เต้ย พงศกร แจงควงสาวทานข้าวแค่เพื่อน เชื่อแฟนคลับเข้าใจหากมีแฟน

0
729

เต้ย พงศกร แจงควงสาวทานข้าวแค่เพื่อน เชื่อแฟนคลับเข้าใจหากมีแฟน ไม่หวั่นดราม่าร่วม ตูน วิ่งภาคอีสาน

 

 

 

ก่อนหน้านี้มีภาพหลุดควงสาวทานข้าวหวิดเป็นประเด็นดราม่าแฟนคลับคู่จิ้นในทวิตเตอร์ สำหรับพระเอกหนุ่มเต้ย พงศกร ซึ่งล่าสุดได้เจอเจ้าตัวในงาน “วิ่งทะลุมิติ” กับ เพลิงพรางเทียน มีทแอนด์กรี๊ด เจ้าตัวได้ออกมาเคลียร์แล้วว่าสาวคนดังกล่าวเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน แต่หากตนมีเมื่อไหร่นั้นก็ยินดีที่จะบอกแน่นอนและเชื่อว่าแฟนคลับเองก็คงจะเข้าใจ พร้อมเผยเตรียมวิ่งก้าวคนละก่าวกับ ตูน บอดี้แสลม ที่ภาคอิสานในกลางเดือนมิถุนายนนี้

 

ช่วงนี้กำลังจะไปวิ่งกับพี่ตูน?
“ใช่ครับ จะไปวิ่งกับพี่ตูนครับวันที่ 15 -16 มิถุนายนนี้ เราก็หาวันว่างไปวันหนึ่ง เพราะเราเองตอนนี้ก็ถ่ายละคร7 วันเลย ปกติผมเป็นคนวิ่งอยู่แล้วแล้วเราก็ได้สุขภาพของเราเองด้วยและได้สุขภาพของคนอื่นด้วย เพราะว่ารายได้ทั้งหมดให้กับโรงพยาบาลในต่างจังหวัดด้วย ถือเป็นการทำบุญด้วยกันและได้มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้กันด้วย”

ก่อนหน้านี้พี่ตูนก็เจอดราม่าคิดต่างเรื่องวิ่งเรี่ยไรเงินทางภาคอีสาน เราให้กำลังใจพี่เขายังไงบ้างไหม?
“ดราม่าอะไรครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้อยู่ที่ความสมัครใจนะครับ โครงการเก้าคนละเก้า พี่ตูนเขาคิดแค่ว่าคนละบาทเดียว มันเริ่มต้นจากคนละบาทและคนไทย 70 กว่าล้านคน คนละบาทมันก็ได้ 70 กว่าล้านบาทแล้ว มันก็สามารถเอาไปใช้ทำประโยชน์ได้มากมาย ถ้าใครไม่มีทุนทรัพย์มากก็ไม่เป็นไร ไม่มีใครบังคับว่าคุณต้องบริจาคเงินนะ ผมคิดว่ามันแล้วแต่คนครับ เพราะว่าสิ่งที่เขาทำมามันเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เพื่อประโยชน์ของทุกๆคน ไม่ได้เอาเงินมาเท่าตัวเอง”

มันจะเป็นการบ่อนทอนกำลังใจขอบทีมงานบ้างไหม เป็นโครงการดีๆ แต่สังคมไทยกลับมีแต่กระแสดราม่า?
“ผมเชื่อว่าเราทำดีไปเถอะครับ ถ้าเกิดใครคิดอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร เราปิดทองหลังพระ ยังไงเราก็รู้อยู่แก่ใจของเราอยู่แล้ว มันมีอยู่แล้วคนที่อิจฉาโน่น นี่ นั่น มันเป็นสัจธรรมของโลกครับ”

เราซีเรียสไหมคนอาจจะจับตาว่าเราก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย?
“ ไม่นะครับ เพราะว่าผมเองก็ไปด้วยความเต็มใจ เขาก็ไม่ได้จ้างผมไป ผมอยากไปเองด้วยซ้ำ เพราะมันก็เป็นการออกกำลังกายและอีกอย่างอีสาน ผมเองก็เป็นคนอีสานด้วย ผมก็อยากไปวิ่งด้วย เพราะฉะนั้นภาคอีสานผมก็พลาดไม่ได้ ก็ต้องจับคิวและไปให้ “

