ออกมายอมรับเลิกนางเอกสาวแพทริเซีย กู๊ด แล้วสำหรับหนึ่มพีช พชร หลังมีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์รักสั่นคลอนมาก่อนหน้านี้ รวมถึงถูกจับโยงในเรื่องของมือที่ 3 และมีคนขุดภาพคู่ของฝ่ายหญิงกับไฮโซหนุ่มโน้ต วิเศษ ออกมา โดยหนุ่มพีชยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องของบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าจะเคลียร์ได้ แต่สุดท้ายไปไม่รอด
“จริงๆสิ่งแรกที่ผมอยากจะพูดคือผมอยากจะขอโทษทุกคนก่อนล่วงหน้า ผมต้องขอโทษจริงๆที่ผมต้องโกหกทุกคนในวันนั้น เพราะผมคิดว่าผมแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ ผมคิดว่าเป็นปัญหาที่คุยกันภายในแล้วแก้ปัญหาได้ ถามว่ามีเหตุการณ์ไหมมันมีครับ แต่ผมคิดว่าทุกคู่ของทุกคนมันมีปัญหาและเราคิดว่ามันไม่จำเป็นที่เราต้องมาบอกทุกๆคนเพราะมันคือเรื่องภายใน ผมคิดว่าถ้าปัญหานี้มันจบกัน โดยการที่เราให้โอกาสกันมันก็น่าจะจบ แต่ทีนี้มันเกิดการที่เราให้โอกาสกันไปหลายครั้งแล้วมันก็ไม่เวิร์ค สุดท้ายแล้วมันก็เป็นไปตามที่เห็นครับ”
ระยะเวลาที่เกิดปัญหาประมาณช่วงไหน?
“อืม..ถ้าานับเวลาจริงๆ มันก็ระยะเวลาเป็นเดือนครับ “
สาเหตุหลักๆ คืออะไร?
“ผมว่าสาเหตุหลักๆ ของเราคือ หนึ่งคือเราไม่สื่อสารกัน สองมันเป็นเรื่องของบุคคลนะครับที่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันง่ามันออกมาแบบนี้ได้ยังไง”
ณ วันนี้ เรากับ แพทริเซีย เลิกกันแล้ว?
“ก็ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็ใช่แหละครับ ก็เลิกกันแล้วแหละครับ “
เลิกกันนานแค่ไหน?
“ถ้าเอาจริงๆก็น่าจะเป็นช่วงที่เขาไปเที่ยวกับครอบครัวแหละครับ ตอนที่เขาอยู่มี่โปรตุเกส”
ตอนงานนาฏราชสถานะตอนนั้นยังเป็นแฟนกันอยู่?
“ณ ตอนนั้นยังเป็นอยู่ครับ เราพยายามแก้ปัญหากันอยู่ เรื่องแบบนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้ เราพยายามจะให้โอกาสกันทำยังไงให้มันดีขึ้นได้ไหม หรือปรับอะไรยังไง สุดท้ายแล้วมันไม่เวิร์ค”
ที่ให้โอกาสเขาปรับตัวบ้างไหมที่ผ่านมา?
“คือในเรื่องดีเทลนี้ผมขอไม่พูดเนอะว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมเองก็อยากให้มีพื้นที่บ้างนิดหนึ่งในเรื่องส่วนตัว ผมอยากเก็บไว้บ้าง”
แสดงว่ามีปัญหาคาราคาซังหลายครั้งแล้ว?
“ไม่ก็ไม่ถึงกับคำว่าคาราคาซังขนาดนั้น มันก็มาเป็นเคสๆนะครับ”
ตัดสินใจยากไหมที่เราเลือกเดินออกมา?
“ยากครับ ไม่ว่าใครก็ยากทั้งนั้นครับ เราไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิด ไม่มีใครในโลกต้องหารให้เรื่องแบบนี้เกิด ผมว่าแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิด แต่สุดท้ายมันเกิดขึ้นแล้ว ทำไงได้ เราก็ต้องเดินต่อ ต้องใช้ชีวิตไปข้างหน้าครับ”
คนมองว่าพีชเป็นคนให้โอกาส ยื้อรักครั้งนี้ไว้?
“คือผมแค่คิดว่าในความสัมพันธ์คุณควรต้องสู้ครับ คุณต้องสู้เพื่อความสัมพันธ์ของคุณ ซึ่งนั่นเป็นหน้าที่ที่เราควรต้องทำ และมันคือหน้าที่ที่ผมทำ”
เหตุผลอะไรที่เราจะไม่ให้โอกาสเขาแล้ว?
