“หนุ่ม กรรชัย” คว้าพิธีกรแห่งปี ปล่อยผ่านดราม่า เผยเครียดสะสมต้องพบจิตแพทย์

0
276

เป็นพิธีกรมาแรงที่อยู่ในกระแสตลอด ไม่ว่าจะทำอะไร สำหรับ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” แต่ไม่วายต้องเจอกระแสดราม่า หรือคำวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเลยทีเดียว

ล่าสุดคว้ารางวัล “พิธีกรแห่งปี” จากไนน์เอ็นเตอร์เทนอวอร์ด 2023  เจ้าตัวเปิดใจ พร้อมเผยไม่ติดใจคนบูลลี่ นอกจากนี้อัปเดตปัญหาสุขภาพอีกด้วยว่า…

 

“เอาจริงๆ จะร้องไห้เมื่อกี้ คือขึ้นไปไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้เลย ไปขึ้นมาหลายเวทีก็ขึ้นด้วยความสนุกสนาน พอมาเวทีนี้มันเหมือนกับว่า รือเราเตรียมเนื้อในใจอยู่แล้วว่าวะนนี้เราจะพูดจะขอบคุณใครบ้าง แต่ตอนนั่งอยู่ก็มีหน้าอาต้อย เศรษฐา ขึ้นมาตอนเขามีโชว์อยู่ ก็รู้สึกว่านี่เรามานั่งอยู่ตรงจุดที่ไม่มีบุคคลเหล่านี้อยู่แล้วหรือ ซึ่งแต่ละท่านผมร่วมงานมาหมดแล้ว ที่อยู่ในวงการบันเทิง เล่นละครเล่นหนัง พอขึ้นไปก็รู้สึกจุกๆ แล้วเราไม่เคยพูดถึงที่ไก่ วราวุฒิ เลย ไม่เคยขอบคุณเขาเวทีไหนๆ เลย เราขอบคุณช่อง 3 เราขอบคุณคนนั้นคนนี้ แต่เราไม่เคยขอบคุณคนที่เขาชวนเรามาเป็นพิธีกรเลย ก็เลยถือโอกาสวันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ขอบคุณพี่ไก่”

 

 

ถูกบูลลี่จากดารามาเป็นพิธีกร แต่สุดท้ายก็มีวันนี้แล้ว?

“มันเป็นธรรมดา ทุกคนมองความเฉพาะด้านความเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป ของผมเองก็อยากจะเป็นตัวแทนของความตั้งใจ อยากให้น้องๆ คนอื่นๆ รู้สึกว่าวันนี้ฉันมาในแนวทางนี้แล้วจะไปแนวทางอื่นไม่ได้ ไม่อยากให้มองแบบนั้น ผมเองเคยถึงขั้นว่า มันไม่ใช่ผู้ประกาศข่าวหรอก มันไม่ใช่สื่อหรอกมันเป็นแค่นักแสดงคนหนึ่ง จนมาถึงวันนี้มันก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความตั้งใจมันสำคัญที่สุด แล้วอีกอย่างหนึ่งปัจจุบันนี้โลกเปิดกว้าง ทุกสิ่งทุกอย่างมันสามารถเปลี่ยนบริบทเปลี่ยนแปลงได้”

 

 

ทำงานตรงนี้ต้องรับแรงกดดันจากหลายส่วน?

“แน่นอนแต่ละวันต้องเจอกับอะไรไม่รู้ มีทั้งคนที่รักและมีคนที่เกลียด เพราะว่าเวลาทำงาน ยกตัวอย่างรายการโหนกระแส คนที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ เพราะฉะนั้นมันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าต้องมีไม่พอใจและไม่ชอบเราอยู่แล้ว”

 

 

ตอนนี้เป็นพิธีกรที่มีการแสทุกวัน กดดัน หรือตั้งใจยังไงบ้างในแต่ละวัน?

“ถามว่ากดดันตัวเองไหมไม่ได้กดดันตัวเอง แต่ก็คิดว่ามีส่วนหนึ่งที่บางครั้งเราก็แบกความหวังของคนไว้เยอะเหมือนกัน บางคนอยากให้เราทำแบบนี้ ทำไมไม่ทำแบบนี้ ทำแบบนี้ไม่เป็นกลาง ทำไมไม่นำเสนอแบบนี้บ้าง มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราจะต้องทำยังไงดี สุดท้ายก็คิดบวกว่าสิ่งที่เขาต่อว่าหรือไม่พอใจเรา เพราะเขาเองคาดหวังกับเรา ก็เป็นอะไรที่เราคิดบวกก็สบายใจ”

 

กลายเป็นต้นแบบให้น้องๆ ที่อยากเดินตามเรา?

“โอ๊ย ถ้าเป็นอย่างนั้นได้จริงๆ ก็จะดีใจมาก เพราะผมก็อยากให้น้องๆ มาเป็นพิธีกรหรือมาทำข่าวได้เดินมาสู่วงการนี้จะได้มีบุคลากรเพิ่มมากขึ้น”

 

ขออนุญาตถามเรื่องเมื่อเช้า ได้น้องหมา?

