เปิดใจ “ธนะ ฉันธนะ” พระเอกดาวรุ่ง ช่อง 3 หล่อออร่าพุ่งจากละคร “ดั่งดวงหฤทัย” และ “สิงหะ นาคะ“

0
1057

กลายเป็นหนุ่มฮอตที่ใครๆ ก็พูดถึง สำหรับธนะฉันธนะ กฤชกาญจนพันธ์หรือ ราชิด ราชองครักษ์ของ เจ้าหลวงรังสิมันตรัตน์ (ติ๊กเจษฎาภรณ์ ) จากละครเรื่องดั่งดวงหฤทัยซึ่งออกอากาศ กับบทบาทพระเอกเต็มตัวในละครเรื่องสิงหะ นาคทางช่อง 3 ด้วยความหล่อออร่าพุ่ง วันนี้เราจึงจะพาไปทำความรู้จักผู้ชายคนนี้ให้ยากยิ่งขึ้น

ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นหนุ่มฮอต เพราะทีละคร 2 เรื่อง ดั่งดวงหฤทัย กับ สิงหะ นาคะ ออนแอร์พร้อมกัน

เป็นจังหวะมากกว่าครับ แต่ผมเองก็แฮปปี้นะ ดีใจที่ผลงานที่เราตั้งใจแสดงออกอากาศให้แฟนๆ ช่อง 3 ได้ชมกันแบบแน่นๆ ออนแอร์พร้อมทั้ง 2 เรื่อง สิงหะ นาคะ ทุกวันจันทร์ศุกร์ เวลา 19.00 . และ ดั่งดวงหฤทัย ทุกวันพุธพฤหัสบดี เวลา 20.20 . คนดูจะได้เห็นผมในบทบาทตัวละครที่มีคาแร็กเตอร์แตกต่างกันถึง 2 ตัว มันเป็นอะไรที่ท้าทาย และลุ้นมากๆ ครับ ว่าเค้าจะอินมั้ย ดูแล้วจะเชื่อ หรือลบภาพตัวละครอีกตัวได้รึเปล่า รวมๆ แฟนให้การตอบรับค่อนข้างดีครับ หายเหนื่อยเลย

พูดถึง สิงหะ นาคะ หน่อย รับบทอะไร ยากง่ายยังไงบ้าง ประทับใจอะไรบ้าง?

สิงหะ นาคะ ถือเป็นละครเรื่องแรกในชีวิตของผมเลยครับ เรื่องแรกก็เจองานหินเลย บู๊แอ็คชั่นสนั่นจอ ในเรื่องผมจะรับบทเป็นเป็นสิงหะเป็นคนอารมณ์ดี สนุกสนาน ขี้เล่น และมีพลังพิเศษ สามารถควบคุมไฟได้ ซึ่งความยากก็อยู่ตรงนี้แหละ เพราะนอกจากบู๊แล้วยังมีเรื่องของ CG ด้วย ก็ต้องมาช่วยกันคิด และออกแบบท่าทางการปล่อยพลัง รวมถึงต้องฟิตร่างกาย ซ้อมคิวบู๊ ให้พร้อมสำหรับการทำงานตลอดเวลา อีกทั้งเรื่องนี้ บทของสิงหะก็มีฉากอารมณ์เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียพ่อแม่, เพื่อน หรืออาจารย์ที่เลี้ยงดูตัวเองมาตั้งแต่เด็ก แล้วยังจะมีปัญหากับเพื่อนรักอย่างนาคะ ที่แสดงโดยพี่แชมป์ธนาทิป เพราะรักผู้หญิงคนเดียวกัน เรียกได้ว่า ครบรสครับ มีทั้งบู๊แอ๊คชั่น ดราม่า โรแมนติก คอมาดี้ เปิดมาเรื่องแรกเรื่องเดียว คือครบเลย ผมว่าตัวละครสิงหะ ทำให้ผมได้เรียนรู้การแสดงในมุมต่างๆ เยอะมากๆ ครับ


ในละคร
สิงหะ นาคะ ต้องถอดเสื้อโชว์หุ่นบ่อยๆ เขินมั้ย มีวิธีดูแลตัวเองยังไง?

