ก้อย เล่าโมเมนต์ ตูน เซอร์ไพรส์ขอแต่งเผยได้ฤกษ์แล้ว

0
666

 

เป็นวาเลนไทน์ที่พิเศษที่สุด สำหรับหนุ่ม ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดีแสลม กับ ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ ที่หลังหนุ่มตูรทำเซอร์ไพรส์ขอสาวก้อนแต่งงาน เรียกว่าเรียบง่ายแต่หวานสุดๆ งานนี้พอได้เจอสาสก้อย เจ้าตัวก็เล่าถึงโมเมนต์ดังกล่าว พร้อมอัพเดทความคืบหน้างานแต่งที่ตอนนี้ได้ฤกษ์แล้ว แต่คงต้องรอดูสุาการณ์ในช่วงนี้ก่อน เปรยจ่อเรียนทำอาหารเตรียมตัวเป็นแม่ศรีเรือน

วันนั้นเป็นยังไงบ้าง?
“จริงๆ ก็ช็อกนะคะ มันก็อึ้งๆ เพราะว่าเราก็ไม่มีสัญญาณอะไรใดๆมาก่อนเลยค่ะ แล้วคือก้อยขอสารภาพตามตรงเลย ว่าไม่เคยคิดฝันว่าจะมีโมเม้นท์ขอแต่งงานอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”

วินาทีที่เห็นเขายื่นแหวนแต่งงานมาให้ ตอนนั้นในใจคิดอะไรอยู่?
“ไม่ได้คิดอะไรเลย เพราะว่าในใจตอนนั้นตั้งใจแพลงกิ้งมาก คือวันนั้นเนี่ย โค้ชบอกว่าพี่ตูนพึ่งแพลงกิ้งได้ 5 นาทีครึ่ง ปกติสถิติคือ 5 นาที เขาเลยอยากจะให้ก้อยทำลายสถิติ เราก็เลยโอเค ตั้งใจ มุ่งมั่นกับการแพลงกิ้งมาก ไม่ได้สนใจกับอะไรรอบๆ ข้างเลย”

แล้วพอเราลืมตาแล้วเห็นแหวน เราคิดว่ายังไงตอนแรก?
“มันไม่มีอะไรเข้ามาเลย มันตกใจแล้วก็ช็อก เราก็ตัวแข็งแล้วก็ยังแพลงกิ้งต่อ (หัวเราะ)”

พี่ตูนพูดว่าอะไรตอนให้แหวนแต่งงาน?
“พี่ตูนบอกว่าอยู่ด้วยกันนะ”

ทำเราน้ำตาไหลไหม?
“ตอนนั้นก็พูดอะไรไม่ออก แพลงกิ้งอยู่ จนโค้ชบอกว่า หยุดได้นะ ตอนนั้นก็เหมือนหูดับอ่ะ ไม่ได้ยินอะไร สุดท้ายพอรู้ตัวเราก็ค่อยผ่อนลงมา แบบนี่เรื่องจริงใช่ไหม ยังช็อกๆ อยู่”

ช็อกไปนานไหมก่อนจะตกลง?
“นาน (หัวเราะ) ก็คือร้องไห้แล้วก็หัวเราะ ร้องไห้แล้วก็หัวเราะไปเรื่อยๆ อะไรแบบนี้ จนแบพี่ตูนบอกว่าโอเคนะ”

คิดไหมว่าจะเจอโมเม้นท์แบบนี้จากนักร้องร็อคอย่างพี่ตูน?
“ไม่เคยคิด แล้วก็ไม่เคยมีภาพมาก่อนว่าเขาจะเซอร์ไพรส์เรา คือพี่ตูนเขาเป็นคนที่ไม่เคยเซอน์ไพรส์ก้อยได้ คือเวลาเขาจะทำอะไรให้ก้อยสักอย่างก้อยจะรู้ทั้น ก้อยก็จะมีเซ้นส์ แต่คราวนี้เนียนมาก คือไม่รู้ตัวเลยจริงๆ”

อย่างคลิปเรารู้ตัวไหมว่ามีการถ่ายไว้?
“ไม่ค่ะ คือในยิมมีแต่โค้ชกับผู้ช่วยโค้ช คือปกติเวลาเราไปออกกำลังกายกัน ก็จะมีการถ่ายอยู่แล้วเวลาเราทำ ก็จะเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เอะใจ”

