แสนสิริ จับเทรนด์พัฒนาเมืองเพื่อการอยู่อาศัยแห่งอนาคต ปั้นที่ดินกรุงเทพกรีฑา 300 ไร่สู่ Well-Living Town for the Next Generation

0
949

แสนสิริ จับเทรนด์พัฒนาเมืองเพื่อการอยู่อาศัยแห่งอนาคต ปั้นที่ดินกรุงเทพกรีฑา 300 ไร่

สู่ WellLiving Town for the Next Generation เมืองคุณภาพชีวิตในทำเลศักยภาพ

นำร่องเปิดตัวเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา2 มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท

 

 

 

 

แสนสิริ ประกาศวิสัยทัศน์ The Next Best Living District การพัฒนาเมืองเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีที่สุดแห่งต่อไป จากการเล็งเห็นเทรนด์การพัฒนาเมืองระดับโลกและผังเมืองกรุงเทพฯฉบับใหม่ ปั้นที่ดินทำเล “กรุงเทพกรีฑา” จำนวน 300 ไร่ สู่การเป็น “Wellliving Town for the Next Generation – เมืองคุณภาพชีวิตเพื่ออนาคต” ประกอบด้วยโครงการที่พักอาศัย พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะสร้าง Wellliving ของทุกคนและเพื่อการเติบโตอย่างมีคุณภาพของ Next Generation พร้อมผนึกพันธมิตร โรงพยาบาลสมิติเวช – โรงเรียนนานาชาติ ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพ และพาร์ทเนอร์ด้านคอมมูนิตี้ มอลล์ในอนาคต ร่วมสร้างสังคมคุณภาพชีวิตสมบูรณ์แบบ นำร่องเปิดตัวบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ล่าสุด “เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 มูลค่า  3,500 ล้านบาท ที่รังสรรค์แนวคิดการสร้างชีวิตคุณภาพสู่คนรุ่นต่อไป พร้อมพรีเซลล์ 1มิถุนายนนี้ ราคา 1– 36 ล้านบาท

นายสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ  บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากปรัชญาการพัฒนาโครงการของแสนสิริที่มุ่งสร้างสังคมคุณภาพที่เป็นมากกว่าที่พักอาศัย ร่วมกับการเล็งเห็นเทรนด์การพัฒนาเมืองจากทั่วโลกในปัจจุบัน อาทิชาร์จา นครแห่งความยั่งยืนในดูไบ ซึ่งเป็นเมืองแห่งพลังงานยั่งยืนด้วยโดมเรือนกระจกและฟาร์มผักออร์กานิก เมืองลู่โจว ฟอร์เรสต์ ซิตี้ ในประเทศจีน หรือ เวอร์โมซา ในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นเมืองที่ส่งเสริมสุขภาพเชิงแอคทีฟไลฟ์สไตล์ สอดคล้องกับกรุงเทพมหานคร ที่ปัจจุบันการเติบโตมีลักษณะเป็นคอมมูนิตี้ย่อยในเมืองใหญ่ (District) ความเจริญไม่ได้กระจุกตัวอยู่แค่กรุงเทพชั้นใน แต่กระจายออกไปตามแหล่งชุมชนสำคัญรอบ ๆ ตามโครงข่ายคมนาคมที่ทำให้การเดินทางเข้าสู่เมืองง่ายขึ้น อีกทั้งยังสอดรับกับแนวโน้มร่างผังเมืองรวมกรุงเทพฯ ฉบับใหม่ที่กำลังจะประกาศใช้เร็วๆ นี้ที่จะส่งเสริมการพัฒนาเมืองในรูปแบบเมืองกระชับ (Compact City) ตามโครงข่ายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ทั้งนี้ แสนสิริได้เล็งเห็นศักยภาพของทำเลกรุงเทพกรีฑาที่มีแนวโน้มการเติบโตได้อีกมาก จึงเตรียมพัฒนาพื้นที่ 300 ไร่ ให้เป็น The Next Best Living District หรือสังคมการอยู่อาศัยแห่งต่อไป ที่แสนสิริจะส่งมอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคุณภาพให้แก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต”

