จากกระแสจิ้นกลายเป็นกระแสข่าวว่ากำลังซุ่มคบหาดูใจกัน สำหรับสาวแพท ณปภา และหนุ่มโอ๊ต ปราโมทย์ งานนี้สาวแพทเองออกมาเปิดใจเคลีร์ยอมรับมีหวั่นไหว แต่คุยกันแล้วแฮปปี้ในสถานะพี่น้องมากกว่า รวมไปถึงเปิดใจในประเด็นมี่หลายคนสงสัยเมื่ออดีตสามีเบนซ์ เรซซิ่ง ได้โพสต์ข้อความตัดพ้อในเฟซบุ๊กว่า “ขออยู่เงียบ ๆ คนเดียวสักพักนะครับ #มึงจะเคาะทำไม!!” และยังมีภาพที่เล่นแอปเติมหนวดพร้อมแคปชั่น “ถึงไม่มีเครา.. เราก็อยู่ได้..” ซึ่งงานนี้ก็ทำเอาหลายมองว่าหนุ่มเบนซ์ต้องการสื่อถึงอดีตภรรยาสาว แพท ณปภา หรือเปล่า
3 ขวบแล้ว เป็นยังไงบ้าง ?
“ก็ดีค่ะ เขาก็เป็นกำลังใจให้แพทในทุกๆ เรื่อง อยู่กับเขาแล้วก็มีความสุข เขาก็เป็นทุกอย่างจริงๆ แหละ”
ความซนเพิ่มขึ้นไหม ?
“ทวีคูณมากๆ ความกวนตีน ความซน ความรู้มาก รู้เรื่อง พูดเยอะ ถามเยอะ ถามไม่ได้ต้องการคำตอบ ถามไปอย่างนั้น ถามเพราะรู้ว่าแม่รำคาญ คือเขามาหมดจริงๆ”
ไปโรงเรียนเป็นหัวโจกไหม ?
“ไม่ถึงขนาดหัวโจก แต่เขาชอบเลียนแบบเพื่อน เวลาเราดูคลิปที่คุณครูเขาส่งมา ลูกเราไม่สามารถอยู่ในแถวได้จริงๆ โดยเฉพาะถ้าเป็นคลาสเต้น เขาจะต้องอยู่กลางวง แล้วเขาก็จะเป็นตัวตั้งตัวตี ถ้าเพื่อนไม่เต้น เขาจะไม่แฮปปี้ละ เพื่อนทุกคนต้องเต้น ทำไมทุกคนไม่เอ็นจอย ทุกคนยังเอ็นจอยเลย แล้วคลิปที่เราดูคือ ทำไมเขาไม่อยู่ในแถว แล้วเขาจะไปยุ่งกับเพื่อนเขาทำไม คือเขาเต้นแล้ว ทำไมเพื่อนบางคนไม่เต้น”
แต่ก็ชอบไปโรงเรียน ?
“ชอบไปโรงเรียนค่ะ”
มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากใช่ไหม ?
“เขาเป็นตัวของตัวเองมากค่ะ และควบคุมค่อนข้างลำบาก อย่างเช่นเวลาที่ต้องทำงานด้วยกัน สมมติเราก็บอกว่าเขาทำงาน ต้องทำแบบนี้นะ เขาก็รู้สึกว่าเขาทำแล้ว มันต้องเสร็จแล้ว เขาถึงต้องมีคำถามว่าเสร็จหรือยัง และเขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำหลายๆ เทค”
เรามีดุเขาบ้างไหม ?
“ดุ แพทดุมาก นี่ขนาดแพทดุแล้วนะ คือแพทนี่คืออำนาจมืดในบ้านเลย ทุกคนจะรักหลาน ไม่ค่อยดุหลาน จะสปอย เพราะเขารู้สึกว่าแม่มันดุอยู่แล้ว และทุกคนก็ไม่อยากดุซ้ำ เพราะเวลาดุแพทเอาจริง ถ้าตีแล้วไม่ร้อง แพทจะไม่ตีนะคะ เพราะมันจะกลายเป็นเหมือนเล่นต่อสู้ เขาจะไม่เก็ท แต่ถ้าตีแล้วร้อง แล้วจบ แล้วมานั่งอธิบายว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ก่อนจะตีแพทจะคุยกับเขาเยอะมาก จนเขาท้าทายจริงๆ เราถึงจะตี หรือบางทีถ้าแพทไม่ตีก็จะไม่คุยกันเลย แยกห้อง เรซออกไปข้างนอกห้องเลย เด็กแบบนี้แม่คุยไม่รู้เรื่อง ต้องสักพักอ่ะ เขาถึงจะยอมเบาลง คนนี้คือขี้เก๊กมาก เขาจะเอาชนะแพทจนรู้สึกว่าเอาชนะแพทไม่ได้แล้วจริงๆ เขาถึงจะหยุดแล้วเบาลง แล้วถึงจะยอมมาขอโทษ”
นิสัยเขาเหมือนใคร ?
