หลังจากกลายเป็นกระแสข่าวฉาวของนักร้องหนุ่มป๊อบ ปองกูล คบซ้อนสองคนในเวลากว่า 10 ปี หลายคนก็แอบเป็นห่วงว่าคอนเสิร์ต 4 แยกปากหวาน ตอน สี่ ยกครองเมือง ที่มีนักร้องหนุ่มร่วมในโปรเจ็คนั้นจะยังจัดต่อหรือไม่ ล่าสุด พี่ฉอด สายทิพย์ บอส CHANGE 25 ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า
“ทุกคนคงได้เห็นที่พี่โพสต์ลงบนอินสตาแกรมแล้วนะคะว่า เดี๋ยวเราก็จะเริ่มทำงานกันต่อ ดังนั้นก็คงจะเดินหน้าทำงานกันตามปกติเหมือนเดิมค่ะ จริงๆ ช่วงที่ผ่านมา อันดับแรกเลยคือเราก็เช็กดูก่อนว่ามันมีฟีดแบคจากเรื่องนี้ยังไงบ้าง แต่ผลปรากฏว่าในช่วงแรกๆ ก็มีคนเข้ามาบอกว่าจะไม่ดูแล้วนะ แต่ก็ไม่มีใครมาขอคืนบัตร อีกอย่างทุกวันนี้บัตรก็เหลือน้อยเต็มที เราก็เลยเข้าใจว่า ณ ตอนนี้ทุกคนก็คงยังอยากดูงานของพวกเราอยู่ ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว เรื่องการแสดงบนเวทีหรือสภาพจิตใจของป๊อบเขาจะพร้อมไหมสำหรับการแสดงตลก ตรงนี้เราก็คิดว่าจากวันนี้ไปจนถึงวันนั้น เขาคงค่อยๆ ทำใจไปได้เรื่อยๆ เพราะโดยปกติเขาก็เป็นคนที่มีความเป็นมืออาชีพในเรื่องการทำงาน ซึ่ง ณ วันนี้ นอกจากภาระหน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบในเรื่องของหน้าที่การทำงานแล้ว เราทุกคนก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อคนดูของเราด้วย ฉะนั้นเมื่อคนดูซื้อบัตรไปแล้ว และมีสปอนเซอร์ มีบุคคลอีกหลายๆ ฝ่ายมาทำงานนี้ร่วมกัน เราก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อทุกคนด้วยค่ะ”
ได้มีโอกาสคุยกับเขาบ้างหรือยังในช่วงที่ผ่านมา ?
“คุยกันตลอดค่ะ เขาก็น่าจะค่อยๆ ดีขึ้นนะคะ คือมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน และพี่เองก็รู้สึกว่าเวลาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมันเจ็บทุกฝ่าย บวกกับตัวพี่เองที่อาจจะอยู่กับคลับฟรายเดย์มานาน พี่ก็เลยได้เรียนรู้เรื่องแบบนี้มาค่อนข้างเยอะ รู้ว่าเวลาเกิดเรื่องแบบนี้มันเจ็บทุกคน และยากจริงๆ ที่เราจะไปวิเคราะห์หรือวิจารณ์ในสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตใคร เอาเป็นว่าให้กำลังใจทุกๆ คนดีกว่าค่ะ”
ตกใจไหมตอนที่ทราบข่าวนี้ ?
“เมื่อสักครู่นี้ยังคุยกับ โอ๊ต ปราโมทย์ อยู่เลยค่ะว่าเซอร์ไพรส์ เพราะพวกเราไม่มีใครรู้เรื่องเลยจริงๆ แต่ก็โอเคค่ะ ในที่สุดแล้วมันก็จะผ่านไป”
สรุปก็คือคอนเสิร์ตยังคงจัดเหมือนเดิม ?
“เหมือนเดิมทุกอย่างค่ะ เดี๋ยวจะเริ่มทำงานกันแล้ว ตอนนี้ก็รอให้ป๊อบเขาสบายใจขึ้นก่อน เพราะอย่างที่บอกว่าบังเอิญคอนเสิร์ตเราเป็นคอนเสิร์ตที่สนุกสนาน เราจะให้ความสุขกับคนดูได้ สภาพจิตใจเราก็ต้องพร้อม ให้เวลาเขาก่อนค่ะ เป็นอาถรรพ์ของคอนเสิร์ตสี่แยก จริงๆ ก็มีคนพูดถึงเรื่องนี้บ่อยนะคะ และพี่เองก็คิดว่าปีหน้าจะทำอีกสักปี และถ้ามีอะไรอีกก็อาจจะเลิกทำแล้วแหละ ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่ก็อย่างที่บอก มันมีมาทุกครั้งเลยนะ ซึ่งครั้งนี้พี่ก็นึกว่ารอด แต่สุดท้ายก็ไม่รอดจนได้ เอาเป็นว่าเดี๋ยวก็คอยดูกันนะคะ ถ้าจัดครั้งต่อไปก็ซื้อบัตรมาดูกันว่าจะมีอะไรอีกไหม”
