จากกรณีดรามาร้อนแรง กองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ประกาศตัดสิทธิ์ “เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์” จากการประกวด เหตุทำผิดกฎ ส่งพี่เลี้ยงแฝงตัวเข้ามาในกองประกวด จน “เคน สิทธิชัย” ถูกตราหน้าเป็นคนบาป ไม่มีคุณธรรม ทำให้ชีวิตเฌอเอมต้องพัง ทั้งที่ทั้งสองคนยืนยันหนังคนละม้วน
เสียใจมั้ยถูกตัดสิทธิ์?
เฌอเอม : “เสียดายมากกว่าค่ะ ถ้าเสียใจแสดงว่าเราไม่พิจารณาตัวเอง”
ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ คิดว่าจุดสิ้นสุดของคุณ คุณจะได้รางวัลมั้ย?
เฌอเอม : “จริงๆ ก็คิดว่าอาจจะได้หรือไม่ได้ เรามีหลายอย่างที่เราไม่ได้ดีเท่าคนอื่น”
คู่แข่งคุณคือใคร?
เฌอเอม : “ถ้าเทียบในใจตั้งแต่ต้นมาคืออแมนด้าค่ะ เราวางเขาเป็นที่หนึ่งมาตลอด”
วีณาล่ะ?
เฌอเอม : “หนูก็ชอบเขาค่ะ แต่ถ้าถามเหมือนความรู้สึกส่วนตัวของเราว่าในสเปกเรา คนแบบไหนที่น่าจะได้ ก็เป็นอแมนด้า”
ถ้าอแมนด้าได้ คุณจะเจ็บใจมาก?
เฌอเอม : “เจ็บใจค่ะ เพราะเรากับเขามีอะไรที่คล้ายกัน เขาเป็นคนที่หนูพยายามเทียบด้วยตลอดเวลา แม้เราจะแข่งขันเราอาจไม่คิดว่าเราต้องได้ที่หนึ่ง แต่เราต้องมีใครที่คิดว่าเป็นจุดสูงสุดที่เราต้องเทียบ ก็คิดว่าเป็นอแมนด้า”
ถ้าวีณาได้คุณจะให้พระเจ้าพิพากษา?
เฌอเอม : “พิพากษาหนูนี่แหละค่ะพี่ ไม่ใช่เขาค่ะ พิพากษาที่หนูเคยอคติกับเขา”
ทุกสิ่งที่ถามอยู่ในไลน์ 79 หน้า คุณสองคนรู้จักได้ยังไง?
เคน : “รู้จักจากน้องสนิทของผมคนนึง รู้จักประมาณ 2 ปี โดยปีแรกเราไม่เคยเจอหน้า แค่รู้ว่าน้องเป็นเพื่อนคนนี้ เริ่มเจอกันจริงๆ ปีที่แล้ว หลังเจอมรสุมชีวิตปัญหาเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เดินมาพูดมาคุยกัน”
เคยบอกกองมั้ยว่ารู้จัก?
เคน : “ไม่เคย”
ทำไมถึงไม่บอก?
เคน : “บอกเพื่อ มันเป็นเรื่องทั่วไปที่รู้จักคนนั้นคนนี้ ก็คือคนที่เรารู้จัก”
ดูแฝงไปมั้ย?
เคน : “ถ้าจะแฝงขนาดนั้น ผมว่าผมแอบให้มิดชิดกว่านี้ดีกว่า ไม่ต้องให้เกิดเรื่องดีกว่า”
ใครส่งคุณเข้าประกวด?
เฌอเอม : “มีอยู่ในแชตค่ะ”
ไม่กล้าเอ่ยชื่อเขาเหรอ?
เฌอเอม : “ก็เป็นชื่อคนค่ะ”
คิตตี้ ใช่มั้ย?
เฌอเอม : “ค่ะ ตามตัวอักษรก็ดูได้ค่ะ”
คุณคิตตี้ ส่งคุณเข้าประกวด คิตตี้ ชิชา?
เฌอเอม : “ไม่มีสองพยางค์หลังค่ะ”
เคนเข้ามาเกี่ยวข้องกับคุณเมื่อไหร่?