แรกๆ ก็เขินนะครับ แต่พอนานๆ ไปก็เริ่มชิน (หัวเราะ) คือ ด้วยบทบาทการแสดงด้วยละ ที่เราต้องฝึกวิชา ต้องบู๊ ต้องโชว์ความแข็งแรง ซึ่งในจุดนี้มันทำให้เราไปโฟกัสกับเรื่องอื่นมากกว่า ทั้งในเรื่องของการแสดง และการดูแลตัวเองฟิตหุ่น ผมเน้นออกกำลังกายเป็นหลัก และคุมอาหารไปพร้อมๆ กันครับ

แล้วละคร ดั่งดวงหฤทัย  ยากง่ายยังไง

เรื่องนี้ ผมรับบทเป็น องครักษ์ราชิด ครับ  ราชิดเป็นราชองครักษ์คนสนิทของเจ้าหลวงรังสิมันต์ ที่แสดงโดย พี่ติ๊กเจษฎาภรณ์ ราชิดจะเป็นคนเงียบๆ สุขุม ไม่ค่อยพูด ต่างจากตัวละครสิงหะและตัวจริงของผมอย่างสิ้นเชิง (หัวเราะ) เรียกว่าเป็นบทที่ค่อนข้างไกลตัวและยากเลยละ ต้องปรับตัวค่อนข้างเยอะ เป็นราชองครักษ์ ต้องนิ่งๆ เท่ๆ และมีความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการขี่ม้า และการต่อสู้ ก็เลยต้องทำการบ้านหนักนิดนึง มีไปเรียนขี่ม้าอย่างจริงจัง เพราะราชองครักษ์ ไม่ใช่แค่ขี่ม้าได้ แต่ต้องขี่ม้าเก่ง ดังนั้นท่าทางต้องได้ อินเนอร์และความมั่นใจต้องมี แล้วก็จะมีเรียนคิวบู๊ซึ่งในเรื่องนี้จะเป็นการต่อสู้ด้วยดาบ ก็ต้องเรียนเพิ่มครับ เพื่อให้สวมบทบาทเป็นตัวละครได้ให้มากที่สุด

หลังจากละครออนแอร์ทั้ง 2 เรื่อง ชีวิตเปลี่ยนมั้ย เพื่อนๆ คนรอบข้าง มีฟีดแบ็คยัง ไปไหนมีคนจำได้มั้ย?

เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ผมและหลายๆ คนก็น่าจะทำ Social Distancing อยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ ก็เลยไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันเท่าไหร่ จะมีที่มองๆ ยิ้มๆ เหมือนจำได้ เวลาที่ออกไปซื้อของบ้างนิดๆ หน่อยๆ ไม่เหมือนใน Social Media ต่างๆ อย่างใน instagram ก็จะมีแฟนๆ เข้ามาติดตามและเข้ามาทักทายมากขึ้น ตอนนี้แทบไม่มีคนเรียกผมว่าธนะแล้วครับ มีแต่คนเรียกชื่อตัวละครที่ผมเล่น สิงหะ บ้าง องครักษ์ราชิด บ้าง  ส่วนคนใกล้ชิด เพื่อนๆ และญาติๆ ก็เป็นกองเชียร์ที่น่ารักครับ คอยติดตามและเป็นกำลังใจให้ตลอด แต่ขณะเดียวกันก็ชอบมาเนียนถามว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง ก็ต้องใจแข็ง บอกให้รอดูต่อไปเอง ผมไม่เฉลยหรอก เดี๋ยวไม่สนุกครับ(หัวเราะ)”

ช่วงนี้ทุกคนอยู่บ้าน เพราะพิษโควิด-19   ธนะ ทำอะไรบ้าง เหงาหรือเปล่า?

ไม่เหงาครับ ผมถือโอกาสที่ต้องอยู่บ้านลองทำอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยทำครับ เช่น ทำอาหารเมนูใหม่ๆ จัดโปรแกรมออกกำลังกายใหม่ๆ อ่านหนังสือ จัดบ้าน หัดถ่ายรูปบริเวณรอบๆ บ้านเล่นครับ

หลังจากจบละคร 2 เรื่องแล้ว มีละครใหม่ให้ติดตามมั้ย?