“เหมือนแพท อันนี้ยอมรับเลยว่าถอดแพทมาทุกอย่าง จนบางทีเราอยู่กับเขา ทุกคนก็พูดว่าแพทไม่ต้องโทษใครเลย มันคือพันธุกรรมและดีเอ็นเอของยู 80 เปอร์เซ็นต์ เพราะถ้าถามถึงพ่อเขา พ่อเขาซอฟกว่านี้ค่ะ เขาจะซอฟและไม่ค่อยพูด แต่จะมีความเป็นตัวของตัวเองมาก แต่พ่อเขาเป็นคนดื้อเงียบ ถ้าไม่ทำจะไม่โวยวาย แต่จะไม่ทำเลย แต่กับเรซนี่โอ้โห… ส่วนผสมที่ลงตัวเป๊ะ”
หนักใจไหม ลูกชายเราหล่อขึ้นทุกวัน ?
“หล่อเหรอ แพทว่าตอนเด็กๆ (หัวเราะ) เหรอ ยังกังวลๆ เพราะแพทรู้สึกว่าตอนเด็กๆ เขาจะอ้วนกว่านี้นะ แต่ตอนนี้ตัสเขายืดขึ้น ทุกคนก็บอกแต่อาจจะเพราะเราอยู่ด้วยกันทุกวันมั้งคะ เลยเฉยๆ ไม่ชินกับการเปลี่ยนแปลง แค่รู้สึกว่าอยากให้ลูกอ้วนกว่านี้หน่อยหนึ่ง”
มีสาวๆ มาจีบบ้างหรือยัง ?
“(เรซซิ่ง ส่ายหัว) ไม่มี แม่ห้ามแน่นอนค่ะ ไม่มีเนอะ มีแต่เพื่อน”
เรื่องโอ๊ตเป็นยังไงบ้าง ?
“ไม่มีอะไรเลยค่ะ คือแพทกับพี่โอ๊ตเนี่ยเราทำงานด้วยกัน แล้วคือคนก็จิ้นเยอะ ช่วงหลังๆ ก็หนักหน่วงขึ้น แต่เราอ่ะแฮปปี้ แฮปปี้หมายถึงว่าเราชอบที่เราทำงานออกมาแล้วคนชอบ เอ็มวีนี่ก็เป็นโปรเจกต์ของตัวที่เราเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ เป็นโปรเจกต์หนึ่งในนั้น ซึ่งมันก็จะมี to be continue อีก มันไม่ได้มาแค่ตัวเดียวอยู่แล้ว ตัวเเรกเนี่ยเป็นตัวเปิด ซึ่งพี่โอ๊ตเขาตั้งใจจะวางให้ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์พอดี แล้วด้วยเนื้อเรื่องมันน่ารักและคนก็ชอบ บวกกับมันออนพร้อมกับหมีพาซิ่งซีซั่น 3 ซึ่งเราได้เดินทางไปเกาหลี ได้ไปใช้ชีวิตกันอยู่สามสี่คน ซึ่งก็เลยทำให้คนยิ่งชอบยิ่งติดตาม”
รู้สึกหวั่นไหวไหม ?
“มี ก็มีคุยกันแหละ เพราะว่าอยู่กันมาสักพักแล้วคนก็จิ้น ต่างคนก็ต่างโสดใช่ไหม มันก็เลยมีบ้าง เราชอบเเซวกันด้วยแหละ แบบจีบเเพทเหรอ ก็แซวกันแบบนี้จนมีวันหนึ่งแพทถามว่าจีบแพทหรือเปล่าพี่โอ๊ต พี่โอ๊ตเลยบอกว่าแพทเป็นอะไรอ่ะ ก็เลยเป็นเหมือนการคุยกันว่าความรู้สึกดีๆ ของเรามันมีแหละ แพทไม่ใช่คนไม่น่ารักเลยนะ แต่คือเราสองคนมองเหมือนกันพอดีเป๊ะเลยว่าเป็นแบบนี้ดีแล้ว ถ้าสมมติเราขยับกันไปมากกว่านี้ แล้วมันเกินตรงนี้ แล้ววันหนึ่งมันไปกันไม่รอด การกลับมาทำงานกันอีกไม่รู้ว่ามันจะได้ไหม หรือมันจะต้องยังไง เพราะอยู่วงการเดียวกัน พรีเซนเตอร์แบรนด์เดียวกัน เพราะฉะนั้นมันควรจะอยู่เเค่นี้เเละกำลังกลมกล่อม แล้วแพทก็เห็นด้วยแล้วพี่โอ๊ตก็เห็นด้วยว่า พี่อยากเป็นพี่ของแพท เป็นลุงของเรซ แบบนี้ดีกว่า”
มันมากกว่าเพื่อน ?