แสนสิริประสบความสำเร็จในการพัฒนา T77 ภายใต้คอนเซ็ปต์  A Good Town for A Good Life ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยแบบครบวงจร บนเนื้อที่ 50 ไร่ ใจกลางสุขุมวิท 77 ซึ่งประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ อพาร์ทเมนท์ระดับพรีเมียม คอมมูนิตี้มอลล์ และโรงเรียนนานาชาติ นับเป็นการสร้างเมืองหรือสังคมการอยู่อาศัยคุณภาพแห่งแรก ปัจจุบันประกอบด้วยครอบครัวแสนสิริ แฟมิลี่ และเพื่อนบ้านใกล้เคียงนับกว่า 10,000 ครอบครัว สำหรับแผนการพัฒนาพื้นที่กรุงเทพกรีฑาสู่การเป็น Wellliving Town for the Next Generation  หรือ “เมืองคุณภาพชีวิตเพื่ออนาคต” ประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญใน 3 ด้าน ได้แก่

  • Location ทำเลศักยภาพที่แวดล้อมด้วยระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย สามารถเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ได้ง่ายดาย ใกล้กับทางด่วนศรีบูรพาเพียง ก.ม. รถไฟฟ้าสายสีส้มเพียง 2.3 ก.ม. ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 และสายสีเหลืองเพียง 4 ก.ม. ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563 ทั้งยังเชื่อมต่อด้วยถนนสายสำคัญต่างๆ เข้าสู่เมือง อาทิ ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้าถนนกรุงเทพกรีฑาถนนพระรามเก้า – มอเตอร์เวย์ถนนพัฒนาการ และถนนหัวหมาก ฯลฯ
  • Community สังคมคุณภาพที่ประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยที่พัฒนาภายใต้องค์ประกอบของ Wellbeing นำร่องด้วยโครงการบ้านเดี่ยว “เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2” นอกจากนี้ยังประกอบด้วย โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพ ซึ่งอยู่ใกล้เพียง 900 ม. โรงพยาบาลชั้นนำ อาทิ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และการเปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ในอนาคต ที่จะมาเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและผนึกกำลังเพื่อพัฒนาทำเลสู่การเป็นเมืองเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีที่สุดแห่งต่อไป
  • Facility สิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลาง ที่จะสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพและสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว โดยแสนสิริมีแผนเตรียมพื้นที่สำหรับการพัฒนา “Recreation Space” ที่จะส่งเสริมการพัฒนา EQ และ IQ ของเด็ก ๆ ในรูปแบบทั้งในร่มและกลางแจ้ง ที่คาดว่าจะเปิดใช้ได้ในปี 2564  รวมถึงอีกความโดดเด่นของเมือง Wellliving Town for the Next Generation  หรือ เมืองคุณภาพชีวิตเพื่ออนาคต ยังประกอบด้วย “The Greenery Line” หรือ ถนนสีเขียวขนาบด้วยต้นไม้พร้อมด้วยเลนจักรยานและเสาไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์วางระบบด้วยสายไฟลงใต้ดิน ตลอดแนวระยะทางกว่า 1.7 ก.ม. ที่จะตัดผ่านพื้นที่ 300 ไร่ ทะลุสู่ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า และถนนรามคำแหงได้ในเวลาเพียง 2 นาที โดยจะเปิดใช้งานทะลุสู่ทั้ง 2 เส้นทางได้ในปี 2564

นายแพทย์ อดินันท์ กิตติรัตนไพบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ กล่าวว่า “การพัฒนาองค์ประกอบที่เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพของคนในเมืองถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเมืองคุณภาพชีวิตในระดับโลก โรงพยาบาลสมิติเวชถือเป็นพันธมิตรในด้านการดูแลสุขภาพของลูกบ้านแสนสิริ โดยมุ่งเน้นการป้องกันตั้งแต่ยังไม่ป่วย (Preventive Healthcare) สำหรับลูกบ้านแสนสิรินั้น เราได้มอบสิ่งที่จะทำให้ลูกบ้านรู้สึกอุ่นใจด้วย Samitivej Virtual Hospital โรงพยาบาลเสมือนจริงบนโลกออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งลูกบ้านแสนสิริสามารถพบแพทย์โดยไม่ต้องมาโรงพยาบาล พร้อมบริการส่งยาถึงบ้าน และ Smart Emergency เพื่อรองรับความต้องการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ฯลฯ เราจึงมั่นใจในความชำนาญระดับมืออาชีพของแสนสิริและพันธมิตรในการพัฒนา ‘กรุงเทพกรีฑา’ ให้เป็นเมืองคุณภาพชีวิตเพื่ออนาคตที่สมบูรณ์แบบได้”

