ดาราสาวแมท ภีรนีย์ พร้อมคุณแม่ และทนายนิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ เดินทางมายังศาลอาญารัชดา เพื่อไต่สวนมูลฟ้อง หลังเป็นโจทย์ยื่นฟ้องผู้ช่วยพยาบาล ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท เพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง ซึ่งถือว่าเป็นเคสแรก โดยแมทได้เปิดใจด้วยน้ำตาคลอ ต้องทนเงียบตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แค่อยากขอความเป็นธรรมและอยากพิสูจน์ความจริงว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เป็นข่าว ซึ่งอยากฟ้องเป็นเคสตัวอย่างและอยากสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับสังคม ไม่อยากได้เงิน
“แมท ก็ไม่เคยพูดถึงความตั้งใจเลยนะคะ วันนี้ก็ขออนุญาตแถลงให้ทุกคนที่รอดูรอฟังเข้าใจว่าจริงๆเรามีเจตนาคืออยากให้เป็นบรรทัดฐานมากกว่าต้องการอย่างเดียวคือต้องการพิสูจน์และแสดงความจริงว่าสิ่งที่มันเป็นข่าวที่ผ่านมาตลอดสองปีมันไม่มีความจริงเลยแม้แต่น้อย เราเป็นผู้ถูกกระทำมาตลอดใช่ไหมคะ อยากได้ความเป็นธรรมบ้างเท่านั้นเอง ในเรื่องจริงว่ามันคืออะไร ก็วันนี้ได้มาเจอกับน้องครั้งแรกเหมือนกัน จริงๆน้องโทรมาหาคุณแม่หลายทีแล้วโทรมาหาพี่ทนายนิด้าด้วยเช่นกัน ในส่วนของที่มีข่าวออกไปว่า เราเรียกร้องค่าเสียหายหนึ่งล้านบาทพูดง่ายๆแบบบ้านๆจากใจจิงเลยว่าเราอยากเรียกให้เหมาะสมกับชื่อเสียง การศึกษา หน้าที่การงานทางสังคมที่ได้สูญเสียไปมาโดยตลอดนะคะ จริงๆแล้วก็อย่างที่บอกว่าคงไม่ถึงขนาดนั้นเราก็เห็นใจกันตลอด เพราะว่าคงไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกน้องเขาได้เท่าแมท เพราะว่าที่น้องเขาเจอตอนนี้ไม่ว่าจะเจ็บปวดทางด้านไหน แมทผ่านมาแล้ว(น้ำตาคลอ) แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยากให้มันผ่านกระบวนการศาลให้มันเป็นจริงเป็นจัง ทุกคนจะได้สร้างบรรทัดฐานขึ้นมาใหม่ โอเคเราเป็นดารานักแสดงก็จริง จำเป็นต้องยอมรับกับคำวิพากษ์วิจารณ์ แต่ว่าอยากให้มันอยู่บนความเป็นจริงนะคะ อย่าเล่นข่าวหรือพูดคุยด่าทอกันให้มันเสียหายหรือสนุกแบบที่มันเกิดขึ้นกับแมท แมทว่าทุกคนเห็นชัดอยู่แล้วว่ามันกระทบมากแค่ไหน แมทไม่เคยออกมาฟ้องนะว่าแมทไม่สวยืแมทเล่นละครไม่ดีอันนั้นน้อมรับด้วยความเต็มใจเสมอ แต่ว่าอะไรที่มันมากเกินไป อยากให้ทุกคนมีสติในการเสพข่าว เราได้รับสารอะไรมาเราลองดูก่อนสิ ชั่งใจก่อนไหม ว่าเรื่องจริงมันเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน อเวลาก่อน แล้วถ้ามันพิสูจน์มาว่าเป็นความจริงค่อยมาว่ากันอีกทีก็ได้”
เรายังเจ็บปวดกับคำพูดเหล่านั้น คอมเมนต์เหล่านั้นอยู่ไหม?
“เสมอค่ะ”
คำพูดที่น้องเขาเป็นคนโพสต์คืออย่างไรบ้าง?