เฌอเอม : ” รู้จัก 2 ปีแล้วค่ะ แต่รู้จักเฉยๆ ไม่ได้ทำงานร่วมกันมากมาย เขาขายงานแต่มันก็ไม่ได้ แล้ว 90 เปอร์เซ็นต์เอมอยู่ต่างประเทศเป็นหลัก บินไปบินมา”
ตอนอยู่ในกองประกวด ไปเลือกเขามาดูแลคุณได้ยังไง?
เฌอเอม : “ตอนนั้นหลังแยกย้ายจากคนที่ส่งคนแรกเราทำงานคนเดียว ซึ่งมันไม่ไหว มันหนักที่จะทำคนเดียว รถก็ไม่มี สปอนเซอร์ก็มีไม่เยอะ หลายคนคิดว่าเอมมีเยอะ แต่ความจริงแล้วคนที่จะทำงานเต็มเวลาให้เอมได้มันไม่มี เรารู้จักเขาในฐานะโบรกเกอร์มาก่อน สนิทสนมระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดเรื่องในกอง ถ้าจะเป็นคนนี้เราก็ต้องไปคุยกับกอง”
มองโบรกเกอร์ พี่เลี้ยงนางงาม กับผู้จัดการส่วนตัวมองว่าต่างกันยังไง?
เฌอเอม : “โบรกเกอร์ขายงานให้ได้ทุกคนค่ะ ขายให้คนเยอะมากที่สาธารณชนไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เฌอใส่เบอร์เขาไว้เพราะเอมไม่ชอบดีลงานเอง เอมใส่ไว้หน้าไอจีและไม่เคยเอาลงตั้งแต่ก่อนประกวดค่ะ”
เรื่องเพิ่งหลุดหลังคุณเข้าประกวดแล้ว?
เฌอเอม : “มันก็อยู่ตรงนั้นแหละค่ะ”
ประเด็นที่เกิดขึ้น ข้อเท็จจริงไม่ค่อยชัด?
เฌอเอม : “เอมคิดว่าเป็นเรื่องความคลุมเครือ เรารู้สึกว่าเราไม่มีคนอื่นจริงๆ อันนี้อยู่ที่คนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ว่าไม่ใช่เราเหมือนคนรู้จักเยอะ แล้วทุกคนจะมาร่วมทำงานกับเราในเวลานี้ได้”
คุณขึ้นเบอ์โทรคุณเคนหน้าไอจีนานมากแล้ว ก่อนประกวด เป็นข้อยืนยันว่าคุณสองคนรู้จักกันมานานก่อนประกวด ย้อนกลับไปคำถามเดิมทำไมไม่บอกกองประกวด?
เคน : “มันคือความบริสุทธิ์ใจทุกอย่างที่เราไม่ได้ปกปิด ถ้าจะปกปิดก็ปกปิดไปตราบนานเท่านาน และก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ตัวด้วยว่าเราจะได้เข้าไปทำงานในกองประกวดเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่”
คุณคือคนของกองประกวดมั้ย?
เคน : “ไม่ใช่”
แต่เขาบอกคุณเป็นคนของกองประกวด ถ้าไม่ใช่แล้วเรื่องจะเกิดได้ยังไง?
เคน : “ผมไม่เคยเซ็นสัญญากับกองประกวด ผมไม่เคยได้รับเงินค่าจ้างจากกองประกวดเลย ทั้งหมดทั้งมวลคือการที่ผมรู้จักคนที่เขาบอกว่าต่อแต่นี้เราคือคนเคยรู้จักกัน ความสัมพันธ์ที่ผมรู้จักเขาตั้งแต่ปี 2018 จากผู้จัดการนางงามท่านนึง และหลังจากนั้นเรามีการพูดคุยติดต่อกัน เธอทำอะไร ฉันทำอะไร ด้วยความที่เราเป็นผู้จัดการดาราอยู่แล้ว เราก็รู้จักคนค่อนข้างเยอะ หลังจากนั้นจะมีช่วงปี 2019 เราพาพี่ที่เคยรู้จักไปของบสนับสนุนการประกวดจากหน่วยงานรัฐหน่วยงานหนึ่ง ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้ทำงานร่วมกันจริงๆ ในฐานะกัลยาณมิตรให้ความช่วยเหลือกันมาโดยตลอด”
คุณอั้มเป็นเพื่อนหรือเจ้านาย?
