้ก่อนไหม?
“คือตอนนี้ชิวเลยค่ะ ปล่อยสบายๆ มาก็มา ไม่มาก็ไม่เป็นไร ถ้ามาช่วงนี้ เอาจริงๆหนูไม่ได้รู้สึกอะไรนะ มีหลายคนที่ดูแลเรื่องนี้ให้ได้ และพี่นายหนูไว้ใจเขาเลยว่าเขาจะทำงานออกมาได้อย่างดี หนูอาจจะไปดูในบางจุด เพราะตอนนี้จุ๋ยวางรากฐานไว้หมดแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเงิน โลเคชั่น ก็ไปด้วยทุกครั้ง ดูเองทั้งหมด เรื่องเสื้อผ้า เราดูครบวงการหมดแล้ว ตอนนี้การทำงานมันมาเหมือนครึ่งทางแล้ว อีกครึ่งทางคือการถ่ายทำเลยคิดว่าน่าจะวางใจได้”
