“ปอ อรรณพ” เคลียร์ข่าวนักร้องเอวเด้งติดยา ปลงชีวิตหลังโควิดคิดออกจากวงการ

0
227

 

ทำเอานักแสดง นักร้องและพิธีกร “ปอ อรรณพ” ถึงกับงง หลังถูกโยงข่าวเป็นนักร้องเอวเด้งติดยา แถมติดหนี้ค่ายาเสพติด ซึ่งประเด็นนี้เจ้าตัวไม่รอช้า ล่าสุดออกมาเคลียร์ถึงประเด็นดังกล่าวที่เกิดขึ้น ในรายการ โต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรไฮโซสาว ”เอิ๊ก พรหมพร” ที่มาสแตนบายแทน “พี่หนูแหม่ม สุริวิภา” พร้อมเปิดใจเคยคิดออกจากวงการไปทำอาชีพอื่นหลังจากเจอพิษโควิด-19

ได้ฉายานักร้องเอวเด้ง?
ใช่ครับเพราะถ้าเป็นเราเป็นคนชอบเด้ง เราก็ต้องออกกำลังกายฝึกทุกวัน แต่บางทีถ้ามันไม่ได้มันก็จะเกิดการอักเสบเฉียบพลันขึ้นมาได้

จนเป็นข่าวพระเอกเอวพริ้วติดยา?
มันมาได้ยังไงผมก็ยังไม่รู้เลย พอมีคนส่งข่าวอันนึงมาให้ที่อยู่ในติ๊กตอก ที่มันมีคนจั่วหัวว่านักร้องเอวเด้งเอวพริ้วติดยา และทุกคนในคอมเม้นต์ ก็คือเป็นชื่อเพลงผมบ้างเป็นชื่อผมบ้าง เป็นอะไรที่มันจะสื่อสารว่าเป็นผมหมดเลย เพราะอาจจะเป็นภาพที่มันเคยชัดมาก่อน ว่าเราเอวเด้งและคนก็เลยนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ

ตอนเห็นข่าวรู้สึกยังไง?
ตอนแรกเห็นข่าวแล้วรู้สึกขำๆ เพราะคนเอวเด้งมันก็อาจจะมีเยอะแยะ แต่พอเข้าไปอ่านคอมเม้นต์แล้ว แล้วมันมีแต่เราเลยรู้สึกว่ายังไงดีนะ เพราะทุกคนที่เป้าหมายที่เรา เลยรู้สึกว่าเรื่องการติดยามันเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ และมันเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดี เลยเครียดนิดนึง และมีการปรึกษาคนรอบข้างว่าจะทำยังไงดี

และจัดการกับมันยังไงตอนนั้น?
ตอนแรกผมคิดว่าจะต้องดำเนินการตามกฏหมาย คืออยากจะฟ้อง แต่ก็ไม่อยากยุ่งยาก เพราะเดี๋ยวเวลาฟ้องก็ต้องไปขึ้นศาลหาทนายไปเจอตำรวจ มันรู้สึกเสียเวลาชีวิต พอเริ่มมีคนถามเยอะขึ้น ล่าสุดพ่อก็ส่งมาถามว่าข่าวนี้เราหรือใครหรือเปล่าลูก แล้วเค้าอยู่ต่างจังหวัดเค้าไม่ได้อยู่กับเรา เค้าก็เริ่มมีความรู้สึกว่าเราจะฟ้องดีไหม และตอนนี้ก็ยังไม่ถึงดำเนินการแต่มีการคุยกับทนายแล้วว่าเราจะเอายังไงดี เค้าก็บอกว่าเรื่องพวกนี้ฟ้องได้หมดเลยที่เค้าพิมพ์มาเป็นคอมเม้นต์เป็นชื่อเรา แต่ว่าเสียเวลาได้ไหมแค่นั้นเอง ก็เลยอยู่ในช่วงเวลาตัดสินใจ

 

แสดงว่าเราก็ยังไม่ได้โกรธมาก?
คือผมไม่ได้โกรธแต่ว่าผมกลัวคนเข้าใจผิด เพราะว่าถ้าคุณอ่านไปเค้าก็จะคิดว่าคนนี้แน่เลยคนนี้ใช่แน่เลย และมันอาจจะเป็นภาพจำของเค้าเกี่ยวกับเรา ซึ่งผมก็สงสัยว่าใครเป็นคนเขียน และเวลาคนเขียนบางทีมันไม่ค่อยแฟร์กับคนที่เขาถูกพูดถึงหรือถูกปรับปรำว่าเป็นเรา และผลกระทบมันก็ไม่ได้ตกกับเขาเพราะเค้าไม่ได้เอ่ยชื่อใครเค้าอาจจะไม่ผิดหรือเปล่า และข่าวมันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียซึ่งอยู่ที่เราจะต้องชั่งใจ

หลังโควิดเป็นยังไงบ้าง?
หลังโควิดเราไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เลยเด้งไม่ค่อยได้แล้ว ซึ่งตอนออกกำลังกายแล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยไหว และบางทีเราก็สงสัยว่าทำไมเพลงของเราต้องเป็นขนาดนี้ ทำไมเราไม่อิ่มร้องดีๆ เหมือนมันเหนื่อยมากและเหมือนกับการเริ่มต้นใหม่ บางทีเวลาไปโชว์มันเกิดความกดดันว่าคนดูจะสนุกไหม

เคยคิดจะเปลี่ยนอาชีพไหม?
ก็คิดนะครับ แต่ว่าไม่รู้จะทำอะไรดีเราก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เราชอบด้วย และเราทำมาก็มีความสุขกับมัน ก็ไม่คิดที่จะทิ้งมัน แต่อาจจะเป็นแค่ช่วงหมดแพชชั่น และต้องหากำลังใจเพิ่มพัฒนาร่างกาย แต่ด้วยความที่เราเป็นฟรีแลนเป็นอิสระเป็นอาชีพที่อยู่กับงานในแต่ละวันที่เค้าจะจ้างมา มันก็เลยรู้สึกว่าถ้าหลังโควิดไปมันไม่มีแล้ว และถ้าคนจำเราไม่ได้จะทำยังไง อยู่กับบ้านไลฟ์สดไปมันก็ไม่ใช่เรื่อง มันก็เป็นช่วงที่คิดว่าหมดแพชชั่นเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้ก็เริ่มโอเคขึ้นแล้วครับ