เคน : “เป็นรุ่นพี่ครับ เขาเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทสตาร์ด้อม ทำพีอาร์ และมาร์เก็ตติ้ง ให้กองประกวด”
คุณอยู่ในส่วนคุณอั้มหรือเปล่า?
เคน : “ไม่ครับ เพราะเราไม่ได้เป็นเงินเดือน เราไม่ได้เป็นลูกจ้าง เราเข้าไปช่วยเขาทำเพราะแพชชั่น”
พูดตรงๆ อยากเสนอหน้า อยากเข้าไปดูในกองประกวด เพราะเราชื่นชอบ?
เคน : “ใช่ เท่านั้น”
แล้วคุณไปประชุมกับเขาทำไม ถ้าแค่อยากเข้าไปดูนางงาม?
เคน : “ด้วยคอนเนคชั่นในการขายของเราค่อนข้างเยอะ เพราะเรารู้จักคนเยอะ ตอนแรกเราช่วยเขาขายแพ็ก ขายสปอนเซอร์ ก่อนหน้านั้นที่เราประชุมกันแรกๆ เป็นก่อนช่วงโควิด เราเข้าไปรับรู้ในส่วนที่ว่าทางสตาร์ด้อมจะทำพีอาร์และมาร์เก็ตติ้งให้กองประกวด และหลังจากนั้นรอบที่สองมาดูทิศทางว่าใครขายอะไรได้บ้าง ใครยื่นขายอะไร ใครมีสปอนเซอร์อะไรในมือ ใครเป็นลูกค้าใครบ้าง หลังจากนั้นโดนโควิดก็ปิดหายเงียบไปเลย จนกระทั่งผมก็พยายามติดตามว่าลูกค้าที่ไปเสนอข่าวครั้งนี้ มีใครได้บ้าง สรุปแล้วผมขายอะไรไม่ได้เลย จนคิดว่าขายไม่ได้เลยคงไม่ได้เข้าแล้ว ก็เป็นเราปกติทั่วไป นั่งดูชื่นชมหน้าทีวี จนสุดท้ายหลังจากกองประกวดแถลงข่าว จากนั้นเกือบ 1 อาทิตย์ มีการติดต่อว่าอยากได้โปรดักซ์ผมดูแลเส้นผมนางงาม ผมก็เอาโปรดักซ์ไปให้ และช่วยดูตรงนั้น เพราะหน้าที่ของคนที่ขายงานได้”
เป็นไปได้มั้ย เขามองว่าคุณอยากเข้าไปต้องการเอาข้อมูลให้เฌอเอม?
เคน : “โห เห็นอยู่ว่าน้องฉลาดกว่าผม สติปัญญาแบบนี้ ผมจะไปสอนอะไรน้องได้”
ไลน์กลุ่ม 79 หน้าที่ถูกแฉ เริ่มตั้งแต่ 11 ก.ค. กลุ่มนั้นมีกี่คน?
เฌอเอม : “7-8 ค่ะ”
มีข้อมูลบางอัน เช่นคุณเอาคำถามหรือข้อสอบเก่านางงามไปถามคุณเฌอเอมในนั้นด้วย เอาจากไหน?
เคน : “ในบริบทประกวดนางงาม คำถาม 30 วินาที โดยมาตรฐานแล้วทุกเวทีใช้เหมือนกันหมด เราเอาคำถามนางงามเก่าๆ แต่ละปีมาเป็นต้นเรื่องว่าถ้าคำถามแบบนี้จะตอบยังไง เหมือนไกด์ไลน์ว่าคำถามนางงามจะเป็นประเภทนี้ บริบทเวทีนางงามจะเป็นแบบนี้ เพราะสุดท้ายแล้วเขาไม่เคยประกวดมาก่อนเขาจะไม่รู้ว่าโลกนางงามคืออะไร”
คุณเอาข้อสอบมาจากไหน?