นอกจากประโยคที่พี่ตูนบอกก่อนเราจะตกลง มีอะไรอีกไหม?
“เอ่อ… จำไม่ได้ (หัวเราะ) อยู่ในคลิปที่ก้อยลงไปอ่ะค่ะ คือเราแทบจะไม่ได้พูดดะไรเยอะ ก้อยก็ไม่ได้พูดอะไร ทุกคำพูดมันอยู่ในการ์ดนั้นหมดแล้ว แล้วเราก็ดีใจ”

ได้ถามเขาไหมทำไมต้องเป็นวันที่ 14กุมภาพันธ์?
“ถามค่ะ ก้อยก็เซอร์ไพรส์ เพราะปกติวันวาเลนไทน์เป็นวันที่เราทั้งคู่ไม่ได้ให้ความสำคัญมาก ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไม่ได้ต้องเตรียมดอกมงดอกไม้อะไร สำหรับก้อยกับพี่ตูนวันวาเลนไทน์เป็นเรื่องปกติ เป็นวันธรรมดาวันนึงเลย ที่เขาเลือกวันนี้เพราะว่า เขาอยากทำให้วันที่ก้อยคิดว่าเป็นวันธรรมดากลายเป็นวันพิเศษขึ้นมา คือหลังจากนี้ไปวันที่ 14กุมภาพันธ์ ก้อยก็จะจำได้ว่ามันเคยมีโมเม้นต์อะไรกับเราแล้วมันก็จะกลายเป็นวันสำคัญ”

เหตุผลที่เลือกขอที่ยิม?
“ตอนแรกก็งงนะคะ เพราะตอนแรกตั้งใจจะไปกินข้าวกันต่อบนเรือ ซึ่งโรแมนติกกว่ามาก แต่ก็เลือกที่นี่ไม่รู้ทำไม เหมือนเขาบอกว่าเป็นสถานที่ที่เราได้มีเวลาร่วมกันมีความสุขด้วยกัน เพราะเวลาเราออกกำลังกายด้วยกัน ก้อยจะพูดตลอดว่าก้อยมีความสุข บางทีเราเครียดเราไปเจออะไรจากข้างนอกมา พอมาที่นี่ เวลาที่เราออกกำลังกาย เหมือนเราได้ใช้เวลาร่วมัน 2 คน”

เราวาดฝันไว้บนเรือมากกว่าไหม?
“ไม่ ไม่ได้วาดไว้เลย แค่สงสัย จริงๆแล้วเราก็จะไปตรงนั้นกันต่อ ทำไมถึงเลือกตรงนี้”

แต่หลายๆคนบอกว่ามันไม่ซ้ำกับคนอื่น?
“ก้อยว่าพี่ตูนคงไม่ได้คิดถึงตรงนี้เลย ใครทำอะไรยังไง เขาคงอยากจะทำให้ง่ายที่สุด ธรรมดาที่สุด”

มันกลายเป็นไวรัลไปหมดเลยนะ มีแต่คนทำตาม?
“เราก็ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนสนใจ ในมุมก้อยมันก็ดีนะ ทำให้สาวๆ อยากออกกำลังกาย”

เวลาเห็นสาวๆแพลงกิ้งรอแฟนขอแต่งงานรู้สึกยังไงบ้าง?
“น่ารักๆ ก็ขอบคุณทั้งกำลังใจ ทุกๆ ข้อความทุกๆ ภาพ”

เขาได้ไปเตี๊ยมกับคุณพ่อคุณแม่เรายังไง?
“คุณพ่อคุณแม่ยังไม่รู้เลยค่ะ ไม่มีใครรู้ใดๆเลย”

มีการขออย่างเป็นทางการกันแล้ว?
“กำลังจะมีการขออย่างเป็นทางการค่ะ”

แหวนมีความพิเศษยังไงบ้าง?
“ก้อยไม่รู้เลยค่ะ ก้อยไม่ได้ถามเรื่องแหวนอะไรเลย ก้อยถือว่ามันเป็นโมเม้นท์พิเศษเลยไม่ได้ไปโฟกัสตรงนั้นอ่ะค่ะ”

วันแต่งงานเป็นวันไหน ได้กำหนดวันหรือยัง?
“ตอนนี้มีกฤษ์แล้ว แต่ว่ารอดูสถานการณ์อีกนิดนึง ปีนี้ค่ะ ถ้ามันโอเคขึ้นก็อาจจะไม่นานนี้”