“ถามน้องเองดีกว่า แต่อย่างนี้มันก็เป็นคำถามที่รู้ว่าเขาเจ็บปวด น้องก็เจ็บปวดด้วย ถ้ามันอิกไปเป็นข่าวแล้วก็จะไม่จบ คือทุกครั้งตลอดสองปีที่ผ่านมาทำไมแม่ถึงอยู่เงียบมากขนาดนี้ขนาดเงียบขนาดนี้ 365 วันที่ผ่านมาคูณสอง ยังไม่เคยมีวันไหนไม่มีข่าวแมทเลย แมทพูดเกินไปหรือเปล่า ไปย้อนดูค่ะว่ามันเป็นอย่างที่แมทพูดจิงหรือเปล่า คือวันนี้ที่มาฟ้องไม่ได้อยากให้มาทำร้ายกัน อยากสร้างบรรทัดฐานใหม่มากกว่าอยากให้ทุกคนก้าวผ่านอะไรที่มันต้องทำลายไปได้สักทีแล้ว มันต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงสักทีแล้ว”
คู่กรณี “ ตั้งใจที่จะมาขอโทษคุณแม่และพี่เขา(ยกมือไหว้) ซึ่งได้ขอโทษไปแล้วตั้งแต่ในศาลนะคะว่าเราเองก็ยอมรับผิดที่เราโพสต์ไปแบบนั้นคือตื้นลึกหนาบางเราไม่ได้รู้ว่าจริงๆแล้วความจริงมันเป็นอย่างไร เหมือนเราเสพข่าวเพียงแค่ไม่กี่บรรทัดและเราก็ไปตีความเอาเองว่าเขาต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ตัดสินไปในตามเนื้อข่าว จริงๆก็ได้ขอโทษคุณแม่ไปก็เข้าใจความรู้สึกเขานะคะ เพราะว่าเราเองก็เป็นอยู่ ณ ตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของพี่เขาว่าจริงๆพี่เขาคงเป็นเยอะกว่า เขาโดนมาตลอดเพราะเขาเป็นคนของสังคม เขาต้องโดนจับตามองเยอะกว่าเราอยู่แล้ว”
ข้อตกลงในวันนี้สรุปเป็นอย่างไร?
ทนายนิด้า “ วันนี้เป็นวันที่นัดไต่สวนมูลฟ้องหลังจากที่เราได้ยื่นฟ้องน้องมา ในการไต่สวนมูลฟ้องก็เพื่อที่ศาลจะได้ดูว่าเรื่องราวที่น้องแมทเอามาฟ้องเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า มีการแกล้งฟ้องการกล่าวหาเขาหรือเปล่า ซึ่งหลังจากวันนี้ศาลก็นัดฟังคำสั่งในวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งหลังจากวันนั้นถ้าศาลเห็นว่าคดีมันมีมูล ว่าน้องแมทไม่ได้เอาเรื่องเท็จมาฟ้องข้อความมันเป็นความเสียหายจริงศาลประทับฟ้อง ไว้พิจารณาศาลก็จะส่งหมายไปที่น้องเขา ถึงวันนั้นน้องก็ต้องตกเป็นจำเลยแล้วและจะต้องหาเงินประกันตัวหรืออาจจะต้องจัดหาทนายในการต่อสู้คดี ถ้าประสงค์ที่จะสู้คดีนะคะ ในเบื้องต้นเท่าที่คุยกันมาตลอดจนถึงวันนี้น้องรับทราบถึงการกระทำของตนเองทั้งหมดอวันนี้ที่ได้คุยกันในศาลทั้งน้องและคุณแม่ถามว่าโกรธเคืองน้องไหมทั้งสองบอกว่าคือให้อภัยไปหมดแล้วจริงๆ แต่ถามว่าทำไมคดีนี้ถึงต้องยังมูฟออนต่อไปเพราะว่าปัญหานี้มันค่อนข้างเป็นปัญหาสังคมเหมือนกัน น้องก็อยากที่จะสร้างบรรทัดฐาน ให้เกิดขึ้นกับสังคมต่อไป ทุกคนจะได้คำตอบสักทีว่าดาราวิจารณ์ได้ไหม แบบไหนเรียกว่าวิจารณ์ แบบไหนเรียกว่าไม่ใช่ แบบไหนคือเกินขอบเขตที่จะต้องเป็นความผิด ซึ่งเราก็อยากสร้างบรรทัดฐานตรงนั้นต่อไปให้ทางกับตัวน้องแมท ภีรนีย์เองและกับท่านอื่นด้วย ส่วนขอบเขตของการวิจารณ์ อย่างเขาเป็นนักแสดงดูบริบทเขาก่อน เขาเป็นนักแสดงติชมไปสิ เล่นแข็ง สื่อสารอารมณ์ไม่ได้เลย ทำไมวันนี้แต่งตัวไม่สวยเลย โอเคความเป็นดารานักแสดงมันขึ้นอยู่กับความสวยความงามถูกต้องไหม ถามว่ามันควรไหมมันก็ไม่ควรหรอก แต่เชื่อว่าดาราทุกคนยอมรับในจุดนั้นได้ จะสวยไม่สวย จะหุ่นดีไม่ดี จะอะไรยังไงต่างๆยอมรับได้ แต่ว่าอย่างอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริบทที่เขาเป็นอยู่ในเรื่องส่วนตัวอย่างทนายนิด้าเองเป็นทนายความก็วิจารณ์ได้ว่าทำงานดีไม่ดี สัมภาษณ์ดีไม่ดี เกี่ยวกับการตอบกฏหมายว่าได้ แต่ถ้าบอกว่าทนายเคยเป็นผู้หญิงขายตัวมาก่อน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเป็นทนายนะ ถึงต่อให้เป็นเรื่องจริงมันก็ผิด เฉกเช่นเดียวกันนะคะ น้องแมท ภีรนีย์ในเรื่องส่วนตัวเขา ถ้าไม่ได้เป็นประโยชน์กับสังคมใดๆก็ไม่อยากให้ไปวิจารณ์นะคะ ทีนี้ถามว่าถ้ามันเกินขอบเขตที่เขาจะรับได้ เช่น ครอบครัวนี้ทำไมมารยาทเป็นอย่างไร ทำไมตอบคำถามเสียงดังหรือยังไง โอเค เราก็อาจจะนำไปปรับปรุง ติเพื่อก่อ ถูกต้องไหมคะ แต่ถ้าเกินเลยไปถึงครอบครัวพ่อแม่พี่น้องซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาด้วยหรือการที่ไปบอกว่าเป็นผู้หญิงโสเภณีมันไม่ได้เกี่ยวกับบริบทอะไรที่เขาเป็นอยู่ จริงๆเชื่อว่าหลายหลายท่านรู้อะไรคือขอบเขตเท่าไหน เพียงแต่ว่าไม่มีความยับยั้งชั่งใจเท่านั้นเอง”
หลังจากที่ได้พูดคุยกันวันนี้เรามีแนวโน้มที่จะให้อภัย ถอนฟ้องไหม?
“ ถอนฟ้องไม่ได้แล้วค่ะ เพราะว่าได้มีการประทับรับฟ้องไปเรียบร้อย อย่างที่บอกว่าเราคงไก่เกลียกันยาวๆว่าบทลงโทษที่ควรจะมี มีได้เท่าไหร่อย่างที่บอกไปหลายๆครั้งเสมอว่าไม่ได้ต้องการเอาเงินค่ะ แมททำงานหาเงินมาด้วยตัวเองตลอดอยู่แล้ว ทำได้อไม่ได้มีปัญหา แต่อย่างที่บอกว่าอยากให้ทุกคนรับทราบว่าบรรทัดฐานมันควรแค่ไหน ขอบเขตมันอยู่แค่ไหน เสพข่าวพูดเสมอว่าให้พอเหมาะพอควร ฝากถึงสื่อหลายๆท่านด้วยว่าสนุกได้ค่ะ ทราบว่านี่คือวงการบันเทิงแต่เอาพอประมาณอย่าต้องให้ถึงกับคนคนหนึ่ง สูญเสียอะไรหลายๆอย่าง ทั้งทางด้านจิตใจหรืออะไรก็แล้วแต่ เห็นไหมว่ามาวันนี้ก็คือแมทก็ทุกข์คนถูกฟ้องก็ทุกข์คนรอบตัวของคนที่ถูกฟ้อง ผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ทุกคนทุกข์หมดเลย ไม่มีใครแฮปปี้ ไม่มีใครสนุกไปกับเหตุการณ์นี้เลยค่ะเพราะฉะนั้นแมทรู้สึกว่ามันคงไม่มีใครชอบอยู่แล้ว”