เฌอเอม : “ยูทูปค่ะ เปิดดูเวทีเก่าๆ”
แล้วคุณก็ไปเทรนเลยว่าบุคลิกแบบนี้ ต้องทำแบบนี้ ต้องตอบให้ได้แบบนี้ภายใน 30 วิ?
เฌอเอม : “ไม่ค่ะ ไม่มีใครเทรนเอมได้”
คุณมีบอกเขามั้ย?
เคน : “สิ่งที่บอกคือ ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ที่เขาบอกว่จะลงประกวด เราบอกว่าลงไม่ได้หรอก เขาบอกว่าทำไมเขาลงไม่ได้ เขาเป็นผู้หญิง เขาอยากประกวด เราบอกว่ายูมีความลุยๆ ห้าวๆ เป็นผู้ชาย ไม่เหมาะ ไม่ใช่นางงาม ยูไปก็เท่านั้น”
ยืนยันว่าคุณไม่ได้เอาข้อมูลออกมาให้เขา?
เคน : “โอ้โห ไม่ได้เอาออกมาเลย ถ้าจะให้พูดก็ต้องขอบคุณแชตหลุดที่หลุดออกมา ถ้าอ่านตั้งแต่บรรทัดแรกจนสุดท้าย จะเห็นว่าผมไม่ได้เอาข้อมูลความลับมาบอกใครเลย”
ตัวงูนั่นเป็นคุณ?
เฌอเอม : “ใช่ค่ะ”
ทำไมลงเป็นรูปงู เหมือนมีพิษเหรอ?
เฌอเอม : “ไม่ใช่ค่ะ มีคนเดียวในโลกที่มีเบอร์โทรศัพท์เอมเป็นอีโมติคอนรูปงู”
ถ้าอยากรู้ว่าไลน์นี้หลุดมาจากไหน ก็ให้ดูว่าเขาเมมเป็นอะไร ของคุณเจ้าของไลน์เมมชื่อคุณเป็นงู เพราะเขามองคุณเป็นอสรพิษเหรอ?
เฌอเอม : “ผิดค่ะ เพราะเราสินทกันมาก จนเขารู้ว่าสัญลักษณ์รูปสัตว์ของเอมคืองู เพราะเมื่อก่อนเราแทนตัวเองเป็นสัตว์ แล้วเอมชอบงู เอมเลยใช้งู เขาเลยเมมเป็นรูปงู”
มีอันนึงที่น่าสงสัย มีเจ้าของเพจ เพจนึงอยู่ในนี้ แล้วบังเอิญเขาอยู่ในรอบออดิชั่น และเขาถามคุณเรื่องคำพูดของคุณ ว่าทำไมพูดลักษณะแบบนี้ รู้จักเขามั้ย?
เฌอเอม : “รู้จักค่ะ อยู่ในกลุ่มไลน์ค่ะ”
ทำไมเขาได้มาถามคุณ เป็นความบังเอิญเหรอ?
เฌอเอม : “ต้องบอกว่าตอนที่เรามีกรุ๊ปแชต มันยุบไปในวันที่ 23 หลังจากนั้นไม่มีการใช้งานอีกเพราะไม่มีใครรู้ว่าใครจะไปทำอะไรกับกอง ในฐานะที่เขาอยากซัปพอร์ตเราเพราะเขาเตะตาเราตั้งแต่ต้น ตอนนั้นเราก็พูดคุยกันได้”
เข้าใจได้มั้ยว่าเขาอาจจะรู้กับคุณ คุณอยู่ในกรุ๊ปเดียวกัน อวยกัน ตั้งคำถามชงให้ตอบ ขยี้ให้ตอบ ตรงนี้จะตอบยังไง?
เฌอเอม : “หนูว่าแทนที่จะคิดว่าขยี้ให้ตอบ หรือชงให้ตอบ ทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่าเอมพูดไม่ชัด และเห็นอยู่แล้วว่าเอมไม่มีความตั้งใจเปลี่ยนน้ำเสียงหรือบังคับปากให้สวยขึ้นหรือว่าอะไร เอมว่าเขาน่าจะถามเพราะอยากรู้จริงๆ ว่าเอมจะตอบยังไงมากกว่า”
พูดไม่ชัดนานหรือยัง?