“มันสนิทอ่ะค่ะ เหมือนเป็นคนในครอบครัว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอย่างอื่นนะ เเต่เป็นคนในครอบครัวที่เราก็สนิทกัน มีอะไรเราก็คุยกัน”
ถ้าความผูกพันยิ่งเพิ่มแล้วจะเป็นยังไง ?
“คือ ณ ตอนนี้อย่างที่บอกว่ามีการคุยกันเรียบร้อยเเล้วว่ามันคงไม่เพิ่มไปกว่านี้ เราทั้งคู่มองว่าถ้ามันเพิ่มไปกว่านี้ เอาง่ายๆ ถ้ามันเกิดจุ่มกันขึ้นมาจริงๆ แล้ววันหนึ่งมันเกิดไม่จุ่มกันเเล้ว เเล้วเราจะมองหน้ากันยังไง”
พอเคลียร์กันวันนั้นความที่ว่าเขาจีบเรามันหมดไปเลยไหม ?
“มันก็หมด คือมันก็เห็นตรงกันว่า ก็จริงนะ ไอ้ความรู้สึกดีๆ อย่างที่บอกมันก็คนมันอยู่ด้วยกันอ่ะเนอะ แล้วโสดทั้งคู่ เเล้วพี่โอ๊ตเขาก็ดูเเลเราดี ดูเเลลูกเราดี มันก็มีแอบคิดบ้างแหละว่าถ้าได้โอ๊ตเราก็คงสบายเหมือนกันเนอะ”
แต่บางข่าวก็บอกแอบคบกันไปแล้ว ?
“ไม่มี ไม่มีแอบคบใดๆ คือพี่โอ๊ตไม่เคยชวนไปไหนนอกรอบใดๆ ซึ่งก็งงมากว่าคนแอบเห็นอะไรต่างๆ นานา โอ๊ตพาแพทไปอะไรแบบนี้ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่คุณจะสังเกตได้ว่าถ้าแพทไปไหนจริงๆ จะต้องมีลูก แต่วันนั้นที่คุณเห็นไม่ใช่แพทแน่นอน เพราะถ้าเป็นแพทต้องมีลูก”
ด้วยความที่ประจวบเหมาะกับที่เราโพสต์ แพ้เป็นพระชนะเป็นพี่น้องคนก็เลยมองว่า เป็นการสื่อถึงตัวเขาหรือเปล่า ?
“จริงๆ เป็นแคปชั่นที่วันๆ เราก็หาในกูเกิ้ล ได้อะไรมาก็โพสต์ไม่ได้เกี่ยวกับพี่โอ๊ตเลย แพทกับพี่โอ๊ตเราเคลียร์กันลงตัว ว่าอยู่ให้น้องปอกลอกแบบนี้ไปเรื่อยๆ นะ”
ถ้าวันหนึ่งเขามีแฟน ใจเราจะไปแป้วไหม ?
“เราก็จะกลัวว่าเขาจะเปย์แฟนเขาแล้วไม่เปย์เรา แต่ถ้าเขายังบริหารได้เราก็แฮปปี้นะ (ยิ้ม)”
เขาไม่มาบอกไหมว่าคุยกับผู้หญิงคนไหน ?
“ไม่มีค่ะ”
ณ วันนี้ยืนยันว่าเป็นเพื่อน ?
“เป็นเพื่อน พี่น้องกันดีที่สุด ดีกว่าเชื่อแพทเถอะ”
แรงเชียร์จากคนรอบข้างไม่มีผลเหรอ ?
