อธิบดีกรมศิลปากร แถลงข่าวโครงการประดับไฟ โบราณสถานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการท่องเที่ยว ในค่ำคืน ณ โบราณสถาน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

0
1170

 

วันนี้ (วันพุธที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๒) เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ ห้องประชุม กรมศิลปากร นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร แถลงข่าวยืนยันการดำเนินโครงการประดับไฟโบราณสถานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการท่องเที่ยวใน ค่ำคืน ณ โบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม มีเจ้าหน้าที่และนักโบราณคดี ทั้งฝ่ายผู้รับจ้าง ผู้ว่าจ้าง ผู้ควบคุมงาน ดูแล ตลอดการดำเนินงานเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความแท้และดั้งเดิมของโบราณสถาน นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตามที่มีกระแสข่าวความกังวลเกี่ยวกับการดำเนิน

โครงการประดับไฟโบราณสถานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการท่องเที่ยวในค่ำคืน ณ โบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ที่มีการ ขุดตัดแนวกำแพงวัดด้านทิศเหนือเพื่อวางระบบสายไฟ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความแท้และดั้งเดิมของโบราณสถานนั้น จากการชี้แจงของสำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา ก่อนการดำเนินงานผู้รับจ้างได้เสนอแผน และแนวทางการทำงานต่อคณะกรรมการตรวจการจ้างแล้ว อีกทั้งผู้ควบคุมงานได้ลงพื้นที่เพื่อวางแนวสายไฟและการวางตำแหน่งต่างๆ โดยอยู่บนพื้นฐานที่จะส่งผลกระทบต่อความแท้และดั้งเดิมของโบราณสถานให้น้อยที่สุด จากกรณีภาพที่ปรากฏบนสื่อออนไลน์ เนื้องานวางสายไฟจำเป็นต้องวางแนวสายไฟเข้าพื้นที่โบราณสถานหลักด้านใน จึงจำเป็นต้องถอดแนวอิฐ บริเวณกำแพงที่มีการบูรณะในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งยังปรากฏร่องรอยขอบปูนซีเมนต์ เพื่อวางแนวสายไฟบนร่องรอยอิฐดังกล่าว และจะเร่งดำเนินการประกอบอิฐกลับโดยเร็วที่สุด โดยไม่กระทบหลักฐานเดิม

โครงการประดับไฟโบราณสถานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการท่องเที่ยวในค่ำคืน ณ โบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ระยะเวลาการดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ถึง ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๒ ขยายสัญญาต่อถึงวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ พื้นที่ดำเนินการ จำนวน ๙ แห่ง ได้แก่

๑. โบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม

๒. โบราณสถานวัดพระศรีสรรเพชญ์

๓. โบราณสถานวัดพระราม

๔. โบราณสถานวัดมหาธาตุ

๕. โบราณสถานวัดราชบูรณะ

๖. โบราณสถานวัดภูเขาทอง

๗. โบราณสถานวัดเกษ

๘. คุ้มขุนแผน

๙. ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (หลังเก่า)

นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้สำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา ติดตามดูแลการดำเนินงานโครงการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ เนื่องจากโบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีความสำคัญและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