หนิง ควง จิน นำกระเช้าขอโทษพร้อมนำรถมาเซราติให้ตำรวจตรวจสอบ

0
791

 

สำหรับดาราสาวหนิง ปณิตา พร้อม จิน ธรรมวัฒนะ สามร เดินทางมายัง บก.จร. ถนนวิภาวดี เพื่อนำรถยนตร์หรูมาเซราติ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมนำกระเช้าผลไม้เข้าแสดงความขอโทษต่อ ส.ต.ท. ธีรพงษ์ ขาบจันทึก ผบ.หมู่งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี – รังสิต กก.2 บก.จร. เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุด้วย

ความเครียดที่ผ่านมามันทำให้เราเสียน้ำตาไหม ?
“มันก็ต้องเสียน้ำตาเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องยอมรับความเป็นจริงด้วยว่าเราทำผิด เราทำผิดจริงๆ ดังนั้นต่อให้มันรุนแรงแค่ไหนเราก็ต้องรับมันให้ได้ แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว หนิงเองก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกัน ขอบคุณทุกๆ คอมเมนต์จากคนที่เข้ามาตำหนิหนิง หรือต่อว่าหนิง เพราะหลายๆ คอมเมนต์ของหลายๆ คน เขาก็เหมือนยังให้โอกาสหนิงอยู่ อันนี้หนิงอ่านทุกข้อความนะคะ”

“บางคนที่เข้ามาคอมเมนต์เขาบอกว่าหนิงไม่ขอโทษ ซึ่งจริงๆ หนิงขอโทษไปแล้วนะคะผ่านรายการคุยแซ่บโชว์ แต่ว่าบางครั้งเขาอาจจะไม่ได้ยินคำตรงนั้น และหนิงก็สามารถบอกได้เลยว่ามันคือนาทีที่ 07.11 น. เพราะตอนที่มีคนบอกมาว่าหนิงไม่ขอโทษ หนิงก็ได้กลับไปย้อนดูเทปรายการประมาณ 3-4 รอบ ว่าหนิงได้พูดคำว่าขอโทษแล้วจริงๆ”

ทำไมเราถึงเลือกที่จะเข้าไปตอบข้อความนับร้อยคอมเมนต์ ทั้งๆ ที่เราสามารถปล่อยผ่านไปได้ ?
“หนิงแคร์คนที่เขารัก คนที่เขาเป็นห่วง และคนที่เขาหวังดีกับหนิงจริงๆ เพราะถ้าหากไม่มีพวกเขา หนิงก็คงไม่มีวันนี้ด้วยเหมือนกัน ฉะนั้นในเมื่อวันนี้หนิงทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี หนิงก็อยากจะขอโทษพวกเขาด้วยตัวเองค่ะ”

มีคอมเมนต์ไหนบ้างที่เราอ่านแล้วเสียน้ำตา ?
“ทุกคอมเมนต์ค่ะ ขนาดพูดตอนนี้หนิงยังจะร้องเลย คือ…ต่อให้เป็นคอมเมนต์ด่า แต่หนิงกลับรู้สึกว่าจริงๆ แล้วเขาเองก็มีความหวังดีให้หนิง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีนะคะบางคอมเมนต์ที่เขาถามหนิงมาว่า ถ้าเจ๋งจริงจะลบคอมเมนต์บางคอมเมนต์ทำไม ซึ่งอันนี้หนิงต้องบอกเลยว่า บางข้อความมันก็แรงเกินไปจริงๆ เพราะเขาไม่ได้ด่าแค่หนิง แต่เขาด่าครอบครัวหนิง ด่าลูกหนิง ซึ่งคนเหล่านั้นเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย และคนที่ผิดก็คือหนิงแค่คนเดียว”

สามีเราให้กำลังใจยังไงบ้าง ?
“เขาก็ทำทุกอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาเป็นตัวแทนหนิงก่อนในช่วงที่หนิงยังเดินทางมาไม่ได้ และจริงๆ วันนี้เขาเองก็ไม่ต้องมาด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังมาเป็นเพื่อน มาคอยให้กำลังใจ เพราะเอาจริงๆ เรื่องของเอกสารอะไรต่างๆ หนิงไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก เนื่องจากหนิงรู้สึกว่าการขับรถของหนิงมันเป็นอาถรรพ์ ตั้งแต่สมัยที่ขับรถคว่ำ เพราะตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้หนิงก็ไม่ได้ขับรถเองเลย”