เป็นการเชิญชวนสร้างแรงบันดาลใจมห้คนออกมาวิ่งด้วย?
“เป็นการวิ่งออกกำลังกาย ยิ่งตอนนี้คนป่วยเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ที่สำคัญคนอีสานจะเป็นโรคเบาหวานเยอะ เพราะกินข้าวเหนียว ผมไม่ได้ต่อต้านข้าวเหนียวนะ เดี๋ยวมาดราม่าอีก ผมแค่บอกว่ากินได้ แต่เราก็ต้องออกกำลังกายด้วย “

ครั้งนี้พี่ตูนจะสร้างสถิติมินิฮาฟมาราธอนให้คนออกมาวิ่งด้วย?
“ก็ดีนะ เป็นการชวนทุกคนออกมาออกกำลังกายด้วย คือการออกกำลังกายมันมีแต่สิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่ขอให้ทุกคนมีระเบียบวินัยในการวิ่ง ไม่แตกแถว ไม่สร้างความจรสจรวุ่นวาย ขอให้มีระเบียบวินัย ไม่มีการลักทรัพย์กัน”

ล่าสุดมีภาพไปกินข้าวกับสาวแล้วเกิดดราม่าในกลุ่มแฟนคลับลูกหมีขึ้น ว่าเราเปิดตัวแหน แล้วไปหลอกแฟนคลับคู่จิ้นหรือเปล่า ที่จริงเรามีตัวจริงอยู่แล้ว?
“ครับ เพื่อนครับ ผมจะไปกินข้าวกับใครไม่ได้เลยหรอ (หัวเราะ) ถ้ากิดผมไปกินข้าวกับต้องสาวแล้วถ่ายรูปออกมาแบบนี้ ผมเองได้เห็นแล้วครับ ก็ไปกินข้าวกับเพื่อนนี่แหละครับ”

เราต้องระวังตัวมากขึ้นไหม?
“จริงๆ ผมพูดตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วว่าผมไม่ได้ปิด และก็ไม่ได้เปิดด้วย ผมเองก็พยายามใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ผมเองก็คนธรรมดาคนหนึ่ง คนธรรมดาที่พร้อมที่จะมีความรักกับใครสักคนหนึ่งหรือว่ามีเพื่อนๆหลายคน ผมเองก็มีเพื่อนหลายคน เพื่อนผู้ชาย เพื่อนผู้หญิง พี่ผู้ชาย พี่ผู้หญิง น้องผู้ชาย น้องผู้หญิง “

คนนี้คือเพื่อนจริงๆ ไม่ใช่แฟนแล้วมาบอกเป็นเพื่อน?
“ไม่ใช่ครับ ผมบอกแล้วว่าถ้าผมมีแฟนแล้วผมบอก ผมบอกแน่นอน ผมไม่เปิด เพราะผมโตแล้วจะ 30 แล้ว พ่อแม่ก็ไม่ปิดกั้นเรื่องความรักครับ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว ต้องค่อยๆให้มันเป็นไป ไม่ใช่ว่าคนนี้แฟนเต้ยหรือเปล่า ภาพหลุดออกมา จะไม่ให้ผมไปกินข้าวกับผู้หญิงที่ไหนเลยหรอ ผมก็มีสังคมนะ (หัวเราะ)”

เราอึดอัดไหม เวลาไปไหน กับใครก็โดนจับตา โดนดราม่าตลอด?
“ไม่ครับ เป็นเรื่องสนุกมากกว่า เราไปกินข้าวเฉยๆ ไม่ได้มีอะไร”

จะยากไหมในการที่เราจะมีแฟน?
“ผมว่าแฟนคลับที่รักตัวตนของผมจริงๆ เขาจะเข้าใจครับ ถึงจุดๆหนึ่งที่ผมมีแฟน มีภรรยาหรือแต่งงาน เขาจะเข้าใจ เขาจะรักในสิ่งที่ผมเป็น ไม่ได้รักเพราะบังคับให้ผมเป็น “

อย่างแฟนคบับบ้านคู่ก็ไม่อยากให้ทั้งคู่มีแฟน?
“ตอนนี้ไม่มีดราม่าอะไรนะ ผมเข้าไปตอนนี้เขาก็ยังเฮฮากันอยู่เลย เขาเพิ่งจะฉลองครบรอบ3ปีทุกคนก็ยังเฮฮา มีภาพ มีความทรงจำดีๆ ผมเองก็ยังดีใจกับเขาด้วย เขารักกันเหนียวแน่นมากเลยนะ 3ปี ผมก็ขอบคุณในความรักที่เขามีให้ผมและพี่เชียร์ด้วยครับ”

จะมีโอกาสหวนกลับมาร่วมงานกันอีกไหม?
“ไม่แน่ครับ เร็วๆ นี้ครับ อาจจะมีอะไรสักอย่างหนึ่งครับ