“คือมันไม่ใช่ว่าไม่อยากสู้ แต่รู้สึกว่าสุดท้ายมันมาถึงจุดที่เรียกว่ามันน่าจะซ่อมไม่ได้แล้ว เราเลยตัดสินใจดีกว่า คือในเรื่องของบุคคลที่3ผมขอไม่พูดถึงละกัน เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องของผมแล้ว ก็มันได้แค่ว่าเรามีปัญหากันในเรื่องของบุคคล”
ได้เห็นภาพที่ออกมาไหม?
“ผมก็เห็นพร้อมทุกคนครับเมื่อวาน ใช่มั้ย ความรู้สึกเป็นยังไง มันไม่ได้รู้สึกอะไรครับเพราะว่ามันก็คือปัญหาที่เราพยายามแก้กันอยู่ ผมเลยไม่ได้รู้สึกอะไรมาก เราแค่สงสาร”
ก่อนที่จะตัดสินใจแยก ได้คุยได้ถามเขาไหม?
“อืม..ผมขอไม่พูดดีกว่าครับ”
พีชรู้มาก่อนหน้าานี้ไหมว่ามีเหตุการณ์นี้?
“ถามว่ารู้ไหม มันก็มีครับคร่าวๆ แต่เราไม่ได้อยากมานั่งนั่นนี่มาก เรารู้สึกว่าคนเราควรจะมีพื้นที่ส่วนตัว เราก็ปล่อยไป”
พอเราเห็นเราเสียใจไหม?
“ไม่ว่าใครหน้าไหนก็เสียใจหมดครับ ใครก็ตามกับเรื่องแบบนี้เสียใจทั้งหมด”
เราได้ถามทางฝั่งเขาไหม ?
“ถามครับ “
น้องเขาตอบเราว่ายังไง?
“(เงียบ) ตอบยากมาก เอ่อ…(ถอนหายใจ..น้ำตาคลอ) ก็มันก็เป็นตามสภาพ เขาก็คุยกับเราก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ มันไม่ใช่เรื่องที่ตั้งใจ ไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากจะให้เกิดขึ้น ทุกคนรู้สึกผิด ใครก็รู้สึกผิดทั้งนั้นครับ”
วันที่เราคุยกับน้อง เราถามน้อง เราเคลียร์กันชัด เรารู้สึกว่าเราเคลียร์ไหม?
“ตัวเราเคลียร์นะ เคลียร์แหละ เราได้คุยว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว”
อันนี้เขาให้คำตอบเลยไหมว่าเขาเลือกทางนั้น?
“เขาไม่ได้พูด แต่เราเลือกเองมากกว่า”
พอฟังแล้วตัดใจได้เลย?
“ก็ตัดสินใจได้ครับ”
ทางครอบครังทราบเรื่องทั้งสองฝ่าย?
“ก็ทราบครับ แม่ก็เป็นห่วงแหละ เขาก็บอกว่าเขาคิดว่าเราจัดการได้ ครอบครัวเขาผมไม่ได้คุยในเรื่องดีเทลพวกนี้เลยครับ เรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัวผมคิดว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ มันเป็นเรื่องที่เราก็ต้องจัดการให้ได้ มันเป็นเรื่องของบุคคล ไม่ได้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่จะมาทะเลาะกันครับ”
ทางฝั่งเขาได้รับกระแสค่อนข้างแรง เรารู้สึกยังไงบ้าง?
“ผมรู้สึกแย่นะครับ เอาตรงๆ ในขณะที่ผมมีคนพยายามจะซัพพอร์ทมาก แต่เขาคือคนที่โดนด่า ผมคิดว่าต่อให้ใครก็ตามทำผิด หรือไม่ผิด โดยที่เราก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ไม่มีใครควรถูกด่าครับ ไม่มีใครควรถูกใครก็ไม่รู้มาด่าด้วยถ้อยคำรุนแรงแบบนี้ ไม่มีใครชอบ ไม่มีใครอยากถูกด่าว่าเป็นคนเลว ซึ่งเขาไม่ใช่คนเลวครับ มันแค่ผิดที่ผิดเวลาแค่นั้นเอง”
ณ ตอนนี้ความรู้สึกกับแพทริเซีย กู๊ดเป็นยังไงบ้าง?
“คือ ณ ตอนนี้ ผมรู้สึกว่ายังไม่เจอกันดีกว่า ยังไม่ขอเห็นดีกว่า ผมเลยตัดสินใจว่าโอเคอินสตาอกรมผมตัดสินใจอันฟอลโล่ว์แน่นอน ผมรู้สึกว่าเราก็ต้องซ่อมตัวเองประมาณหนึ่ง”
วันเกิดเขาจริงๆเราอยากจะอวยพรเขาไหม?
