กระแสจิ้นแรงมากเลยทีเดียวสำหรับหนุ่มต่อ ธนภพ และสาวใบเฟิร์น นพจิรา จากละครหัวใจศิลา จนมีบางคนถึงขนาดออกปากแช่งแฟนตัวจริงอย่างสาวมีน ชุติญา ให้ประสบอุบัติเหตุ ล่าสุดได้เจอหนุ่มต่อ เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว ไม่ขอเรียกคนแช่งแฟนสาวของตนว่าแฟนคลับ
ถามถึงประเด็นแฟนคลับดราม่าคู่จิ้นกับเฟิร์น จนทำให้กลับมาติดอันดับในทวิตเตอร์อีกแล้ว ?
“ขอบคุณครับ ติดเทรนทวิตเตอร์อีกแล้วครับ ให้ผมพูดอะไรดีครับ”
มันมีหนักถึงขั้นแช่งแฟนตัวจริงของเราให้เสียชีวิตเลย ?
“เดี๋ยวๆ ครับ ขอแยกก่อน แฟนคลับคือแฟนคลับ คนแช่งผมของไม่เรียกว่าแฟนคลับ เราแยกก่อน”
มีโอกาสได้เห็นข่าวไหม ?
“ไม่เห็นครับ คือผมรู้สึกว่าเราไม่สามารถตราที่หน้าได้ว่าคนไหนคือแฟนคลับ บอกไม่ได้ว่าแฟนคลับเรามาว่าแฟนเรา หรือแฟนคลับเราไปว่าเพื่อนร่วมงานเรา มันบอกไม่ได้ เพราะไม่มีใครเห็นนิว่าเขาคือใคร และมันก็เป็นแค่โลกในอินเตอร์เน็ต ผมเลยบอกไงว่าทุกวันนี้ผมไมได้มีคนรัก 100 เปอร์เซ็นต์ไง อาจจะด้วยตัวผมเอง หรืออะไรก็ตาม แต่ผมรู้สึกว่าผมไม่อยากโทษใคร”
ส่วนตัวเราตกใจไหม ว่าเรื่องเป็นถึงขั้นนี้เลยเหรอ ?
“ไม่ตกใจครับ คือผมรู้สึกว่าถ้าผมผ่านตอนฮอร์โมนมาได้ ทุกอย่างมันปกติมาก”
พอทราบไหมว่าเขาแบ่งกันเป็นสองฝ่ายไปแล้ว ฝ่ายหนึ่งเชียร์เรากับแฟน แต่อีกฝ่ายเชียร์เรากับเฟิร์น ?
“จริงๆ ผมว่าเขาไม่ได้ตั้งใจแบ่งกันหรออกครับ สุดท้ายแล้วเราก็คนไทยเหมือนกัน จะมาบอกว่าเราแบ่งฝักแบ่งฝ่ายไปก็ไม่ได้อะไร สุดท้ายขอแค่เขาเสพผลงานของเราแล้วกัน ถามว่าวันนี้ผมลำบากใจไหม ผมก็ลำบากใจ เพราะผมไม่อยากสร้างปัญหาให้ใคร ทั้งแฟนผมเอง หรือตัวเฟิร์น ทุกคนไม่เกี่ยวอะไรเลยครับ ดังนั้นจึงไม่ควรจะมาสร้างประเด็นให้ใคร”
มีนว่ายังไงบ้างพอมีเรื่องนี้เกิดขึ้น ?
“ก็บินอย่างเดียวเลยครับ ส่วนใหญ่จะทำงานเป็นปกติ จะบอกว่าจริงๆ พวกผมไม่ใช่ไม่สนใจข่าวเลยนะครับ แต่แค่รู้สึกว่าเราโฟกัสไม่ได้ พอมันเป็นในโลกโซเชียลเราเลยไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เราไม่รู้ตัวตนเขาจริงๆ เพราะสุดท้ายแล้วมันอาจจะมาจากคนคนเดียวเลยก็ได้ แบบเล่นหลายแอคเค้าท์อะไรประมาณนี้ครับ”
ปลงไหม เพราะใครที่อยู่รอบข้างเราก็จะโดนไปหมด ?
“ไม่ปลง เพราะว่าทุกวันนี้เวลาผมมางาน คนรอบข้างผมยังดี ผมเลยรู้สึกว่าเราอยู่กับสิ่งที่เป็นพลังใจให้เราดีกว่า”
พอมีข่าวได้คุยกับเฟิร์นไหม ?
“ช่วงนี้เฟิร์นก็ถ่ายละครหนักครับเท่าที่เห็นอัปเดต และล่าสุดที่ผมเข้าไปคุยงานกับผู้ใหญ่ช่องวัน ทุกคนก็บอกว่าอย่างเฟิร์นเองก็หนักเพราะต้องออกกองตลอด ส่วนผมก็ต้องเร่งปลูกผม เดี๋ยวต้องบินไปแฟนมีต ไหนจะทำงานอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าพูดตามตรง หลังๆ นี้ผมกับเฟิร์นยังไม่ได้ติดต่อกันเลย”
ด้วยกระแสดราม่าต่างๆ ส่งผลต่อความสนิทของเราไหม ?