สำหรับละครเรื่องต่อไป ตอนนี้ผู้ใหญ่ทางช่องก็น่าจะกำลังดูๆ ให้อยู่ครับ แต่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นเรื่องอะไร หรือเมื่อไหร่ ซึ่งผมเองก็แล้วแต่ทางผู้ใหญ่เห็นสมควรครับ ระหว่างนี้ก็พยายามทำการบ้านด้านการแสดง หาหนัง หาซีรี่ย์มาดูเรียนรู้การแสดงของนักแสดงคนอื่นๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับการทำงานในอนาคต แล้วก็ดูแลตัวเองให้พร้อมสำหรับการทำงานเสมอ ช่วงนี้ว่าง ก็พักผ่อนเยอะๆ ออกกำลังกาย แล้วก็มีทำเบื้องหลังเป็นครีเอททีฟให้รายการ Momon Happy Girl ของพี่โมมนชนก ทาง YouTube Channel Hubsub_official ด้วยครับ ก็สนุกดี ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ท้าทายความสามารถดีครับ

ทำงานเยอะอย่างนี้ ดูแลตัวเองยังไง วันว่างทำอะไร?

ผมดูแลตัวเองด้วยการทานอาหารดีๆ มีประโยชน์ครับ ผมที่ค่อนข้างใส่ใจเรื่องอาหารมาก เพราะอาหารที่ดีก็ส่งผลให้ร่างกายทำงานได้ดีครับ และนักแสดงเป็นอาชีพที่ต้องใช้ร่างกายทำงานทุกวัน สำหรับวันว่าง ผมจะชอบออกกำลังกาย ไปซุปเปอร์มาเก็ตซื้อของมาทำอาหารทานเองที่บ้าน ลองทำเมนูใหม่ๆ ไปเรื่อยๆครับ อร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้างก็ไม่เป็นไร ถือว่าได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ครับ

มีสาวๆ เข้ามาให้กระชุ่มกระชวยบ้างมั้ย ตอนนี้โสดรึเปล่า?

โสดสนิทครับ อาจจะเป็นเพราะผมค่อนข้างจริงจังกับการทำงานด้วยแหละ งานแสดงเป็นงานที่ผมรัก พอได้เข้ามาทำก็อยากจะทำให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ผู้ใหญ่ทุก ท่านไว้วางใจหยิบยื่นโอกาสให้ ก็เลยกลายเป็นว่าไม่ได้โฟกัสที่เรื่องความรักเลย ว่างจากการทำงานก็จะให้เวลากับครอบครัว และก็ตัวเองครับ แต่ถ้าถามว่ามีมองๆ บ้างมั้ย ก็ยอมรับนะว่าก็มีบ้างตามประสาวัยรุ่น แต่จะออกเป็นแนวชื่นชมมากกว่า แต่ถ้าในอนาคตเจอคนที่ใช่ ก็เป็นอีกเรื่องนึงนะ แต่ตอนนี้ยังไม่มีครับ โสดไปยาวๆ เลย

สเปคสาวเป็นยังไง ชอบผู้หญิงแบบไหน?

จริงๆ ผมไม่มีสเปคตายตัวนะ เพราะผมว่าผู้หญิงแต่ละคน มีเสน่ห์ในตัวเองที่แตกต่างกัน ส่วนตัวผมชอบผู้หญิงที่มีความเป็นตัวของตัวเอง มั่นใจ ฉลาด จิตใจดี และมีความเข้าใจคนอื่นๆ เพราะผู้หญิงแบบนี้อยู่ด้วยแล้วสบายใจครับ

มองความรักยังไงบ้าง?

ความรัก คือ การเอาใจใส่ เข้าใจซึ่งกันและกัน พร้อมที่จะเป็นทั้งผู้ที่รับฟังและให้ความเห็นที่ดีต่อกันครับ ซึ่งผมไม่ได้หมายถึง ความรักแค่ในรูปแบบของคนรักนะ ผมหมายรวมถึง ความรักในรูปแบบของครอบครัวด้วย แต่ก่อนที่จะไปรักใคร ผมคิดว่าเราต้องรักตัวเองและครอบครัวให้เป็นจริงๆ ก่อนครับ เราถึงจะสามารถไปเติมเต็มความรักให้คนอื่นได้

ตั้งเป้าหมายงานในวงการไว้ยังไง?
เป้าหมายในวงการของผม คือ การเป็นนักแสดงที่ดี ที่ทุกคนให้การยอมรับ หมายถึงยอมรับในผลงานการแสดง และตัวตนของผม สำหรับงานด้านการแสดง ผมอยากจะเล่นละคร ซีรี่ย์ และภาพยนตร์ที่มีความหลากหลาย อยากเล่นทุกแนว  ไม่ว่าจะเป็นโรแมนติก, คอเมดี้, ดราม่า หรือแอ็คชั่น เพราะเป็นอะไรที่ท้าทายความสามารถ เป็นโอกาสที่จะได้พัฒนาตัวเองด้วยครับ”