“อนันดา” รัก “ณัฐ ณิชชา” ลงตัว ผู้หญิงคนแรกที่มองภาพงานแต่ง

0
600
ยิ่งคบยิ่งหวานจนหลายคนแซวกับทริปพะงันล่าสุดว่าเหมือนซ้อมถ่ายพรีเวดดิ้ง สำหรับคู่ของหนุ่มอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม กับแฟนสาวดีไซน์เนอร์ ณัฐ ณิชชา ที่คบหาดูในกันมาสักระยะแล้ว โดยงานนี้หนุ่มอนันดา ออกมาเปิดใจ พร้อมอัปเดตความรัก ลั่นเป็นผู้หยิงคนแรกที่มองภาพงานแต่งในหัว มีแพลนไว้แล้วแต่รอคุยกันก่อน ส่วนเรื่องลูกยังคงยืนยันคำเดิมว่ายังไม่อยากมี

ถามถึงทริปเกาะพะงัน?
“ก็ดีครับ ช่วงนี้เดินทางผมรู้สึกว่าเงียบสงบดี ไปกับคนที่สำคัญก็ยิ่งดี(ยิ้ม)”
มีรูปสวย ๆ เพียบเลย?
“ครับ ตัวผมเองและคุณแฟน เป็นคนที่อินกับเรื่องของดีไซน์ เรื่องถ่ายรูป ในเวลาว่างเราก็ถ่ายรูปกัน”
คนแซวเหมือนพรีเวดดิ้ง?
“ก็ไม่ขนาดนั้นครับ เราชอบถ่ายรูปก็ถ่ายรูป อาจจะไม่ต้องมีนัยยะอะไรขนาดนั้น ส่วนเรื่องของพรีเวดดิ้งก็อาจจะรู้สึกเขินหน่อย สมมติว่าเราจะทำสไตล์นั้น ผมว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้”
เพื่อน ๆ เชียร์ให้รีบแต่ง?
“ก็เป็นเรื่องที่คุยกันไว้ ทุกอย่างก็มีเวลาของมันอยู่”
วางแผนกันไว้แล้ว?
“เรียกว่าเป็นเป้าหมาย เป็นสิ่งที่เราทั้งคู่คุยกันไว้ เมื่อเราพร้อมก็ค่อยก้าวไปถึงจุดนั้น”
กดดันไหมคนรอดูงานของเราเยอะ?
“ถ้าให้พูดว่างานจะออกมายังไง ผมยังคิดไม่ถึงจุดนั้น เพราะสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งใหม่สำหรับผม แค่รู้สึกดีใจว่าสิ่งที่เราอาจไม่เคยคิดว่าจะมีในชีวิตเรา อาจเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คราวนี้ผมขอเป็นทีละสเต็ปแล้วกัน แต่ว่าจะออกมาแบบไหน ผมนึกไม่ออก ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้”
มีความคิดแว้บ ๆ ว่าอยากมีโมเม้นท์นั้น?
“เปล่าหรอก ผมรู้สึกว่าพอมาถึงจุดนึงในชีวิต คือ การที่เราจะร่วมใช้อนาคตกับใครสักคน เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผม เราก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะเดินคู่กันไปในอนาคต”

อะไรที่ทำให้คิดว่าเขาคือคนที่ใช่แล้ว?
“ก็คงมีหลายนัยยะ คำว่าพร้อมก็เป็นสิ่งที่ผมนิยามคนเดียวไม่ได้ เราต้องคุยกันสองคน คราวนี้ก็มีเรื่องครอบครัว เรื่องของสังคม ที่เราต้องคำนึงถึงด้วย ต้องคุยหมดทุกอย่าง พอเมื่อพร้อมจริง ๆ เราก็จะรู้ว่าเราพร้อม”
ถือเป็นคนแรกเลยไหมที่นึกถึงภาพแต่งงานกับเขา?
“ใช่ครับ คนแรกที่รู้สึกว่ามีภาพนี้ที่จะเกิดขึ้นได้จริง”
อะไรที่ทำให้เขานั่นแหละ ทำให้เรามีภาพนี้?
“ถ้าจะให้มาจำกัดความ ความหมายของความรักแบบสั้น ๆ คม ๆ ให้ทุกคนได้ยิน ก็อาจจะยากไปนิดนึงครับ”
ช่วงนี่เราดูหวานๆ?
“ครับ (ยิ้ม) ไม่รู้จะพูดยังไง ทักมาเราก็เขิน ไม่ค่อยได้มีมุมอย่างนี้เกิดขึ้นกับผม ก็รู้สึกดีครับ”

เราคิดว่าเราหวานไหม โรแมนติกไหม?
“คือเมื่อเราเห็นภาพว่าเราจะเดินหน้าไปใครสักคนเนี่ย มันเกืดความอุ่นใจอะไรบางอย่าง คือผมเชื่อว่าหลายๆคนคงเข้าใจความรู้สึกของผมตอนที่ผมบอกว่าตื่นขึ้นมาแล้วเรารู้สึกเว้งว้าง เหมือนเราไม่รู้ว่าทำอะไรไปเพื่ออะไร ใช้ชีวิตไปเพื่ออะไร และบางทีเราเจอสิ่งเหล่านั้น แล้วมันเหมือนพบทิศทางอะไรบางอย่าง ความเว้งว้างนั้นมันก็หายไป ก็ถูกทดแทนด้วยความรักมั้ง พูดไม่ถูก ประมาณนั้นแหละ”

สำหรับเรานั่นคือการเจอเขา?
“ก็คงใช่ครับ”

เขารู้ไหมว่าเรารู้สึกกีบเขาขนาดนี้?
“ก็หวังว่านะ”

เคยบอกเขาไหม?
“ก็หวังว่านะ ..ต้องรู้สิ “

ปีหน้าลุ้นได้ไหม?
“ก็ไม่รู้ฮะ คือมันทีหลายอย่างที่เราต้องคุยกัน แต่เอาเป็นว่าได้มีการคุยกันถึงเวลา แต่ว่าตรงนี้ผมขออนุญาตยังไม่แชร์เพราะมันเป็นเรื่องข้างใน มันมีหลายอย่างที่เราต้องคุยกันข้างใน”

ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์ใช่ไหม?
“ผมหรอครับ ไม่น่าจะฟ้าแล่บ คือถ้าเป็นสไตล์ผม ผมค่อนข้างชอบทำทุกอย่างค่อนข้างละเอียดครับ เพราะว่ามันคือทั้งชีวิต ยิ่งในสมัยนี้คนเขาแต่งงานกันง่าย เลิกกันง่าย ผมก็รู้สึกว่าจะทั้งทีก็เอาให้มันทั้งชีวิตดีกว่าไหม”

เรื่องลูกยังเหมือนเดิมไหม?
“ก็เหมือนเดิมครับ คือพูดว่ายังไงดี ทั้งผมกับณัฐไม่ได้คิดว่าคำว่าครอบครัวจะต้องมีลูก ซึ่งทางครอบครัวผม ทางครอบครัวเขาค่อนข้างให้พื้นที่สำหรับผมและเขาใช้ชีวิตอย่างที่เราต้องการกัน แต่ในอนาคตผมก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีผมอยู่กับเพื่อน เพื่อนเขาก็แบบอยากเป็นพ่อมากเลยใช่ไหม เห็นเราอยู่เด็กแล้วก็แบบทำไมอินกับเด็กมาก เราก็ไม่รู้ตัว อาจจะอยู่ในจิตใต้สำนึกลึกๆมั้ย แต่ก็ไม่ได้คิด ไม่ได้อยู่ในแผนผม”