นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังงานแถลงข่าวการจัดประกวดรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ ครั้งที่ 14 ว่า การจัดงานครั้งนี้ สสว. ร่วมกับสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ (สพช.) จัดงานประกวดดังกล่าว โดยในปี 2565 นี้ ทาง สสว. และ สพช. ได้เล็งเห็นความสำคัญของแนวคิดของภาครัฐ ที่ต้องการเร่งรัดการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ประสบความสำเร็จด้วย “โมเดลเศรษฐกิจ BCG” (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดการขับเคลื่อน BCG เป็นวาระแห่งชาติ ผอ.สสว. เผยอีกว่า นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คือ สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตเพื่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุด (Eco-design & Zero-Waste) ส่งเสริมการใช้ซ้ำ (Reuse/Refurbish/Sharing) และให้ความสำคัญกับการจัดการของเสียจากการผลิตและบริโภค ด้วยการนำวัตถุดิบที่ผ่านการผลิตและบริโภคแล้วเข้าสู่กระบวนการแปรสภาพเพื่อกลับมาใช้ใหม่ (Recycle/Upcycle) ดังนั้น ในปีนี้จึงได้มีการปรับเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกรางวัลประกวดรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ ให้เพิ่มเติมแนวคิดของ BCG ในหลักเกณฑ์ของการประเมินรางวัล ซึ่งจะช่วยสนับสนุนแนวคิดของภาครัฐที่ต้องการเร่งรัดการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้น “การจัดงานประกวดรางวัลฯ ดังกล่าว เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้มีศักยภาพในการแข่งขัน และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยผู้ที่ได้รับรางวัลจะได้รับโล่รางวัลเกียรติยศที่สลักนามท่านนายกรัฐมนตรีและเกียรติบัตรจาก สสว. พร้อมสิทธิประโยชน์ต่างๆ และในปีนี้ครบรอบครั้งที่ 14 ของการประกวดรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ จะมีการมอบรางวัลพิเศษเพิ่มเติม ได้แก่ รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ 3 หรือ 5 ปีซ้อน รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติยอดเยี่ยม รางวัล SME โดดเด่นด้านนวัตกรรม รางวัล SME โดดเด่นด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน และรางวัล SME โดดเด่นด้านการปรับกลยุทธ์พิชิต Covid-19 โดยเปิดรับสมัครแล้ว ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2565” ผอ. สสว. ระบุ นายอธิศานต์ วายุภาพ ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ กล่าวว่า รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สสว. และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ โดยนำแนวทางของเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award – TQA) มาปรับใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาตัดสินธุรกิจที่เข้าร่วมประกวด เพื่อสรรหาเอสเอ็มอีต้นแบบที่มีความสำมารถในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานที่ดี มีความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายอื่นๆ ใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงวิธีดำเนินธุรกิจและการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ โดยการจัดประกวดรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 14 จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ เพื่อเสริมฐานเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ
สำหรับการประกวดรางวัลสุดยอดเอสเอ็มอีแห่งชาติ หรือ SME National Awards ได้มีจัดประกวดมาแล้ว 13 ครั้ง โดยในการประกวดครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 14 ได้มีการปรับประเภทรางวัลเป็น รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติยอดเยี่ยม รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ และ รางวัล SME ดีเด่น นอกจากนี้ มีรางวัลพิเศษเพิ่มเติม ได้แก่ รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ 3 หรือ 5 ปีซ้อน รางวัล SME โดดเด่นด้านนวัตกรรม รางวัล SME โดดเด่นด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน และ รางวัล SME โดดเด่นด้านการปรับกลยุทธ์พิชิต Covid-19 ทั้งนี้ การประกวดรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมสมัครจำนวนกว่า 14,000 ราย โดยในจำนวนนี้ มีผู้ประกอบการที่ได้รับรำงวัลเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แล้ว 5 กิจการ ได้แก่ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด อีกทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการ และสนใจจะเข้าจดทะเบียนในตลาด (SET/MAI) อีกกว่า 35 กิจการ ซึ่งถือว่า เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนี้ อีกด้วย
ผอ.สพช. กล่าวอีกว่า สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่จะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการในปีนี้ คือ ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติยอดเยี่ยม (ได้คะแนนรวมสูงสุดในปีนี้) จะได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 60,000 บาท 1 สิทธิ์ ในการเข้าร่วมการประกวดและจัดแสดงในเวทีระดับนานาชาติ โดยจะได้รับเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายของการเช่าพื้นที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดแสดง/ ค่าธรรมเนียม การลงทะเบียนเข้านำเสนอผลงาน/ค่าเดินทาง/ ค่าที่พัก (จากสพช.) เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล ยังจะได้รับโอกาสและการสนับสนุน เพื่อเข้าร่วมการอบรม/สัมมนา/ดูงาน ของ APO (Asian Productivity Organization) ตามความสนใจของ SME อีกด้วย ซึ่งผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียดทุน APO Program ได้ที่ https://www.ftpi.or.th/services/apo/apo-program “ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครได้ 2 ช่องทาง ดังนี้
1.สมัครออนไลน์ หรือดาวน์โหลด ใบสมัครได้ที่ www.smesnationalawards.com
2. จัดส่งใบสมัครเข้าร่วมโครงการ มายังอีเมล [email protected]” ผอ.สพช.กล่าวในที่สุด
ช่องทางการสมัครเข้าร่วมโครงการ
www.smesnationalawards.com
web.facebook.com/ smesnationalawards
Line@ Account: SME_2022