ทนายนิด้า “ เมื่อกี้ได้ถามน้องนัทว่าคดีนี้จะไก่เกลียไหมในเรื่องกฎหมายดังนั้นอาจจะไม่เข้าใจว่ามันถอนไม่ได้แล้วเพราะว่าศาลรับแล้วจริงๆแล้วคดีนี้มันเป็นคดีที่ยอมความได้มันถอนได้อยู่ตลอดเวลาเพียงแต่ว่าอย่างที่บอกว่าในวันนี้น้องตัดสินใจแล้วว่าต้องการคำพิพากษาของศาลมาเป็นบรรทัดฐานให้กับสังคมว่าในการที่เรากระทำแบบนี้บนแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดมันมีราคาค่างวดที่จะต้องจ่ายเท่าไหร่ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแต่ตัวเงินหมายถึงโทษและค่าปรับที่ต้องชำระให้ศาลด้วย ความหมายของน้องแมทคือมันเลยจุดของการที่จะมาถอนฟ้องอะไรกันในเวลานี้แล้วมันไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องของการยอมความไม่ได้นะตอนนี้ที่ยื่นฟ้องไปรวมแล้วก็ประมาณ 10 -11 เคสค่ะ ซึ่งในเคสถัดไปศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ในเดือนกุมภาพันธ์แต่ว่าในคดีนี้ศาลนัดฟังคำสั่งไต่สวนมูลฟ้องคือในวันที่ 3 พฤศจิกายนแต่ในล็อตที่เคยโพสต์ไปศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ถามว่าจะมีเพิ่มเติมอีกไหม ก็คิดว่ายังคงจะมีอยู่ซักประมาณหนึ่งที่เก็บเอาไว้ แต่ในส่วนที่บอกตอนนี้ก็ดูในเรื่องของความเหมาะสมกันอยู่ว่าจะประมาณไหน แต่คิดว่าก็คงจะมีเพิ่มเติมอีกซักประมาณหนึ่งค่ะ”
2 ปีที่เราได้รับผลกระทบ ความรู้สึกที่เราเสียไป คนที่โพสต์ต่อว่าเรา เรามองว่าเขาต้องชดใช้มากน้อยแค่ไหนถึงจะสาสม?
“ให้ศาลท่านพิจารณาดีกว่าค่ะ โดยจิตใจแมท แมทโอเคมาตั้งนานแล้วค่ะ แมทไม่ได้ติดใจอยากเอาความหรืออะไร แต่ก็อย่างที่บอกพูดเป็นครั้งที่สามว่าอยากให้มันเป็นบรรทัดฐานใหม่เท่านั้นเองค่ะ”
อย่างดาราหลายๆคนยกเราเป็นไอดอลแล้วนะ?
“ก็ไม่ถึงขนาดนะเนหรอกค่ะ แต่ว่าทางข้อความแมทได้รับเยอะเหมือนกันว่าหลายๆท่าน ซึ่งเราก็ไม่เคยทราบเลยว่าเขาก็โดนคุกคามขนาดนี้เหมือนกันค่ะ”
อยากบอกอะไรสำหรับคนที่จะคอมเมนต์ต่อไป หรือกลับตัวกลับใจ?
“มันไม่ใช่กลับตัวกลับใจ แมทเข้าใจว่าคำว่าดารา เห็นเค้าเล่นละครอยู่ในทีวีเหมือนว่าเรามีสิทธิ์ในตัวเขา เราชื่นชมเขานะ เราสนับสนุนเขาแมทเข้าใจทุกอย่างว่ามีความอิน มีความรู้สึกไปกับข่าว แต่อย่างที่บอกว่าก่อนที่จะเชื่ออะไร อยากให้ชั่งใจก่อนนิดหนึ่ง ดูว่ามันเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน อย่าไปเชื่อสิ่งที่ข่าวออกหรือสิ่งที่นำเสนอออกไปซะทั้งหมด”