“จริงๆอยากพูดนะ แต่ผมแต่รู้สึกว่ามันยังไม่ใช่เวลาของเราที่จะพูด”
หลังจากที่เราตัดสินใจ เรายังไม่ได้พูดคุยหรือติดต่อกันเลย?
“ไม่ได้คุยกันเลยครับ ผมก็ปล่อยให้เขาได้โตในแบบที่เขาควรจะเป็น เขาเพิ่งอายุ22 เขาเด็กมากนะ ถ้าเทียบกับผม ความผิดพลาดที่เขาเจอเราก็เจอ ทุกคนเคยทำหมด เพราะฉะนั้นผมคิดว่ามันไม่ใช่เหตัผลที่เราจะมาด่ากันเหมือนความผิดนี้เขาไปฆ่าคน เขาไม่ได้ฆ่าใคร ถามว่าห่วงไหม คนเรามันต้องเป็นห่วงกันอยู่แล้ว “
วันนี้ยังรักเขาอยู่?
“ถามง่ารักเขาไหม ผมรักเขานะครับ ผมเป็นห่วงเขา”
รักครั้งนี้เราคิดว่าอะไรคือความผิดพลาดที่ทำให้เราไปต่อไม่ได้?
“ผมหาคำตอบให้เรื่องนี้ไม่ได้เลย ผมก็ยัฃถามตัวเองอยู่ว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่า เราพูดจาอะไรไม่ดีหรือเปล่า เราทำอะไรไม่พอหรือเปล่า ไม่รู้เหมือนกัน”
แต่ถือว่าเราทำเต็มที่มำหรับรักครั้งนี้แล้วใช่ไหม?
“เท่าที่ผมรู้นะ ผมคิดว่าผมทำเต็มที่ อาจจะมีอะไรที่ผมผิดพลาดก็เป็นไปได้”
เราเลือกที่จะโทษตัวเองอาจจะทำไม่ดีพอ?
“อาจจะเป็นไปได้ ผมอาจจะให้เวลาเขาน้อยเหินไปในช่วงหลังเพราะผมก็ทำงานเยอะ ร้านก็ขยาย งานก็ถ่าย หนังก็ถ่าย มันอาจจะผิดที่ผมละเลยก็ได้”
อยากจะบอกอะไรกับคนที่เข้ามาด่าทอน้องในอินสตาแกรมหรือเปล่า?
“ส่วนตัวผมคิดว่าเราควรจะให้พื้นที่คนอื่นนะครับ เราควรจะมีพื้นที่ให้คนอื่น คุณไม่พอใจได้ แต่คุณไม่ควรว่าใครทั้งนั้น เอาจริงๆมันเสียใจนะเวลาอ่านแล้วมันรู้สึกแย่ ไม่ได้ทำอะไรชั่วร้ายขนาดนั้น แต่เขาโดนด่าเหมือนแทงคนตาย ซึ่งมันไม่ใช่ ผมคิดว่าคนที่ถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะกับใครก็ตาม บางคนเขาก็ไมาเกี่ยวด้วยซ้ำ เขาต้องมานั่งโดนด่า ผมว่าโฟกัสแค่เขาเลิกกันดีกว่า แค่นั้นพอ อย่างอื่นช่างมัน เพราะคุณไม่มีหลักฐานขนาดนั้นว่าเขาทำหรือไม่ทำ ใครเกี่ยวหรือใครไม่เกี่ยว”
เสียดายไหมกับรักครั้งนี้?
“เสียดาย ผ่านมาแล้วตั้งจะ 3 ปีด้วย เอาจริงๆเดือนเดียวก็เสียดาย ถามว่าชีวิตมันพังไหม มันก็รู้สึกแปลกครับ เพราะผมแค่คิดว่ารอบนี้ผมน่าจะโอเคแล้วแหละด้วยการที่เราประเมินตัวเอง แต่ก่อนเราคงทำเรื่องไม่ดีเยอะเนอะ แต่ ณ จอนนี้เราคิดว่าเราโตพอ คงโอเคแล้วแหละ แต่เวลามันคงไม่ใช่ รักครั้งนี้สอนอะไร ก็สอนแค่แบบครั้งหน้ามีโอกาส คุณก็ทำให้ดี อย่าไปเสียใจมันเลย ก็เราทำเต็มที่แล้ว รีสตาร์ทตัวเองใหม่ ก็คงต้องใช้เวลาครับ”