เฌอเอม : “ตั้งแต่เกิดค่ะ
หลายคนสงสัยว่าก่อนหน้านี้เดอะเฟซ 4 ปี คุยแซ่บโชว์ 3 ปี วันนั้นคุณดูพูดชัดกว่าตอนนี้ คุณเพิ่งพูดไม่ชัดหรือเปล่า?
เฌอเอม : “ห๊ะ ไม่เคยมีคนเห็นเอมพูดเยอะเท่าในมิสยูนิเวิร์ส นานเท่ามิสยูนิเวิร์ส ติดต่อกันเท่ามิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ถ้าเอมพูดกับพี่ตั้งวันก็จะมีคำที่ชัด เพราะเมื่อก่อนเราออกกล้องน้อย หนูเค้นพลังทั้งร่างกาย เพื่อให้พูดชัด ตอนนี้พูดชัดมั้ยคะ ก็เหมือนกันค่ะแต่ที่เอมรู้สึกคือเมื่อก่อนหน้าเราเต็มกว่านี้หรือเปล่า ไม่รู้เกี่ยวมั้ย”
โครงสร้างเหรอ ตอนนั้นผอมลงทำให้พูดชัดเหรอ หรือยังไง?
เฌอเอม : “ไม่เกี่ยวค่ะ หมายถึงเรื่องรูปปากเราค่ะ”
แต่ที่ดูเมื่อกี้ หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าคุณพูดชัด สามปีที่แล้ว ไปๆ มาๆ วันนี้พูดไม่ชัด หลายคนเลยมองว่าเป็นกลยุทธ์หรือเปล่า?
เฌอเอม : “ขอถามพี่แบบอาจจะดูกวนประสาทนิดนึง ปีนึงมีกี่วันคะ แล้วคลิปนั้นกี่วันคะ มันวันเดียวช่วงเดียวของเวลาทั้งหมด แล้ว 26 ปีที่ผ่านมา ต้องถามคนที่อยู่ในช่วงชีวิตเอมว่าตลอดเวลาพูดชัดหรือไม่ชัด ไม่ใช่แค่ดูช่วงเวลาเอมออกกล้อง เพราะในกองประกวด มีบางช่วงชัดมาก แต่บางช่วงไม่ค่อย โดยเฉพาะโฟกัสในช่วงที่เราใช้สมองหนักๆ ใช้ร่างกายเกร็งทุกส่วนเพื่อให้ยืนอยู่อย่างสง่างาม”
คุณไปคุกเข่าอะไรกับคุณปุ้ย?
เคน : “วันนั้นเข้าไป หลังน้องตกลงปลงใจว่าไม่ไหว จะเอาพี่ไปได้มั้ย เราบอกว่าเราเป็นคนทำงานเดินอยู่ในนั้น เราเป็นคนดูแลสปอนเซอร์ ถ้าเข้าไปก็ต้องไปหาไดเร็กชั่นว่าควรต้องทำยังไงหลังจากนี้ แต่ไม่ได้คำตอบ แต่ถามว่าเข้าไปคุกเข่า โดยนิสัยเคนไม่ได้ยืนค้ำหัว จะพูดว่านอบน้อมก็ได้ เคนเป็นคนมารยาทดี ที่บ้านสอนมาดี”
ไม่ได้แซะนะ?
เคน : “ไม่ได้แซะ ก็บอกว่าถ้าเคนจะทำในหน้าที่นี้ จะต้องยังไงต่อ ก็ไม่ได้คำตอบ หันไปถามคุยเรื่องสุขภาพของน้อง”
คุณมีโอกาสคุยกับคุณปุ้ยหรือยัง?
เฌอเอม : “ยังไม่ได้ติดต่อกับพี่ปุ้ยโดยตรง ถ้ามีโอกาสวันใดวันหนึ่งจะเข้าไปกราบค่ะ หนูจะแสดงความเสียใจที่เข้าใจผิด เพราะความไร้ประสบการณ์ของหนูและทำให้มันเกิดขึ้น”
ปัญหาหลักๆ คุณจะบอกว่าคุณไม่ได้ส่งเขาเข้าประกวด โชคดีที่ไลน์หลุดออกมา?
