“วอริกซ์” จับมือพันธมิตร “บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก”
ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ พร้อมยกระดับวงการกีฬาไทย
บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด ผู้ถือสิทธิ์การออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายชุดแข่งขันและเครื่องแต่งกายนักเตะทีมชาติไทย โดย นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) คลินิกสุขภาพที่มุ่งเน้นด้านเวชศาสตร์การป้องกัน และเสริมสร้างสภาวะสุขภาพให้ผู้มารับบริการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน โดย มร. เรมอน ฌอง ประธานคณะผู้บริหาร จัดพิธีลงนามสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ โดยร่วมมือกันถ่ายทอดองค์ความรู้ ความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับกีฬามาเผยแพร่ต่อสาธารณชน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์และพัฒนาวงการกีฬาในประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหาร และคุณธนบูรณ์ เกษารัตน์ นักฟุตบอลทีมชาติไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด กล่าวว่า “วอริกซ์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการร่วมมือกับบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก เนื่องจากวอริกซ์เป็นแบรนด์ชุดกีฬาที่ให้ความสำคัญกับ Sport Science หรือที่เรียกว่า วิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งเป็นศาสตร์การประยุกต์ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับเทคนิคเฉพาะทาง เพื่อพัฒนาศักยภาพร่างกายของนักกีฬาให้สามารถเล่นกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวอริกซ์นำเอาความรู้ในด้านนี้มาช่วยออกแบบสินค้าและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพที่สุด
นอกจากการเป็นแบรนด์ชุดกีฬา วอริกซ์ยังมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่ครบวรจรในด้านสุขภาพด้วยเช่นกัน โดยเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ในฐานะคลินิกเพื่อสุขภาพในอันดับต้นๆ ของเมืองไทย จะสามารถช่วยพัฒนาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือกายภาพบำบัดได้ดียิ่งขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทีมแพทย์ที่มีชื่อเสียงและความชำนาญระดับโลกเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของนักกีฬา ซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์ของวอริกซ์เอง โดยนักกีฬาทุกคนจะได้รับการดูแลการอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจ”
ด้าน มร. เรมอน ฌอง ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จำกัด กล่าวว่า “บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ในฐานะของผู้ชำนาญการด้านดูแลสุขภาพและเวชศาสตร์การกีฬา มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับวอริกซ์ เนื่องจากทาง บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก เรายึดหลักปรัชญาของการดูแลสุขภาพเพื่อการมีชีวิตที่ยืนยาว ซึ่งมุ่งเน้นการดูแลและตรวจสภาพร่างกายทุกด้านอย่างละเอียดจนถึงระดับพันธุกรรมและโมเลกุลด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งทำให้เราสามารถคาดการณ์สุขภาพในอนาคต และวางแนวทางป้องกัน ตลอดจนปรับปรุงสมรรถนะทั้งกายและใจได้
ทั้งนี้ในด้านของสุขภาพ เราให้ความสำคัญส่วนหนึ่งกับการดูแลเรื่องความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกายควบคู่กับจิตใจ ทางบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จึงมีการให้บริการตรวจร่างกายของนักกีฬาและบุคคลทั่วไปอย่างหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่อัตราการเผาผลาญและชีวเคมีของร่างกายไปจนถึงความยืดหยุ่นของข้อ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และความสมบูรณ์ของหัวใจและหลอดเลือด เพื่อทำความเข้าใจสภาพพื้นฐานของนักกีฬาแต่ละคนอย่างละเอียด จากนั้นกำหนดเป็นแผนการออกกำลังกายที่มีลักษณะเฉพาะบุคคล ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และบุคลากรผู้ชำนาญการด้านกายภาพบำบัด เวชศาสตร์การกีฬา และแพทย์แผนไทยประยุกต์
นอกจากนี้เรายังมีเครื่องออกกำลังกาย David Gym Solution ที่ออกแบบมาเพื่อบริหารกล้ามเนื้อในส่วนเฉพาะ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอันทันสมัยจากฟินแลนด์ เหมาะสำหรับดูแลการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลัง สะโพก ข้อเข่า และข้อไหล่ตามหลักกลศาสตร์ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ ที่อยู่ในกล้ามเนื้อชั้นลึก ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสื่อมของกระดูกและข้อ ซึ่งนับได้ว่าจะเป็นประโยชน์อย่างสูงต่อนักกีฬาที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอาการบาดเจ็บต่างๆ อีกทั้งด้วยแผนการดูแลและการออกกำลังกายที่เหมาะกับแต่ละบุคคลยังจะสามารถช่วยดูแลและพัฒนาศักยภาพร่างกายของนักกีฬาให้สมบูรณ์พร้อมยิ่งขึ้นอีกด้วย”
นอกจากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจแล้ว วอริกซ์และบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ยังเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการเผยแพร่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาสู่ประชาชนที่สนใจ โดยนายวิศัลย์ กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น ซึ่งเราสามารถอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาประกอบ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและทำให้อายุยืนยาว ต่างจากยุคสมัยเดิมๆ ที่มีการออกกำลังกายแบบไม่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งทำให้ผลที่ออกมาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง อีกทั้งการออกกำลังกายผิดวิธีก็อาจทำให้บาดเจ็บ ดังนั้น วอริกซ์และบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จึงมีแผนที่จะรวบรวมองค์ความรู้ ความเข้าใจในวิทยาศาสตร์การกีฬา และทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับกีฬามาเผยแพร่ให้ประชาชนคนทั่วไปที่สนใจได้มาศึกษา โดยผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมไม่มากก็น้อย และเชื่อมั่นว่าองค์ความรู้ต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้เกิดประโยชน์ต่อวงการแพทย์และมีส่วนช่วยพัฒนาวงการกีฬาในประเทศไทยต่อไป”