นางสาววริศรา อัสสกุล ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และ เจ้าของโรงเรียนโรงเรียนนานาชาติ ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพ กล่าวว่า “ในฐานะพันธมิตรที่มอบพื้นฐานทางด้านการศึกษาให้กับผู้อยู่อาศัย เราพัฒนาหลักสูตรที่มุ่งการสร้าง Wellbeing ในกิจกรรมของนักเรียน ทั้งการนั่งสมาธิ หรือ การบริหาร – ชะล้างจิตใจ ฯลฯ เป็นส่วนสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เอื้อต่อการเสริมสร้างการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน เราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เด็กสามารถค้นหาสิ่งที่ชื่นชอบและเติบโตอย่างมีความสุขในสังคมได้”

“จากแนวคิดการพัฒนาย่านกรุงเทพกรีฑาเป็น Wellliving Town for the Next Generation  หรือ “เมืองคุณภาพชีวิตเพื่ออนาคต” แสนสิริจึงได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา2 บนพื้นที่ 54 ไร่  มีจำนวนทั้งสิ้น 169 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้ดีไซน์ Dynamic Architecture ประกอบด้วย 4 แบบบ้าน ได้แก่ Cachet (แคชเช), Luminary (ลูมะเนอรี), Elite (อีลิท) และ Regal (รีกัล) แตกต่างกันตามพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 223-404 ตร.ม. โดยพัฒนาโครงการภายใต้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของแสนสิริในปีนี้ Sansiri For Greater WellBeing” ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ได้แก่ สบายกาย (Physical) การออกแบบที่รองรับการอยู่ร่วมกันของคนทุกวัยและคำนึงถึงการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ประหยัดพลังงานและ นวัตกรรมการอยู่อาศัยอย่างระบบ Home Automation และระบบบ้านปลอดฝุ่น (Dust Free House)  สบายใจ (Mental) การออกแบบเพื่อสร้างคุณค่าที่มีต่อความรู้สึกสุขสบายและความอุ่นใจในการอยู่อาศัยด้วยระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะทั้งภายในตัวบ้านและภายในบริเวณโครงการ และ ความสัมพันธ์ที่ดีของทุกคนในโครงการ (Social Wellbeing) จากสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการเสริมสร้างพัฒนาการ และการเจริญเติบโตของเด็ก รองรับการใช้งานของ เด็ก วัยหนุ่ม-สาว และ ผู้สูงอายุ เช่น คลับเฮาส์ที่มีฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมด้วยทางเดินออกกำลังกายในน้ำสำหรับผู้สูงอายุ และพื้นที่ส่วนกลางที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทุกบริเวณสามารถใช้งานได้ ในรูปแบบ Coworking spaceพร้อม WiFi ให้ทุกคนในโครงการสามารถใช้งานได้” นายสมเกียรติกล่าว

ด้วยจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจของแสนสิริในปี 2019 ภายใต้กลยุทธ์ “Sansiri For Greater WellBeing” ที่ไม่เพียงพัฒนาแค่ที่อยู่อาศัย แต่มุ่งมั่นสร้างไลฟ์สไตล์ที่ดีให้กับลูกค้าควบคู่กัน โดยการศึกษาพฤติกรรมลูกค้าอย่างละเอียดในทุก ด้าน ตั้งแต่การคิดผ่านมุมมองของลูกค้า ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่หลากหลายและรวบรวมข้อมูลว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มมีความต้องการในการอยู่อาศัยอย่างไร ทำให้เรามั่นใจว่า การพัฒนาสังคมการอยู่อาศัยแห่งต่อไปในครั้งนี้จะเป็นการพลิกโฉมการพัฒนาพื้นที่ 300 ไร่ ที่จะตอบรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ครอบคลุมและประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับการพัฒนา T77 ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ แสนสิริได้เตรียมเปิดการขายโครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑาในวันที่ 1มิถุนายนนี้ โดยมีโปรโมชั่นเฉพาะวันพรีเซลล์ “5 ยูนิตราคาพิเศษ + LUCKY DRAW มูลค่าสูงสุด 150,000 บาท”  สามารถเยี่ยมชมโครงการได้แล้ววันนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 1685 หรือ www.sansiri.com