เคน : “ขอบคุณแชตหลุดที่ทำให้เราได้ไขข้อข้องใจ ไขความกระจ่างว่าเราไม่ได้เป็นคนส่ง แล้วแชต 79 หน้าไม่มีคำถามหรือประโยคไหนที่บอกว่าเป็นความลับของกองประกวด”
อาจไม่อยู่ในนั้น มาทำข้างหลังหรือเปล่า?
เคน : “โอ้โห”
อย่างต้องใส่ชุดไทยจิตรลดา กองเขาให้ใส่สีพาสเทล คุณไปใส่สีแดงคนเดียว แบบนี้รู้มาก่อนหรือเปล่า?
เฌอเอม : “พี่มิลินพูดเองว่าใส่สีอะไรก็ได้ ชอบ มั่นใจ เขาบอกสีลูกกวาด ลูกกวาดคือสีลูกกวาด ไม่ใช่พาสเทล”
เขาไปเก็บตัวกัน แล้วคุณบอกว่าสุขภาพไม่ดี ไม่ไป แต่จะเดินด้วยในรอบ 30 คน?
เฌอเอม : “หนูไม่ได้บอกว่าไม่ไปนะคะ หนูบอกว่าหนูมีปัญหาสุขภาพ ซึ่งเพื่อนหลายคนที่ป่วยก็อาจลาครึ่งวันและขอไปรพ. ซึ่งวันนั้นเอมก็ไป เอมบอกว่าเอมจะทำเท่าที่ทำไหว ถ้าเรายืนกลางแดดไม่ไหวอาจจะเข้าร่มนิดนึงแล้วออกมา แต่ถ้าถึงขีดจำกัด เราจะรีบบอกว่าสละสิทธิ์ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นในกอง มันจะทำให้กองดูไม่ดี”
กลัวเขาเอาหลักฐานมาโชว์อีกมั้ย?
เคน : “หลักฐานอะไรล่ะครับ”
เขาบอกคุณเข้าประชุมมากกว่า 3 ครั้ง?
เคน : “หลักการทำงานการประชุม ต้องมีเซ็นชื่อก่อนเข้าประชุม หลังประชุมเสร็จต้องมีวาระการประชุมที่สรุปมาแล้วทำให้ทุกคนเห็นเหมือนกันว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องไปบ้าง ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็ต้องรู้ทุกอย่าง แต่ผมไม่รู้ ไม่ได้เข้า ยืนยัน 3 ครั้งแน่นอนไม่เกิน”
ยืนยันไม่ใช่คนของกองประกวด ทางโน้นบอกว่าคุณเป็นคนของกองประกวด?
เคน : “ไม่ใช่ครับ ถ้าผมทำงาน ผมต้องได้ค่าตอบแทน”
ถ้าไม่ใช่แล้วเขาจะตัดสิทธิ์เฌอเอมได้ยังไง กฎเขามีว่านางงามถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคนในกอง แต่คุณไม่ใช่?
เคน : “ส่วนเกี่ยวข้องต้องถามก่อนว่าเกี่ยวข้องยังไง ถ้าแค่รู้จักมักคุ้นหรือเคยเจอกัน ผมว่าน้องๆ หลายคน ผมพาความซวยไปถึงน้องเลยนะ เพราะมีน้องหลายคนที่รู้จัก และเป็นผู้ร่วมประกวดครั้งนี้เหมือนกัน ถ้าการทำงานผมต้องได้ค่าจ้าง ได้ค่าตอบแทน ซึ่งการทำงานครั้งนี้ทำด้วยใจปรารถนาที่อยากทำ แพชชั่นที่อยากทำ เราไปทำงานด้วยเพราะคนที่เรานับถือป็นพี่เรา ทำอยู่ตรงนั้น เรายื่นมือไปช่วยซึ่งกันและกันประหนึ่งกัลยาณมิตร”
ได้คุยกับคุณปุ้ยมั้ย?