เหมือนเรามองว่ามันคืออาถรรพ์ เพราะการขับรถของเรามักมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ?
“มันก็แอบคิดเบาๆ ค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดเรื่องนี้จริงๆ มันก็คือความประมาท ความใจร้อน และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเรานั่นแหละ หนิงจึงลืมมองไปว่าตำรวจบางท่านเขาอาจจะไม่ได้ทำงานรวดเร็วดังใจเรา เพราะบางครั้งการที่เขาช้านั้น เขาอาจจะช้าเพราะต้องใช้ความละเอียดในการตรวจสอบ ซึ่งเรื่องความใจร้อนหนิงโดนดุเยอะมากค่ะ”

กระแสในทวิตเตอร์มีการเอาภาพเราไปตัดต่อด้วย ?
“เรื่องนี้ทำให้หนิงเสียน้ำตาเยอะมากค่ะ หนิงรู้สึกว่ามันเกินไป เพราะหนิงไม่เคยโดนแบบนี้มาก่อน แต่ถามว่าหนิงจะเอาเรื่องไหม ก็คงไม่หรอกค่ะ เพราะอย่างที่หนิงบอกครั้งนี้หนิงเป็นคนผิด ซึ่งมันก็สมควรแล้วที่หนิงจะโดน แต่หนิงขอแค่ให้มันสมเหตุสมผลสักหน่อย คือ…ลงโทษหนิงได้ ตำหนิหนิงได้ แต่ขอให้หนิงได้มีที่ยืนบ้าง”

เรื่องรถของเราที่ถูกขุด เรารู้สึกหนักใจไหม ?
“ไม่ ไม่ค่ะ ส่วนตัวหนิงเองไม่ได้มีความหนักใจอะไรกับตรงนี้ ดีแล้วด้วยซ้ำที่มีการตรวจสอบ เพราะสุดท้ายความจริงมันจะได้คลี่คลาย”

 

รถคันนี้คือสามีเราเป็นคนซื้อ ?
“ใช่ค่ะ แต่ว่าซื้อในนามของบริษัทหนิง ซึ่งโดยปกติแล้วรถคันนี้หนิงจะเป็นคนใช้ แต่ด้วยความที่หนิงไม่ค่อยได้ขับรถ รถมันก็เลยจะถูกจอดทิ้งเอาไว้เฉยๆ คือ…เอาจริงๆ นะ ทุกครั้งที่หนิงทำท่าจะขับโดยเฉพาะช่วงกลางคืน ทุกคนในบ้านก็จะห่วงมากเป็นพิเศษ เพราะว่าหนิงเคยติดเชื้อเลสิกที่ตา มันเลยทำให้หนิงมีปัญหาในการมองเห็นตอนกลางคืน ถึงแม้ว่าทุกวันนี้หนิงจะชินกับการมองเห็นมากขึ้นแล้ว แต่ความเป็นห่วงของทุกคนก็ยังมีอยู่”

ดูเหมือนว่าอุบัติเหตุรถคว่ำในอดีตยังส่งผลถึงความรู้สึกของเราและหลายๆ คน ?
“หนิงกลัวมาก เพราะมันคว่ำเหมือนในหนังเลยค่ะ คว่ำหลายตลบ ถึงแม้ช่วงหลังมานี้หนิงจะไม่ได้ขับรถด้วยตัวเองแล้ว แต่ทุกครั้งที่ได้ขับมันก็จะต้องมีนั่นมีนี่ตลอด”

เรื่องใบขับขี่ของเรา ณ ตอนนี้คือ ?
“หนิงมีค่ะ แต่เหมือนว่าใบขับขี่หนิงหมดอายุ หนิงเลยตั้งใจว่านี่แหละเดี๋ยวจะไปทำทุกอย่างให้เรียบร้อย อะไรที่หนิงทำผิดไปหนิงก็จะแก้ไขทุกอย่างให้มันดีขึ้น หนิง เพราะหนิงไม่อยากให้คนที่คอมเมนต์ถึงหนิง หรือคนที่เขาพร้อมให้อภัยหนิง เขาต้องมาผิดหวัง และรู้สึกเสียใจในตัวหนิงอีก”