ทำใจแล้วว่าไม่ได้ของคืนแน่นอน หลังถูกโจรทุบรถขโมยทรัพย์สินที่อเมริกา สำหรับสาวแพนเค้กเขมนิจซึ่งงานนี้เจ้าตัวเผยถือเป็นอุทาหรณ์ให้ตนเองระมัดระวังมากขึ้นโชคดีที่ไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย นอกจากนี้สาวแพนเค้กยังเปิดใจหลังถูกจับตามองกระแสดรอปไม่เหมือนที่ผ่านมา
“เราได้ส่งสิ่งของเสียหายต่างๆ ไปให้ทางนู้นเพื่อดำเนินการของเขาเผื่อมันอาจจะโคฟเวอร์วิ่งต่างๆ ที่เราหายไปได้แต่จริงๆ เราก็ตัดใจแล้วแหละเราไม่ได้คิดว่าจะได้อะไรกลับมา”
คดีความมีความคืบหน้าไหม?
“ถ้าในเรื่องตามจับแพยคิดว่ามันไม่ได้มีอะไรคืบหน้าอยู่แล้วมันน่าจะค่อนข้างยากเพราะมันต่างที่ต่างทางและเรากลับมาแล้วด้วย”
ความรู้สึกของเราตอนนั้นเราช็อกไหม?
“ช็อกค่ะก็ตกใจไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเราเราเดินทางเยอะมากหลายที่ทั้งที่มีคนเตือนตลอดว่าให้ระวังนะก็ยังรอดมาได้แต่พอตรงนี้เมื่อมันเกิดจริงๆ แต่ก็ดีคือคุณแม่อยู่และอยู่กันหลายคนเลยลำดับเหตุการณ์ว่าเราควรจะทำอะไรก่อนหลังดี”
ความเสียหายมูลค่าที่ต้องดูแลที่เขาต้องดูแลเราประมาณเท่าไหร่แต่ทำประกันไว้ใช่ไหม?
“ค่ะมีประกันรถที่เราเช่าไปแต่ว่าก็ประมาณหนึ่งแหละก็มีของมีโทรศัพท์ไอแพดมีกล้องมีเงินสดนิดหน่อยที่ติดอยู่ในกระเป๋าแต่ก็โอเคพอกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ยังได้เจอพี่ๆหลายท่านที่บอกว่าเควเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกันจริงๆเจอเยอะกว่าแพนอีกก็ยังได้คุยกันว่าเขาทำยังไงกันต่อไปเป็นอะไรดีๆ แล้วกันที่เรามีโอกาสได้มาแชร์กัน”
ทางตำรวจที่นั่นเขาเป็นคนจัดการให้หรอ?
“ไม่ค่ะทางตำรวจที่นั่นเราติดต่อไปแล้วเขาบอกว่า3ชั่วโมงกว่าเขาจะมาหาเราและมันก็ไม่ทันที่เราจะเดินทางมาขึ้นเครื่องเราเลยต้องเดินหน้าต่อและติดต่อทางอธิบดีกรมการกงศุลซึ่งแพนเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์หนังสือเดินทางไทยอยู่แล้วท่านเลยแนะนำว่าให้แพนติดต่อมาที่กงศุลใหญ่ที่แอลเอเพื่อติดต่อเรื่องเพื่อทำเอกสารก็พี่ๆก็ได้ดำเนินกรเอกสารให้เพื่อให้ได้เดินทางกลับในคืนนั้นค่ะ”
เราต้องระมัดระวังมากขึ้นไหมเพราะเราต้องเดินทางไปต่างประเทศตลอด?
“จริงๆ เราเดินทางเราระมัดระวังอยู่แล้วเพียงแต่เราอาจจะมีความชะล่าใจเอกสารสำคัญอย่างเช่นพาสปอร์ตควรจะอยู่ติดตัวไม่ควรจะปล่อยทิ้งไว้หรือว่าของต่างๆถ้าอยู่ในรถก็อาจจะต้องมิดชิดมีอะไรปิดหรือให้เห็นน้อยที่สุดก็จะได้เป็นการเตือนเราเพราะบางทีเราไม่ระวังทิ้งของไว้ในรถไม่เป็นไรหรอกอยู่ในที่ที่ไม่ได้เปลี่ยวอะไรอะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ นะคะ”
รู้สึกหลอนกับการไปต่างประเทศเลยไหม?
“ไม่กลัวต่างประเทศแต่ต้องระวังมากขึ้นจะรู้สึกว่าไม่อยากเอาอะไรที่เป็นของมีค่ามากไปหรือถ้ามีก็ต้องติดตัวเอาไว้ตลอด”
ไม่ถึงขั้นหลอนเวลาไปไหนมาไหน?
“ไม่ๆ ค่ะจริงๆ ก็ยังดีที่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายซึ่งเป็นสิ่งของเราก็ยังหาใหม่ได้ก็เดินหน้าก็ถือเป็นอุทาหรณ์แล้วกันค่ะในการเดินทางของเราค่ะ”
สารวัตรหมีแนะนำวิธีการป้องกันเบื้องต้นไหม?