เคน : “ยังครับ ถามว่าติดต่อไปมั้ย กระแสถาโถม เราเป็นเด็กเกิดเรื่องอะไรก็อยากให้ตรงนี้คลี่คลายก่อนแล้วค่อยเข้าไปพูดคุย พร้อมเข้าไปเสมอ”
กลัวจะส่งผลถึงเวทีอื่นด้วยมั้ย?
เฌอเอม : “เอมไม่คิดจะไปเวทีอื่นอีกแล้วค่ะ”
ไม่ประกวดอีกแล้ว?
เฌอ : “ค่ะ มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เกิดขึ้น แต่เรารู้สึกว่าเราเต็มที่แล้วทุกอย่าง เราต้องกลับมาคิดว่าเราชอบจริงมั้ยเราเหมาะหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าเราผูกใจเจ็บกับตรงนี้ เราไปดันทุรังทำกับสิ่งที่อาจไม่ได้เหมาะกับเรา”
กรณีชุดว่ายน้ำ คุณดึงเอมไปสัมภาษณ์สื่อคนเดียว?
เคน : “ตรงนี้สามารถพูดได้ว่าถ้าวันนั้นสื่อมวลชนทั้งหมดที่อยู่หน้าแบล็กดรอป ผมเดินผ่านกองทัพนักข่าวไป น้องถูกสื่อรุมสัมภาษณ์อยู่ 10 กว่ากล้อง และไม่มีสต๊าฟประกบซ้ายขวาเลย ด้วยสัณชาตญาณ น้องถูกรุมอยู่เราต้องวิ่งไปชาร์ตน้องหรือเปล่า เพราะน้องถูกรุมสัมภาษณ์นานมากแล้ว”
ไม่ได้ขายซีนนี้ให้เฌอเอม?
เคน : “ถ้าขายผมไปขายงานให้ผมได้เงินไม่ดีกว่าเหรอ น้องฉลาดขนาดนี้ จะไปให้เขามีซีนทำไม”
ช่วงเข้าสู่รอบลึกๆ คนชื่นชอบเรามาก พอวันนี้มีส่วนหนึ่งกลับหลังหันเลย?
เฌอเอม : “มีพบต้องมีจาก แล้วการพบกัน จริงๆ เป็นการพบจริงหรือพบในอุดมคติ เพราะตอนกระแสตีกลับครั้งแรก เรารู้อยู่แล้วว่าอดีตเราเป็นยังไง เราไม่ได้ปฏิเสธเลย สิ่งแรกที่เอมทำคือขอโทษวีณา ไลน์ไปส่วนตัว แล้วงงที่คนคิดว่าถ้าเอมดีก็ต้องดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าแย่ต้องแย่ร้อยเปอร์เซ็นต์ กลับกันเขาลืมไปแล้วว่าเรามีความเป็นคนอยู่ ในพื้นที่กับคนสนิท เรามีสิทธิ์แสดงด้านแย่ ทุกคนคิดว่าด้านดีต้องอยู่กับคนสนิทที่สุด แต่จริงๆ ไม่ใช่นะคะ ด้านดีคือกาลเทศะ มารยาทในสังคม การที่เอมแสดงด้านไม่เพอร์เฟกต์ให้ใครเห็น แสดงว่าเอมไว้ใจคนนั้นมากๆ”
เขาบอกว่านักข่าวไปบอกปุ้ยว่าคุณแนะนำให้เอาเฌอเอมไปสัมภาษณ์คนเดียว?
เคน : “เอานักข่าวคนนั้นมายืนยันเลยตรงนี้ดีกว่า แน่ใจ เอาเลย ไม่มี”
เฌอเอม : “ตอนนั้นหนูรู้สึกว่าตอนนั้นหนูยืนเป็นชม. เลยค่ะ เราเจ็บเท้าจนชา ไม่สมควรหนูจะไปแบบพี่ก่อนค่ะ เพราะพอเขาขอคิวเราก็เลือกไม่ได้ ให้เขาสัมภาษณ์แล้วไปเรื่อยๆ เอมโดนเอาไปวางหน้าแบล็กดร็อปแล้วยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีใคร”
คุณป็นคนบาปหรือเปล่า?
