ออกมายืดอกยอมรับลดสถานะ หมออร เหลือเพรยงเพื่อน พี่น้องที่ดีต่อกันมาได้สักระยะแล้ว สำหรับหนุ่มเกรท วรินทร โดยเจ้าตัว้ผยพยายามประบจูนกันมา หลักๆแล้วคงเป็นปัญหาในดรื่องของเวลา ทัศนคติ ที่ไม่เหมือนกัน แต่ยืนยันจบกันด้วยดี ยังพูดคุยกันในฐานะของความเป็นเพื่อนยอมรับเสียใจแต่ไม่เฮิร์ต
ตอนนี้โควิด-19 กับมาระบาดอีกแล้ว เราหวั่นๆ ไหม?
“ก็อัปเดตเรื่อยๆ ถ้าสมมติว่ามันเกิดเหตุการณ์เหมือนรอบแรก ก็เห็นใจผู้ประกอบการ หรือว่าใครที่ได้รับผลกระทบเยอะๆ ขนาดเราเอง เราก็โควิดศูนย์บาทเหมือนกันนะ อยู่แต่กับบ้าน มันศูนย์บาทแบบไม่ไหวแล้วนะ ต้องมีสกิลทำอาหารขาย คืออันนี้อย่าให้มันเกิดถึงจะต้องล็อกดาวน์เหมือนรอบแรกเลย คนเดือดร้อนเยอะมาก เขาบอกว่าจะไม่มีเวิร์คให้ทำ ไม่มีโฮมให้อยู่ (หัวเราะ)”
แต่เราก็ยังมีถ่ายละครอยู่ใช่ไหม?
“ใช่ หลังโควิด-19 มา ถ่ายยับเลยนะ เรียกว่าตอนนี้ก็ถ่ายละครอยู่ครับ ดาวคนละดวง ก็ถ่ายเร่งๆ เลย แล้วตอนนี้ได้ข่าวโควิดมาอีกที จะกระทบไหม ก็นั่นนะสิ ก็ได้แต่พูดแล้วก็พยายามดูแลตัวเอง ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคน เคยผ่านรอบแรกมาแล้ว มันมีสกิลการดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น มันก็ระวัง รู้ว่าพอเวลาล็อกดาวน์นานๆ มันส่งผลกระทบอะไรกับชีวิตบ้าง มันก็ไม่น่าจะแบบ ไม่ควรเกิดขึ้นอีกครั้ง”
เราเตรียมพร้อมตั้งรับอย่างไรบ้าง ถ้ามีการระบาดรอบที่ 2?
“คือจริงๆ ตั้งแต่พอหายไป ก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติแล้ว ตัวผมเองผมก็รู้สึกว่ามันควรที่จะเป็น New normal อยู่ ก็คือใส่หน้ากาก หรือล้างมือถี่ขึ้น ในทุกๆ วันนี้ เห็นเจลที่ไหนก็กด ไปไหนมาไหนนั่งรถก็ต้องล้างมือ ผมว่าอันนี้ก็ยังทำอยู่ ก็ถือว่าเป็นวิธีการหนึ่ง ที่เรียกว่าการ์ดไม่ตก อย่างหนึ่งที่เรากำลังทำอยู่ แล้วก็ตอนนี้พอมันเริ่มกลับมาอีก เราก็ยิ่งต้องใส่ใจว่าเราจะไม่หย่อนในพฤติกรรมของเรา”
หลายๆ คนรีบไปทำโน่นทำนี่ก่อน เผื่อจะโดนปิดอีกรอบ เรามีต้องรีบไปทำอะไรบ้างไหม?
“ต้องรีบเหมือนกันนะเนี่ย หน้าผากย่นแล้ว เดี๋ยวไปจิ้มไว้ก่อน (หัวเราะ) ส่วนจะรีบไปเที่ยวไหนไหม เรื่องเที่ยวตัวเราเองยังไม่ได้คิด มีแพลนว่าจะไปเที่ยวนะ เพราะว่าส่วนหนึ่งมันก็ยังไม่ไว้ใจนะ คือต่อให้จะไม่มีผู้ป่วยในประเทศนานแล้ว มันก็ยังมีความรู้สึกกังวล ยังไม่ไว้ใจอยู่ เริ่มกลับมาทำงานเยอะแล้วตัว ก็เลยยังไม่มีแพลน แล้วตอนนี้มาอีกก็แบบ…อืม”
โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษของน้องชายเรา ได้รับผลกระทบไหม?
“น้องก็ดีครับ ตอนนี้ก็เตรียมการสอน แล้วก็มีสอนออนไลน์ด้วย การสอนออนไลน์มันก็ปลอดภัยหน่อย แล้วนักเรียนที่เข้ามาก็ต้องดูแลวัดไข้ ล้างแอลกอฮอล์ ก็ปรับตัวไปครับ”
ฝากเตือนทุกคนการ์ดอย่าตก?
“ผมเชื่อว่าพวกเราคนไทยผ่านวิกฤติครั้งแรกมาแล้ว ล็อกดาวน์มาแล้ว รู้อยู่แก่ใจว่ามันส่งผลกระทบยังไงบ้าง ก็เห็นใจทุกๆ คนที่ได้รับผลกระทบนะครับ อยากบอกทุกคนที่การ์ดไม่ตกอยู่แล้ว ก็ต้องมีอยู่ต่อไป ส่วนใครที่อาจจะเผลอการ์ดตกไปบ้าง ก็ลองใส่ใจตัวเองอีกสักครั้งหนึ่ง เหมือนที่เคยทำในครั้งแรก เหตุการณ์ครั้งนี้จะได้ไม่บานปลายไปถึงล็อกดาวน์อีกรอบครับ”
มีกระแสข่าวออกมาว่าตอนนี้กลับมาโสดแล้ว ?