“พี่คือแนะนำมาตลอดแล้วพี่หมีก็ช่วยประสานทางด้านสายการบินให้ตั้งแต่ที่แอลเอจนกลับมาถึงกรุงเทพจนผ่านตม. ก็ดูแลกันก็บอกว่าเนี่ยพี่เตือนแล้วก็คือเคยบอกกันอยู่แล้วว่าเราไม่ควรทิ้งของไว้ในรถก็ต้องระมัดระวังกันมากขึ้น”
แสดงว่าโดนดุ?
“พี่หมีก็เตือนค่ะ(หัวเราะ) ก็คราวหน้าเดินทางก็ต้องระวังมากขึ้น”
เขาเป็นห่วงเรามากขึ้นไหมเพราะครั้งนี้เราอาจจะปลอดภัยแต่ครั้งหน้าเราไม่รู้ว่าจะกิดอะไรบ้าง?
“เขาก็เป็นห่วงแต่เขาก็จะบอกว่าในสถานที่ในประเทศที่เราไปก็มีคนเตือนเอาไว้ค่อนข้างเยอะและทุกวันนี้ก็เกิดเหตุแบบนี้ค่อนข้างเยอะกับคนไทยในต่างประเทศอยู่แล้วก็ให้ระวังมากขึ้นอะไรที่สำคัญอย่างที่บอกให้ติดตัวเอาไว้ดีกว่าค่ะ”
ถึงขนาดต้องตามไปต่างประเทศด้วยไหม?
“ไม่ค่ะจริงๆ เขาก็ให้เราได้ดูแลตัวเองแหละเวลาเราเดินทางเราไปกันคุณแม่อยู่น้องอยู่ทริปไหนไปด้วยกันได้ก็คือไปแต่ว่าไปกันเองก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ”
ถามถึงเรื่องการทำงานที่หลายคนยังคงเสียดายถึงขนาดบอกว่าถ้าเราเป็นนักแสดงอิสระคงปังกว่านี้?
“แพนต้องขอบคุณในความหวังดีและความคาดหวังต่างๆแต่ส่วนตัวแพนแพนคิดว่ามันคุ้มค่าสำหรับการที่มีคนรอชมผลงานเราหรือได้เห็นชิ้นงานใหม่ๆของเราเพราะบางทีสิ่งที่คนอื่นคิดมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นแพนแต่สิ่งที่เป็นแพนในวันนี้แพนคิดว่ามันคือสิ่งที่เราใช้เวลาในการเรียนรู้และให้เวลากับมันจริงๆกว่าจะเป็นชิ้นงานที่ออกมาซึ่งแพนคิดว่ามันคุ้มค่าค่ะ“
ส่วนตัวเราเองเคยรู้สึกไหมว่ากระแสของเรามันดรอปลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา?
“แพนไม่ได้มองว่ามันมากมันน้อยหรือว่ามันยังไงเพราะแพนคิดว่าเราก็อยู่ในแบบที่เป็นตัวเรามาโดยตลอดและเราก็ทำชิ้นงานที่มันหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการเล่นละครการเดินแบบการเป็นพิธีกรคือเราได้ทำอะไรที่มันค่อนข้างแตกต่างอยู่เสมอแพนไม่ได้คิดว่าอะไรคือการวัดว่ามันมากหรือน้อยขึ้นหรือลงหรือมีข่าวตลอดเวลาแต่แพนอยากจะมีข่าวดีๆข่าวที่เป็นผลงานของเราให้คนได้เห็นมากกว่าเพราะงานของเราคือการเป็นนักแสดงฉะนั้นชิ้นงานของเราก็คือสิ่งที่สำคัญที่สุดและแพนก็อยากให้ทุกคนได้เห็นในจุดนั้น“
แต่หลายๆคนก็ค่อนข้างจำได้ว่ามันมียุคหนึ่งที่เป็นยุคแพนเค้กเพราะเราจองงานแสดงงานพรีเซ็นเตอร์เกือบทั้งวงการ?
“ทุกวันนี้แพนก็ยังบอกตัวเองนะคะว่าแพนดีใจที่มีโอกาสได้ทำและแพนก็ผ่านจุดนั้นมาแล้วซึ่งแพนรู้สึกว่าช่วงระยะเวลาหนึ่งเราก็ได้ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่จริงๆและก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายด้วยที่วันนี้เราจะทำหรือไม่ทำเพราะแพนเคยทำมาแล้วแพนดีที่ในช่วงเวลาตรงนั้นค่ะเพียงแค่ตอนนี้แพนเปลี่ยนมาทำเรื่องราวดีๆอื่นๆต่อไปเพราะถึงยังไงทุกคนก็ต้องเดินหน้าอยู่แล้ว“
เราถือว่าช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นกำไรชีวิต?
“แพนคิดว่ามันคุ้มค่านะคะคุ้มค่าจริงๆเพราะน่าจะเป็นระยะเวลา15 ปีของแพนแล้วมั้งคะที่ได้ทำอะไรที่มันแตกต่างหลากหลายและเพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอดถึงแม้คนจะเห็นเรามากน้อยในแต่ละช่วงเวลาแต่จริงๆแล้วเราก็ไม่ได้หยุดนิ่งเลยเพราะแพนก็ยังได้ทำอะไรใหม่ๆ มีชิ้นงานใหม่ๆออกมาให้ได้เห็นอยู่เรื่อยๆ ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ ค่ะสำหรับแพน“