เคน : “พรหมพิราม หรือพระราม 4 เขาบอกว่าผมเป็นคนบาปกรรมอะไรก็แล้วแต่ ผมว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากความคลุมเครือในหน้าที่การงาน และคลุมเครือในการรู้จักน้องว่าสถานะผมกับน้องคืออะไรมากกว่า มันเลยสร้างผลกระทบถึงน้องในวันนี้ สุดท้ายทุกอย่างก็หันมาหาเราพร้อมๆ กัน หลังจากนี้ถ้าเราจะทำอะไร เราต้องเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวในโพสิชั่น ประกาศไปเลยว่าใช่หรือไม่ใช่่ ทำหรือไม่ทำ”
เรื่องวีณา จริงหรือเปล่าที่คุณพูดคุยในกลุ่มไลน์ คุณไปหัวเราะเยาะเย้ยเขา บูลลี่เขากลายๆ วันนึงสนิทเขา แล้วบอกว่าเป็นฐานเสียงให้คุณ 1.5 หมื่นฟอลโลว์ของคุณก็มาจากเขาต่างๆ นานา?
เฌอเอม : “ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าเอมต้องเพิ่งเล่นอินสตาแกรม แต่เอมมีคนฟอลอยู่แล้วหลักหมื่น แต่ที่แคปไปคือเอมไปวันนั้นเอมจำได้เพราะวีณากลับมาฟอลเอม เอมฟอลเขาก่อนแล้วเขาฟอลกลับ โดยเราไม่คิดว่าเขาจะฟอลกลับ ก็แคปว่าขอบคุณนะ เอมยอมรับไม่มีข้อแก้ตัวคือเราเคยอคติกับเขา เรามีช่วงที่คิดว่าต้องแข่งแบบนี้ มีช่วงที่เราเปิดมุมมองใหม่ คือตอนนี้คนคิดว่าเอมเป็นยังไงก็ต้องเป็นอย่างนั้น เอม 10 ปีที่แล้วก็ต้องเป็นอย่างนั้น มันเหมือนว่าการพัฒนาที่ผ่านมาของเราไม่มีความหมายเลย”
คุณจะบอกว่ากองประกวดทำแบบนี้ไม่ยุติธรรมกับเฌอเอม?
เคน : “แล้วแต่คนจะมอง ผมว่าความไม่ยุติธรรมอันนี้เกิดจากความคลุมเครือของผม ที่ไม่แสดงให้ชัดเจนตั้งแต่แรกว่าผมคือใคร ทำงานหรือไม่ทำอะไรมีหน้าที่หรือไม่มีหน้าที่อะไรมากกว่า สำหรับความคลุมเครือในครั้งนี้เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนเข้าไปช่วยทางกองประกวดและการดูแลน้อง ความผิดพลาด ความคลาดเคลื่อนเข้าใจผิดในครั้งนี้จะจำไว้เป็นบทเรียน จะไม่ทำให้ใครเสียใจและเดือดร้อนแบบคราวนี้อีก”
ฟ้องมั้ย?
เคน : “ผมจะฟ้องใครครับ ฟ้องกองประกวดไม่ได้ ไม่ได้มีอะไรกับเขา”
อยากพูดอะไรกับแฟนคลับที่ผิดหวังกับเรื่องนี้?
เฌอเอม : “ก่อนอื่นขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง แต่สิ่งที่เอมอยากบอกคือคนเราไม่ได้มีด้านเดียว และ 1 เปอร์เซ็นต์ ไม่เคยดีร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณต้องจำได้เสมอว่าเอมเป็นมนุษย์ ถ้าเอมทำอะไรผิดพลาด ผิดหวังได้ สิ่งไม่ดีของเราเราต้องเรียนรู้ แต่สิ่งที่ดีของเราก็เก็บเอาไว้แค่นั้น”
ประกาศตรงนี้ไม่ประกวดนางงามอีกแล้ว ไม่ว่าเวทีไหน?
เฌอเอม : “ปีนี้พอใจแล้วค่ะ จะไม่ได้เห็นอีกแล้วค่ะ”