“มันเลยไปแล้ว เพราะแรงเชียร์นี่แหละ เราถึงมานั่งคุยกัน ไม่ใช่ว่าไม่มีผลนะคะ เป็นเพราะที่คนเชียร์ด้วย ตัวเราด้วย และอะไรหลายหลายอย่าง เราเลยมานั่งคุยกัน จนถึงบทสรุปที่เรามานั่งคุยกัน ความจริงความรู้สึกของเรา ไปไม่ถึงกันทั้งคู่อยู่แล้ว เพียงแต่แรงเชียร์นี่แหละ หรือแบบว่าเอ๊ะหรือจะลอง แต่สุดท้ายพอมานั่งคุยกันเราถึงรู้ว่า ไปไม่ถึงจุดนั้นแน่นอน”
เปิดใจคุยกันนานหรือยัง ?
“เพิ่งคุยกันได้ไม่นานว่ามันไปไม่ถึงจุดนั้นแน่นอน”
แสดงว่ามีคนเห็นเรากับพี่โอ๊ตไปไหนด้วยกัน ?
“เรื่องเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้คุณบูม สุภาพร เขาพยายามบีบคั้นถามเราว่าไปเอ็มบาสซี่มาใช่ไหม แพทก็บอกว่าไม่ได้ไป บูมก็บอกว่าต้องมีใครโกหก บอกมาดีๆ ว่าไปดูหนังเรื่องอะไร แพทก็ยืนยันว่าไม่ได้ไป เราก็เลยถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมบูมถึงมาถามกับเรา”
“เรื่องของเรื่องเกิดจากว่ามีคนเห็น แล้วเขาคิดว่าเป็นเรา ก็มาถามบูมว่าตกลงแพทกับพี่โอ๊ตคบกันใช่ไหม ซึ่งบูมเป็นคนเดียวที่จะเข้าถึงตัวแพทได้ เพราะเราต้องเจอกัน 5 วัน บูมก็เลยมาถามเรา แพทก็บอกว่าสุดท้ายถ้าเธอไม่เชื่อฉัน เดี๋ยวจะทักไปถามคุณโอ๊ตให้ แพทก็ทักไปถามคุณโอ๊ตเขาบอกว่าไม่ได้ไป ซึ่งคนนั้นก็ไม่ใช่คุณโอ๊ตอีก แพทบอกว่าเอาดีๆ คุณโอ๊ตก็บอกว่าไม่ชอบดูหนังโรงที่คนเยอะ เขาไม่ชอบเป็นเป้าสายตา ชอบดูหนังในบ้านมากกว่า (ยิ้ม) เราก็เลยส่งไปให้บูมดูว่าเคลียร์นะ เราไม่ได้ไปนะ และช่วยไปบอกกับหลายคนที่เข้าใจผิดด้วย”
เบนซ์ เรซซิ่ง อดีตคนรักเราก็มีการโพสต์ข้อความลงโซเชียลด้วย ?
“อย่าโยงนะ อันนี้ไม่เกี่ยวกันเลย พี่เบนซ์ไม่ใช่คนแบบนั้นและแพทกับพี่เบนซ์ไม่เคยคุยกันเรื่องอื่นแล้ว เราคุยกันแค่เรื่องลูก”
ความสัมพันธ์ของแพทกับเบนซ์เรียกว่าจบบริบูรณ์ ?
“จบบริบูรณ์แน่นอน”
ชัวร์แล้วใช่ไหม ?
“ไม่ต้องเช็ก ชัวร์แล้ว คือเราสองคน เลือกที่จะไม่พูดกันแบบนี้มาตั้งแต่แรก เชื่อแพทเถอะว่าคนที่อยู่ในสถานะอย่างแพทมันวัดได้อยู่แล้ว เรื่องไม่ได้เกิดแค่ 3 วัน หรือ 2 อาทิตย์ แบบว่าเดี๋ยวก็รีเทิร์นเพิ่งเลิกกันแค่สองเดือน แต่นี่ 2 ปีกว่า จะ 3 ปีแล้ว ที่เราไม่ได้ไปต่อด้วยกัน เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ เราไม่เคยนอนด้วยกัน ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันด้วยซ้ำ ลูกยังแยกกันไปรับ”
แต่จังหวะดูเหมาะเจาะไปหมด ?
“นี่แหละ จนเขาต้องบอกว่าแคปชั่นอย่าลงบ่อย แม่ด่าเห็นไหม (หัวเราะ) คือเขาเป็นพวกแคปชั่นเหมือนกัน บางทีเขาไปได้ยินจากเพื่อนในแก๊ง แล้วอยากลงบ้าง พอลงก็แม่ด่า”
ที่ความสัมพันธ์ของเราจบบริบูรณ์ เป็นเพราะเขามีคนใหม่แล้วใช่ไหม ?