“เรื่องหมาเหรอ ก็มันฉี่ใส่มือก็เลยได้รางวัลนี่ไง ถือว่าให้โชค (เหมือนน้องแสดงความเป็นเจ้าของ?) ก็คือจับๆ เขาอยู่จะย้ายให้เขามาอยู่ในท่าเขาก็ฉี่เลย ฉี่ใส่มือใส่โต๊ะ ก็ตกใจ ทำอะไรไม่ได้มันเป็นรายการสด หมามันจะฉี่ ก็ต้องฉี่จะไปบอกมันไม่ให้ฉี่ก็คงไม่ได้ ก็เช็ดกันไป”

 

มีปัญหาแบบนี้บ่อยไหม ที่ต้องแก้เฉพาะหน้า?

“บ่อยครับ ทุกรูปแบบที่เจอ ที่หลานเป็นพิธีกรแอ๊ดวานซ์ คุยกับหมาได้แล้ว คือทำมาหมดแล้วไม่หรอกเขาคงล้อเล่น แต่ก็โอเคนะ ที่บอกว่าเป็นพิธีกรที่คุยกับสัตว์ได้ก็โอเค”

 

โกรธไหม ถ้ามีคนเทียบอะไรแบบนี้?

“ไม่โกรธนะ พี่ไม่โกรธนะ พี่เองไม่เคยเรียนทางด้านสื่อมวลชนมาเลย มาเป็นมวยวัดแล้วก็ต่อยตรงเป้าบ้างไม่ตรงเป้าบ้าง พอมาวันนี้มาสู้สังเวียนแล้วมันก็จะมีคำสอน ซึ่งคำสอนก็คือคำต่อว่าของประชาชนนั่นแหละ ว่าทำแบบนี้ไม่ดีเลย ทำไมทำแบบนี้ เราก็แค่หยิบเอาสิ่งที่เขาว่ามาปรับปรุง พี่ไม่เคยรู้สึกว่าคนที่ด่าให้เราเสียใจ พี่จะเก็บมาเป็นแรงพลักดันมากกว่า”

 

ทำรายการแบบนี้มากๆ มีปัญหาสุขภาพยังไงบ้าง?

“เป็นนะ ก็ทุกวันนี้ต้องคุยกับจิตแพทย์เหมือนกัน เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องระบายออกไปบ้าง กลัวไหมว่าจะสะสม ก็กลัว เพราะทีแรกคิดว่าเราเก่ง เราแกะได้สัมภาษณ์ไปก็ผ่านไป แต่พอเอาเข้าจริงๆ หมอบอกว่าไม่ใช่นะทุกอย่างที่สัมภาษณ์มา คนนั้นใช้วิธีนี้ยิงคน เผาบ้าน ฆ่ากัน ตบตี เอาน้ำกรดสาดหน้า ทันจะฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา แล้ววันหนึ่งเราอาจจะไม่เคยด่า ไม่เคยรู้สึกว่าทำแบบนี้วันหนึ่งถ้าคุณโกรธมากๆ มันจะไปหยิบจิตใต้สำนึกนี้ที่เราเก็บไว้ในลิ้นชักออกมาใช้ก็ได้ เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องหาแนวทางปล่อยมีนออกไป วิธีบำบัดก็คือทำอะไรที่ไม่เคยทำ เช่นเมื่อก่อนเป็นคนไม่ขับรถ นี่ก็ออกไปขับรถกับเพื่อนๆ น้องๆ เมื่อก่อนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เดี๋ยวนี้ก็มีดื่มแชมเปญบ้าง จิบๆ ก็ลองดู คลายเครียด ได้ผลนะ วันนี้เออเครียด ก็คืนนี้ไปจิบและ (หัวเราะ)”

ต่างกับงานละคร อย่างละครต้องสลัดคาแร็กเตอร์ออกมา?

“ไม่ๆ อันนี้เป็นเรื่องที่สลัดไม่ได้อยู่แล้ว พอเราสัมภาษณ์มามันจะติดอยู่กับเรา เพียงแต่เราต้องพยายามลืมและเดินไปข้างหน้าให้ได้”

 

เจอหมอบ่อยไหม?

“เดือนนึง ครั้งนึง โทรคุยอะไรแบบนี้ ส่วนสุขภาพกายยังแข็งแรง ยังฟิตดีอยู่ (หัวเราะ) เรื่องหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ทุกวันนี้ก็ไปเช็คพยายามดูแลตัวเองจนกระทั่งไม่ผิดจังหวะ ไม่ต้องกินยาแล้ว ก็ปกติ”

 

วันเกิดพี่เมย์ที่ผ่านมา มีอะไรเซอร์ไพรส์ไหม?

“ไม่มีอะไรเลย เราอยู่กันมานาน ก็ไม่ได้มีเรื่องพวกนั้นอยู่แล้ว”