“ก็… ยังไงดี จริงๆ เรื่องนี้ก็ไม่อยากจะพูดเท่าไหร่เนอะ คือเราคุยกันทั้ง 2 คน คุยกันแบบไม่ได้เป็นแฟนกัน เป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน มันกลับสบายใจกว่า ตอนนี้ก็เลยเป็นแบบนั้น”
นานหรือยัง ?
“ประมาณสักเดือนหนึ่งครับ คือทุกครั้งที่มีปัญหาเราก็พยายามปรับกัน แต่มันก็ยังมีหลายๆ อย่างที่มันเกิดความไม่สบายใจกับทั้งคู่ เราได้คุยกันแล้ว ลองแบบนั้น แบบนี้ สุดท้ายพอเรามาคุยกันอีกทีทำให้รู้สึกว่า เป็นพี่น้องกันทำไมคุยกันแล้วมันมีรอยยิ้มมากกว่า”
สาเหตุที่ต้องยุติความสัมพันธ์เกิดจากอะไร ?
“จริงๆ ผมว่าด้วยเรื่องของเวลาส่วนหนึ่ง และด้วยเรื่องทัศนะคติอีกส่วน ซึ่งไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร แต่เป็นเพราะระยะเวลาการทำงานคนละแบบกัน และบางทีด้วยตัวผมทำงานก็ทำให้เรื่องเวลาไม่ได้ ปรับตัวไม่ได้ เลยทะเลาะกันบ่อย”
ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องเวลา ?
“ปัญหาส่วนใหญ่มาจากเรื่องเวลาด้วยส่วนหนึ่ง และหลายๆ อย่างด้วย ทั้งความชอบ ไม่ชอบ”
จบกันด้วยดีใช่ไหม ?
“จบด้วยดีครับ ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันอยู่ เราคุยกันด้วยความสบายใจว่าจะอยู่ตรงนี้”
เหมือนทางหมออรเองก็โพสต์เศร้าๆ เหมือนกัน ?
“เหรอครับ ไม่ได้เห็นเลย แต่ทุกวันนี้เราก็ยังให้กำลังใจกันอยู่ มีอะไรที่ไม่สบายใจก็ยังคุยกัน”
เสียดายเวลาไหม ?
“ผมว่าไม่เสียดายนะ อย่างน้อยมันก็ได้สอนให้เรารู้ว่าเราเป็นแบบไหน มันก็สอนให้เราก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่งในเรื่องของความรัก ไม่เสียดายครับ”
ในฐานะที่เราเป็นดารา คนที่จะเข้ามาคุยต้องวางตัวและปรับตัวมากแค่ไหน ?
“อันนี้ผมพูดตรงๆ นะ อย่าไปพูดว่าให้คนที่เข้ามาหาเราต้องปรับตัวเลย จริงๆ คนที่คบกันในความคิดผม มันต้องปรับทั้งคู่ บางอย่างมันอาจจะยากสำหรับผม บางอย่างมันอาจจะยากสำหรับเขา ถ้าเกิดมันมีความทุกข์มันก็ไม่ดีกับทั้งสองฝ่าย”
มีโอกาสรีเทิร์นไหม ?
“ตอนนี้เหรอครับ คิดว่าไม่นะ คือเหมือนมันอยู่ตรงนี้ก็สบายใจแล้ว เรายังรู้สึกว่าด้วยหน้าที่การงาน ด้วยอะไรที่มันยังไม่มีเวลาไปทำนู่นนี่นั่นเลย ขอเป็นอย่างนี้ไปก่อนแล้วกัน ยังไม่คิดที่จะมีใคร เราไม่ค่อยขี้เหงาอ่ะ”
เรามีแอบเสียใจบ้างไหม ที่ความสัมพันธ์ต้องจบลง ?
“เฮิร์ทสิ ก็มีความรู้สึกเสียใจอยู่แล้วเป็นปกติครับ แต่มันใช้คำว่าเฮิร์ทก็ไม่ถูก เฮิร์ตมันไม่ดี แต่เราคุยกันด้วยดี อย่างแรกเราก็ต้องยอมรับความจริงกันทั้งคู่ เสียใจแต่ไม่ได้เฮิร์ทครับ ผมดูปกติใช่ไหม เวลาพูดก็ต้องพูดปกติสิ”
คุณแม่ว่าอย่างไรบ้าง?
“แม่ไม่ได้ว่ายังไงครับ ทุกอย่างแม่ก็แล้วแต่เรา ก็มีคุยกับแม่บ้าง”
จากนี้จะโสดยาวๆ เลยไหม ?
“คิดว่านะ ตอนนี้ก็โสดครับ ไม่ได้คุยกับใคร รู้สึกว่ามันก็ได้เจอตัวเองมากขึ้น อย่างที่บอกความรักครั้งนี้สอนให้เราได้เจอตัวเองว่าอันไหนที่เราโอเค อันไหนที่เราลำบากใจ ตอนนี้ก็ได้อยู่คนเดียง ก็แฮปปี้ดีครับ”
ระยะเวลาทั้งหมดที่ศึกษาดูใจกันมากี่ปี ?
“น่าจะสัก 2-3 ปีครับ”