“ยังไม่ทราบค่ะ คือแพทไม่รู้ อย่างที่บอกว่าเราไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ แต่ที่บอกว่าจบบริบูรณ์ คือ แพทก็รอมา 2 ปี 6 เดือนแล้วนะ แพทคิดว่ามันก็ควรสิ้นสุดการรอแล้ว คำตอบมันชัด บางคนอาจจะเลือกที่จะพูด แต่การพูดสำหรับบางคู่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีเสมอไป บางทีเวลาจะทำให้เรารู้เอง”
“นักข่าวอาจจะไม่ได้รู้จักเนเจอร์พื้นฐานของพี่เบนซ์ดี ทุกคนอาจจะคาดหวังว่าการรอคำตอบให้มันชัดเจนมันจะดีกว่า แต่แพทอยู่กับเขามา แพทรู้ไลฟ์สไตล์เขาว่าเขาเป็นคนไม่ชอบพูด แต่ชอบอย่างนี้ ให้ทุกอย่างมันเป็นอย่างนี้ ให้เราคิดเอง เขาคิดว่าการทิ้งเวลาแบบนี้ทุกคนน่าจะเข้าใจตรงกันแล้วนะว่ามันบริบูรณ์แล้ว เพราะถ้ามันไม่บริบูรณ์มันจะต้องมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปกว่านี้”
เราซีเรียสไหมเพราะพอมีอะไรคนก็จะโยงมาที่เรา ?
“ไม่ซีเรียส ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะโยง บางทีเรายังรู้สึกเลยว่าทำไมจังหวะมันถึงได้ประจวบกันหลายๆ อย่าง แต่แพทจะบอกว่าพี่เบนซ์เขาไม่ทำอะไรอย่างนี้”
มีโอกาสได้เจอกันบ้างไหม ?
“เมื่อวานก็เพิ่งเจอกัน แต่ก็แยกกันไป อย่างแพทไม่ว่างไปรับแพทก็ให้เขาไปรับ เวลาเขาไปรับเขาก็จะแยกไปเลี้ยงของเขา ซึ่งเราไม่ได้ไปจอยตรงนั้นด้วย แต่เราจะมาเจอกันตอนที่เขามาส่งลูก แล้วก็มีการพูดคุยกัน ซึ่งเหมือนเพื่อนเลย แล้วเราก็คุยกันแต่เรื่องลูก เราจะไม่ก้าวก่ายเรื่องอื่นๆ กัน”
ความรู้สึกมันหมดแล้ว ?
“แพทคิดว่านะคะ ถ้าถามแพท ณ ตอนนี้มันถูกเปลี่ยนไปหมดแล้ว ด้วยระยะเวลามันก็เลยคงเหลือไว้เป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน ยังเจอหน้ากันได้ แล้วก็ทำหน้าที่ของพ่อและแม่ สุดท้ายแล้วแพทว่ามันดีมาก มันอาจจะเป็นจังหวะชีวิตในช่วงตอนนั้น ถามว่าทำไมเราถึงกลับมาคุยกันเป็นเพื่อนได้ เราแพทกับพี่เบนซ์ไม่เคยทะเลาะกันวันที่เราต้องแยกจากกัน มันมีเหตุไม่ได้คาดฝัน เราไม่ได้มีคนอื่น แต่มันมีเหตุให้เราต้องแยกกัน แล้วมันทำให้เราสองคนกลับมานั่งคิดว่าโอเคอยู่กันแบบนี้ดีกว่า”
เรซซิ่งก็ไม่ได้ถาม ?
“ไม่ได้ถามค่ะ เรซซิ่งเป็นเด็กที่อยู่เป็นมากๆ อยู่กับแม่ก็รักแม่ อยู่กับพ่อก็รักพ่อ อยู่กับย่าก็รักย่า อ้อนทุกคน แพทว่าต้องรอโต ตอนนี้แพทคิดว่าเขาเข้าใจว่าเดี๋ยวจะมีวันที่ป๊าไปรับแล้วเขาจะได้อยู่กับป๊ากับคุณย่า แล้วป๊าก็จะพามาส่งแม่ แล้วเขาก็แยกย้าย เขาไม่มีมานั่งถามเลย 3 ขวบรู้เรื่องแล้วนะคะ เขาไม่เคยกลับมานั่งถามแพทว่าทำไมป๊าไม่อยู่ มีแต่บอกว่าป๊ากลับได้แล้ว ถามว่าจะนอนกับใคร จะนอนกับแม่ ส่วนป๊าให้มารับแล้วพาไปเซเว่น พอกลับก็คือกลับ