แสดงว่ามีการดูฤกษ์กันไว้ก่อนแล้ว?
“เป็นฝั่งของพี่ตูนค่ะ”

ตอนแรกวางไว้ตอนไหน กลางปีเหรอ?
“เอาไว้ดูสถานการณ์อีกที ไว้บอกทีเดียวดีกว่าค่ะ ไม่อยากบอกไปแล้วต้องมาเลื่อนทีหลัง”

แสดงว่าตอนนี้เริ่มเตรียมงานแล้ว?
“ยังเลยค่ะ (หัวเราะ) ยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย ยังไม่ได้เตรียมชุดเตรียมอะไรใดๆ เลย เพราะพี่ตูนก็อยู่ต่างประเทศ เดี๋ยวกลับมาแล้วค่อยคุยกันดีกว่า”

แล้วงานแต่งในฝันเป็นยังไง?
“ก้อยก็ไม่ได้มีภาพในฝัน แค่อยากให้เป็นงานที่ทุกคนมาแล้วมีความสุข ให้ทุกคนได้รับรู้การเดินทางตลอด 10 ปีที่ผ่านมาของเราสองคน เพราะว่าทุกคนก็เหมือนเป็นส่วนหนึ่ง ทุกคนก็เป็นเหมือนญาติ เหมือนครอบครัว เหมือนพี่น้อง ที่คอยช่วยก้อยกับพี่ตูนมาโดยตลอด”

เตรียมงานทันใช่ไหม?
“ก้อยก็ไม่แน่ใจว่าทันไม่ทัน แต่ไม่อยากจะกดดัน ก็ง่ายๆให้คนมาแล้วมีความสุข แล้วเราก็มีความสุข”

เตรียมตัวสำหรับบทบาทใหม่ในชีวิตยังไงบ้าง?
“ยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย (หัวเราะ) ก้อยแค่คิดว่าอยากจะตื่นมาตอนเช้าแล้วทำกับข้าวให้เขาทาน เหมือนสิ่งที่เขาขอเรามาตลอดว่าอยากให้เราไปเรียนทำอาหาร คือเขาก็บอกเรามาตลอดเวลาไปกินของอร่อยว่าหนูไปเรียนสิ หนูไปเรียนสิ เราก็ทำไมต้องให้ไปเรียนทำอาหารด้วย แต่พอถึงวันนึงเราได้ใช้ชีวิตด้วยกัน ได้ตื่นมาทำอาหารให้เขาก่อนไปทำงาน มันคงจะดี”

เริ่มไปเรียนบ้างหรือยัง?
“เริ่มคิดแล้ว เริ่มคิดแล้วว่าเดี๋ยวจะเริ่ม อาจจะลองจากดูยูทูปทำอะไรง่ายๆ ก่อน”

เรียกว่าพร้อมจะเป็นแม่ศรีเรือนเลย?
“จะพยายามให้ดีที่สุดนะคะ (หัวเราะ)”

แสดงว่ามีคำขอเยอะเหมือนกันสำหรับพี่ตูน?
“เขาก็ไม่ได้ขออะไรมากนะคะ ก้อยว่ามันต้องมีการปรับตัวแหละ การใช้ชีวิตคู่มันต้องมีการปรับตัว เรียนรู้ ก็มันไม่ได้มีแค่เราสองคน อาจจะมีน้องหรือมีอะไร การใช้ชีวิตครอบครัวมันก็จะต่างจากตอนเป็นแฟน”

คนรอบตัวว่ายังไงบ้าง?
“หลายคนบอกว่า ดีใจเหมือนพี่ตูนขอตัวเองเลย มันก็เป็นโมเม้นท์ที่ทุกคนมีความสุขตามไปด้วย ก้อยก็ดีใจ”

พี่ตูนไปทำอะไรที่อังกฤษ?
“พาพ่อแม่ไปเที่ยวค่ะ พาพ่อแม่ไปดูบอล”

ตูนจะมาเป็นคู่ชีวิตเราแล้ว เขาเป็นคนในฝัน คนในอุดมคติเราเลยไหม?
“โห… คำว่าอุดมคติมันก็เป็นเรื่องที่ตอนเด็กๆเราคิดไว้เนอะ พอเราโตขึ้นสัก 30 มันก็ไม่มีภาพอะไรแบบนั้นแล้วอ่ะ ขอแค่คนที่จะอยู่ข้างๆ ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันก็พอแล้ว มันก็ดีที่สุดแล้ว”