“กรมชลประทาน” เปิดตัวโครงการ “ประหยัดน้ำ ทางรอดต้านแล้ง” รณรงค์คนไทยประหยัดน้ำ เตรียมพร้อมก่อนเกิดวิกฤติภัยแล้ง

0
329

กรมชลประทานขานรับนโยบาย“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” แก้ปัญหาภัยแล้ง เปิดตัวโครงการประหยัดน้ำ ทางรอดต้านแล้ง รณรงค์คนไทยประหยัดน้ำ เตรียมพร้อมก่อนภาวะวิกฤติภัยแล้ง ชูแนวคิด ประหยัดน้ำ=บริจาคน้ำ นำเสนอผ่านเพลงและมิวสิควีดีโอ โดยศิลปินชั้นนำของเมืองไทย ว่าน ธนกฤตและ เปาวลี พรพิมล พร้อมเดินหน้าชู 8 มาตรการเตรียมพร้อมรับมือภัยแล้งปี 2564/65

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำ และการบรรเทาภัยอันเกิดจากน้ำ ได้ขานรับนโยบายแนวทางแก้ปัญหาภัยแล้งของประเทศไทยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วยการจัดทำโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ประหยัดน้ำ ทางรอดต้านแล้ง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้คนไทยประหยัดน้ำเพื่อชาติ นำเสนอภายใต้แนวคิด “ประหยัดน้ำ เท่ากับ บริจาคน้ำ” เตรียมความพร้อมทุกภาคส่วนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการประหยัดทรัพยากรน้ำ ก่อนภาวะวิกฤติภัยแล้งจะมาถึง โดยกลุ่มเป้าหมายจะมุ่งเน้นไปที่ กลุ่มเกษตรกร นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป

โดยการรณรงค์จะนำเสนอผ่านเพลงและมิวสิควีดีโอเพลง Save Water หรือ เพลง ประหยัดน้ำ โดยศิลปินชั้นนำของเมืองไทยว่าน ธนกฤตและ เปาวลี พรพิมล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในการรวมตัวเฉพาะกิจต้านภัยแล้งนำมาผสมกับดนตรีสมัยใหม่ฟังง่าย เข้าใจง่าย เพื่อให้คนไทยตระหนักถึงปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น โดยสามารถรับฟังผ่าน Music Streaming ทุกช่องทาง

ผมเชื่อว่าเพลงคือ ภาษาสากล เราสามารถใช้บทเพลงถ่ายทอดเรื่องราวได้ดีกว่าการพูด สามารถสร้างการจดจำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเราได้นักร้อง นักแต่งเพลง อย่างคุณเอก ซีซั่นไฟว์ มาถ่ายทอดเรื่องราวที่กรมชลประทานอยากจะบอกทุกคน อยากให้ฟังแล้ว ตระหนกถึง ปริมาณน้ำและ และตระหนักถึง “การใช้น้ำ” อย่างรู้คุณค่า ผลลัพธ์ส่วนบุคคลจะกลายเป็นผลลัพธ์เพื่อชาติ ประโยชน์ไม่ได้เกิดแค่กับใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นการประหยัดน้ำเราทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ

นอกจากนี้ยังได้มีการจัดทำคอนเทนต์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของกรมชลประทาน ทั้งในรูปแบบของการรายงานสถานการณ์น้ำ รูปแบบการบริหารจัดการน้ำ แนวทางในการประหยัดน้ำ เพื่อสร้างจิตสำนึก  ให้เกิดความเข้าใจ และเกิดการแชร์ต่อในวงกว้าง

อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางด้านการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งปี 2564/65 กรมชลประทาน ได้ดำเนินการตามมาตรการการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งปี 2564/65 ทั้ง 8 มาตรการได้แก่

มาตรการที่ 1 เร่งเก็บกักน้ในช่วงฤดูฝน เพื่อเป็นน้ำต้นทุนในช่วงฤดูแล้ง

มาตรการที่ 2 จัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ พร้อมทั้งสํารวจ ตรวจสอบ พื้นที่ที่มีศักยภาพ ที่จะพัฒนาเป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำรองได้

มาตรการที่ 3 กําหนดการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง รวมทั้งติดตามกํากับให้เป็นไปตามแผนเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค พร้อมจัดทําทะเบียนผู้ใช้น้ำ

มาตรการที่ 4 วางแผนเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนการเพาะปลูกในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นอันดับแรก

มาตรการที่ 5 เตรียมน้ำสํารองสําหรับพื้นที่ลุ่มน้ำเพื่อสนับสนุนน้ำเตรียมแปลง

มาตรการที่ 6 เฝ้าระวังคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก สายรอง และเตรียมแผนรองรับกรณีเกิดปัญหา

มาตรการที่ 7 ติดตามประเมินผล เพื่อให้ผลการดําเนินงานเป็นไปตามแผน

มาตรการที่ 8 สร้างการรับรู้สถานการณ์น้ำและแผนบริหารจัดการน้ำ ให้ทุกภาคส่วน เกิดความร่วมมือในการใช้น้ำอย่างประหยัดและเป็นไปตามแผนที่กําหนดไว้

นอกจากนี้ยังได้มีการกำหนดแผนจัดสรรน้จากโครงการชลประทานขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศในช่วง ฤดูแล้งปี 2564/65 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 256430 เมษายน 2565

จากปริมาณน้ำต้นทุนทั่วประเทศ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 จํานวน 37,857 ล้าน ลบ.ม. วางแผนจัดสรรน้ จํานวน 22,280 ล้าน ลบ.ม. (สํารองน้ต้นฤดูฝนปี 2565 รวม 15,577 ล้าน ลบ.ม.) โดยจัดลําดับความสําคัญ ตามกิจกรรม ดังนี้ การอุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศและอื่นๆ การเกษตรฤดูแล้ง และอุตสาหกรรม โดยมีแผนการเพาะปลูกข้าวนาปรัง จํานวน 6.41 ล้านไร่

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนตระหนักถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น และร่วมแรงร่วมใจกันประหยัดน้ำ ใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ที่สำนักงานชลประทานในพื้นที่ หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460