“กระแสไม่ได้ทำให้ห่างครับ แต่เรื่องที่เราแยกย้ายไปโปรเจกต์อื่นทำให้เราห่าง ทุกวันนี้ผมก็ต้องเจอคนร่วมงานใหม่ เฟิร์นก็ต้องเจอคนร่วมงานใหม่ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีแล้ว เราควรจะได้ทำงานกับคนหลายๆ คน ก็ถูกแล้วครับ จริงๆ เราต้องมีเพื่อนเยอะๆ”
คอมเมนต์ต่างๆ ที่วิพากษ์วิจารณ์มา ได้พูดคุยหรือปรับความเข้าใจเรื่องนี้กับมีนยังไงบ้าง ?
“พี่เข้าใจใช่ไหมว่ามันเป็นเรื่องเซนซิทีฟอ่ะ คือผมไปพูดเหตุผลไม่ได้หรอกว่า เราควรจะมองข้ามเพราะอะไร ผมว่าสิ่งเหล่านี้เวลาคนเราเจอ เขาจะเติบโตขึ้นด้วยตัวเอง เหมือนวันนี้ผมก็รู้สึกว่าเขาโตกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา อย่างที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ไปว่า มันไม่ได้มีแค่มีนหรือเฟิร์นที่โดนหรอกครับ จริงๆ บางอันผมก็โดน มันก็โดนกันหมดแหละ แต่สุดท้ายผมอยากจะบอกว่า พวกผมแค่ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ และวันที่มันออกมาให้พวกคุณอิน มันก็ถึงเส้นชัยเราแล้ว ทำไมทุกคนไม่อยู่กับเส้นชัยที่เราสร้าง แต่ทุกคนกลับทะลุไปต่อ เราไม่ได้จะบอกว่าสิ่งที่ทุกคนทำมันผิด”
มีนผ่านเรื่องราวดราม่าต่างๆ มาได้ยังไง ?
“ทุกวันนี้ผมก็ยังถามเขาอยู่ครับ ว่าเขาผ่านมาได้ยังไง คือมันหนักเหมือนกันอ่ะ ถามว่าเขามีท้อบ้างไหม ไม่นะครับ ผมว่าหลังๆ นี้ที่เขาโตขึ้น เขาโฟกัสกับงานจริงๆ และผมว่าเขาแฮปปี้ขึ้น ส่วนที่มันไม่เกี่ยวกับงานเขา และเขาไม่เอามาใส่ใจมาก อย่างน้อยเราก็สบายใจแล้วว่า ไม่กระทบคนของเรา”
มีนนอยด์บ้างไหม เพราแฟนคลับก็จิ้นให้เราเล่นละครด้วยกันต่อ ?
“ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องนอยด์ มันคนละเรื่องกันครับ แรกๆ อาจจะยังมี แต่พอเขาโตขึ้นก็ไม่มีแล้ว ส่วนเรื่องที่คนจิ้นให้ทำงานด้วยกัน อาจจะเพราะเคมีมันเข้ากันเวลาเล่น มันก็เลยเป็นผลต่อเนื่องมากกว่าที่คนมาเชียร์”
มีกระแสบอกว่ามีนสั่งไม่ให้เราร่วมงานกับเฟิร์น ?
“ถ้าทุกคนเป็นผม ทุกคนจะเข้าใจนะครับว่า ธนภพ ไม่ได้มีสิทธิ์เลือกงานขนดานั้น ”
มีอะไรอยากจะฝากบอกกับคนที่ยังมีดราม่ามาตลอดไหม ?
“เอาเป็นว่า ผมก็รอให้ทุกอย่างหยุดครับ และพูดเลยว่าไม่โทษ ไม่โกรธ ไม่งอน ไม่ใดๆ เลย เพราะเชื่อว่าทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง ผมจะไม่ก้าวก่ายกับเหตุผลของเขา และผมก็อยากให้ทุกคนเชื่อในเหตุผลของผมเหมือนกัน เพราะสิ่งที่ผมพูดอยู่วันนี้มันคือเหตุผล เรากำลังคุยด้วยเหตุผลกันอยู่”
กลัวจะส่งผลต่ออนาคตข้างหน้าเราไหม ?
“ก็ต้องลองทำดูก่อนครับ เรายังไม่รู้ เอาจริงๆ ผมโฟกัสกับละครผมมากจริงๆ”
ตัวมีนเองก็ดูเข้มแข็งขึ้น ?
“ครับ เขาปรับตัวมากขึ้นครับ”
